ก่อนอื่นผมต้องขอชื่นชม ธนาคารออมสิน ที่ผู้บริหารองค์กรได้ออกมาเสนอวิธีการกัไขปัญหาหนี้ของบุคลากรของประเทศที่มีอาชีพ ครู ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ โดยใช้วิธีการจัดตั้งกองทุน ซึ่งจากการติดตามข่าวสรุปได้ดังนี้
1. จัดตั้งกองทุนช่วยเหลือครู ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นำร่องโดยเป็นกองทุน เป็นนิติบุคคล
2. กองทุนนี้จะรับโอนทั้งหนี้ดีมาเพื่อการบริหารจัดการ ให้กู้เพิ่ม หาเงินทุนเพิ่มให้ ส่งเสริมความเข้มแข็ง ต่อยอดไปสู่การสร้างงาน สร้างอาชีพที่ยั่งยืนและมั่นคง
3. กองทุนนี้จะรับโอนทั้งหนี้หนี้เสียเข้ามาบริหาร มีการปรับโครงสร้างหนี้ ยืดหนี้ พักชำระหนี้แบบที่ยืดหยุ่น ไม่เอาแบบธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบที่ใช้แนวคิดเชิงพาณิชย์ เพื่อให้เกิดความคล่องตัว สามารถดำเนินการได้อย่างคล่องตัว มีความรวดเร็ว มีความยืดหยุ่นไปกับปัญหา กลุ่มของปัญหาของลูกหนี้ แต่ยังอยู่ในกรอบวินัยทางการเงิน สัญญาเป็นสัญญา เป็นหนี้ต้องใช้หนี้
4. กองทุนทำหน้าที่เป็นหมอรักษาหนี้ หมอผ่าตัดหนี้ เป็นที่ปรึกษาด้านสุขภาพทางการเงินของบรรดา ครู ข้าราชการ ทหาร ตำรวจที่ยังไม่ออกมาจากวังวน "คนเป็นหนี้ที่หาทางออกไม่เจอ"
5. ในอนาคตเมื่อกองทุนนี้มีทุนมากเพียงพอแล้ว ก็ให้ต่อยอดพัฒนากลายเป็นธนาคารครู เพื่อแก้ปัญหาได้ตรงใจ ตรงกลุ่ม
6. กำหนดให้กองทุนนี้เป็นนิติบุคคลเฉพาะกิจ มูลค่าประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ทำหน้าที่ แปลงสินทรัพย์อันได้แก่บัญชีสินเชื่อของ ครู ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ให้เป็นหลักทรัพย์แล้วเอาหลักทรัพย์นี้ไปออกขายนักลงทุน เมื่อได้เงินมาก็เอาไปใช้ซื้อหนี้จากสหกรณ์ จากสถาบันการเงินเจ้าหนี้ เพื่อดึงลูกหนี้กลุ่มนี้เข้ามาอยู่ในกองทุนแล้วจัดการบริหาร มีการจัดทำ Rating เหมือนๆ กับกองทุนแบบอื่นๆ
ในส่วนกองทุนตัวนี้ มีความน่าสนใจ เพราะเป็นกลุ่ม ลูกหนี้ครู ทหาร ตำรวจ และสวัสดิการ เป็นกลุ่มที่มีเงินเดือนประจำ มีองค์กรสังกัด มีการหักเงินเดือนนำส่งชำระหนี้ เป็นอาชีพที่ประเทศจะต้องมี เพราะผลงานของเขาเหล่านั้นคือความรู้ ความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ที่ผ่านมายอดหนี้เสียก็ไม่สูง คนที่เข้ามาลงทุนก็จะได้ผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยที่ตกลงกัน เชื่อว่า จะไม่ทำให้เกิดปัญหาแบบสหรัฐอเมริกาที่เอาลูกหนี้ผ่อนบ้านมามัดรวมกันทำซีเคียวรีไทเซชั่นแน่ คำกล่าวของท่านผู้บริหารธนาคาร.....ผมขอเอาใจช่วยและสนับสนุนครับ
สุรพล โอภาสเสถียร
ผู้จัดการใหญ่
บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด
ข่าวเด่น