หลังจากบริษัท "ทีวีไดเร็ค" ออกมาประกาศแผนธุรกิจระยะยาว 5 ปี (2557-2561) ด้วยการเน้นขยายตลาดในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของตลาดต่างประเทศ จะเน้นไปที่ตลาดอินโดจีนอย่างจริงจัง ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท ทีวีไดเร็ค อินโดไชน่า จำกัด ซึ่งทีวีไดเร็คถือหุ้น 99.98% ล่าสุดได้จับมือกับ บริษัท โมโม่ดอทคอม อินคอร์ปอร์เรชั่น จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจการตลาดแบบตรงด้วยการขายสินค้าผ่านช่องทางต่างๆ อันดับ 1ของประเทศไต้หวัน เพื่อร่วมกันดำเนินธุรกิจโฮมช้อปปิ้งในประเทศไทย
จากการที่บริษัท โมโม่ดอทคอม อินคอร์ปอเรชั่น มีความชำนาญในการดำเนินธุรกิจการตลาดแบบตรงโดยขายสินค้าผ่านสื่อต่างๆ เช่น TV Home Shopping, E-commerce และ Catalogue ทั้งในประเทศไต้หวัน และประเทศจีน ส่งผลให้บริษัท ทีวีไดเร็ค มีความมั่นใจว่าการจับมือร่วมกันในครั้งนี้ ด้วยการตั้งบริษัท ทีวีดี ช้อปปิ้ง จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจโฮมช้อปปิ้งผ่านช่อง TVD Shop ในอัตราส่วนการถือหุ้นทีวีไดเร็ค 65% และ โมโม่ 35% จะประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจอย่างแน่นอน
นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด(มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านช่องทางการตลาดที่หลากหลาย กล่าวว่า การเข้าร่วมทุนในครั้งนี้ TVD Shop จะได้รับผลประโยชน์จาก Know-How ในการทำธุรกิจ Home Shopping รวมทั้ง Technology Transfer เพื่อใช้ในรายการสด (LIVE) ที่จะเข้ามาเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจ Home Shopping พร้อมทั้งช่วยต่อยอดการดำเนินธุรกิจทั้งในส่วนของ E-commerce และ Catalogue
นอกจากนี้ จากแนวโน้มของตลาดโฮมช้อปปิ้งในประเทศไทย ที่มีอัตราการเติบโตปีละ 20-30% บริษัท ทีวีไดเร็ค จึงเล็งเห็นโอกาสในการเข้ามาขยายธุรกิจในตลาดดังกล่าว เพราะปัจจุบันตลาดโฮมช้อปปิ้งในประเทศไทยมีมูลค่าเพียง 2,000 ล้านบาท จากการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ 3 ราย คือ โฮมช้อปปิ้ง ช้อปแชนแนล แลโอช้อปปิ้ง จึงเป็นธุรกิจที่มีโอกาสมาก
กลยุทธ์ที่จะนำมาใช้ในการทำตลาดโฮมช้อปปิ้งนับจากนี้ จะเน้นไปที่การเปิดประสบการณ์การช้องปิ้งผ่านหน้าจอโทรทัศน์ให้แตกต่างจากคู่แข่ง ด้วยความคุ้มค่าที่มากกว่าราคาที่คุณพอใจ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดมุมมองใหม่กับสินค้าคุณภาพหลากหลายและข้อเสนอมากมายที่คุณคาดไม่ถึง เพียงเปิดเครื่องรับสัญญาณโทรทัศน์ก็จะพบกับการบริการของช่อง TVD Shop ตลอด 24 ชั่วโมง
พร้อมกันนี้ ยังมีสินค้าที่พร้อมจะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค เพราะ TVD Shop ให้มากกว่าประสบการณ์การช้อปปิ้งเดิมๆ และที่เหนือกว่านั้น TVD Shop ทำให้ลูกค้าช้อปมั่นใจได้ว่าคุ้มชัวร์ ด้วยสินค้ามากกว่า 2,000 รายการ จากทั่วทุกมุมโลก โดยสามารถรับชมช่อง TVD Shop ได้ทาง PSI ช่อง 5, Big4 ช่อง 5. IPM ช่อง 51 52, CTH ช่อง 136 และ MCOT ช่อง 172
หลังจากออกมารุกทำธุรกิจโฮมช้อปปิ้งอย่างจริงจัง บริษัททีวีไดเร็ค มั่นใจว่าปีแรกของการดำเนินธุรกิจดังกล่าว น่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท และจากการที่บริษัทเข้ามาช่วยกระตุ้นตลาดโฮมช้อปปิ้งเป็นรายที่ 4 ของตลาด คาดว่าภายใน 3-4 ปีนับจากนี้ จะสามารถผลักดันให้ตลาดโฮมช้อปปิ้งในประเทศไทยมีมูลค่า 10,000 ล้านบาท จากปัจจุบันมีมูลค่าอยู่ที่ 2,000 ล้านบาทเท่านั้น
นายทรงพล กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจนับจากนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ด้วยการผนึกกำลังกับพันธมิตรทางธุรกิจที่สามารถต่อยอดธุรกิจได้ เพื่อให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่ง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อกิจการกับธุรกิจที่ใกล้เคียงกับบริษัทอีก 2-3 ราย คาดว่าภายใสนสิ้นปีนี้น่าจะได้ข้อสรุป 1 ราย ส่วนอีก 2 รายที่เหลือ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปี 2558
ก่อนหน้าที่จะออกมาประกาศจับมือกับบริษัท โมโม่ดอทคอม อินคอร์ปอเรชั่น นั้น บริษัท ทีวีไดเร็ค ได้ออกมาประกาศแผนเชิงรุกขยายธุรกิจในตลาดต่างประเทศ ด้วยการจัดโครงสร้างบริหารธุรกิจต่างประเทศแยกรายประเทศ ประกอบด้วย มาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา และ ลาว โดยจะมีผู้จัดการประจำภาคพื้น ซึ่งเป็นบุคลากรของทีวีไดเร็คจากไทยไปประจำแต่ละประเทศ เพื่อทำหน้าที่บริหารธุรกิจ เนื่องจากมองเห็นโอกาสและศักยภาพตลาดโฮมช้อปปิ้งในภูมิภาคอาเซียนภายหลังจากเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) ในปี 2558
นายทรงพล กล่าวว่า ตอนนี้ทีวีไดเร็คถือเป็นผู้นำและมีความแข็งแกร่งในตลาดเมืองไทย แต่การทำธุรกิจต้องมีการบริหารความเสี่ยง ซึ่งที่ผ่านมาตลาดเมืองไทยมีความเสี่ยงหลายๆ เรื่อง ทั้งภาวะเศรษฐกิจ เสถียรภาพ การเมือง และ กฎระเบียบต่างๆ การป้องกันความเสี่ยงต้องสร้างสเกลตลาดให้ใหญ่ขึ้น โดยรุกเปิดตลาดในประเทศเหล่านี้ ที่สำคัญต้องเข้าไปบล็อกตลาดให้ได้ก่อนคู่แข่ง
จากเหตุปัจจัยดังกล่าว บริษัท ทีวีไดเร็ค จึงได้ใช้งบลงทุนกว่า 90 ล้านบาท เพื่อเข้าไปขยายธุรกิจในตลาดต่างประเทศ ซึ่งประเทศที่จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ คือ มาเลเซีย เนื่องจาก บริษัท ทีวีไดเร็ค ต้องการปั้นให้มาเลเซีย เป็นฐานสำคัญการขยายตลาดภูมิภาคนี้ เบื้องต้นลงทุนกว่า 50 ล้านบาท ในการขยายสาขาโชว์เคส ปัจจุบันมี 3 สาขา จะเพิ่มอีก 2 สาขาในสิ้นปีนี้
ล่าสุด บริษัท ทีวีไดเร็ค (มาเลเซีย) จำกัด ได้ร่วมมือกับพันธมิตร เทเลคอม มาเลเซีย ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจด้านสื่อสารรายใหญ่ของประเทศมาเลเซีย เปิดตัว "ทีวี ไดเร็ค โชว์เคส" ช่องโฮมช้อปปิ้ง 24 ชั่วโมง (ช่อง 121) ในสถานีโทรทัศน์ HYPP TV เป็นรายแรกในมาเลเซีย การจับมือร่วมกันดังกล่าว ถือเป็นการสร้างแพลตฟอร์มต้นแบบ เพื่อขยายธุรกิจในตลาดอาเซียน
ปัจจัยที่ทำให้ บริษัท ทีวีไดเร็ค เปิดตัวช่องโฮมช้อปปิ้งในประเทศมาเลเซียครั้งนี้ มีอยู่ 3 ปัจจัยหลัก คือ 1.การนำเสนอสินค้าเอสเอ็มอีของประเทศมาเลเซียให้เป็นที่รู้จักของประชาชนในประเทศดังกล่าว และเตรียมส่งออกไปใน Network ของ TVD 2.การนำเสนอสินค้าของ TVD ที่มาจากภูมิภาคอินโดไชน่าและเอเชียให้เข้าสู่ตลาดโฮมช้อปปิ้งในมาเลเซีย และ 3.เพื่อเป็นการยกระดับการครองชีพ หรือ Standard of living ให้ผู้บริโภคได้มีช่องทางและทางเลือกในการช้อปปิ้งมากขึ้นกว่าเดิม
นายทรงพล กล่าวต่อว่า จากศักยภาพของ Telekom Malaysia และ Unifi Internet บริษัท ทีวีไดเร็ค มั่นใจว่าจะทำให้ HYPP TV มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมั่นใจในการลงทุนในประเทศมาเลเซีย รวมไปถึงผู้ซื้อ ผู้บริโภคในมาเลเซีย เพราะมียอดขายอย่างน้อย 2% จากภาคใต้ที่เป็นการสั่งซื้อจากคนมาเลเซีย ซึ่งรูปแบบของธุรกิจดังกล่าวบริษัทสามารถนำเสนอสินค้าของทีวีไดเร็คที่มาจากอินโดจีน และเอเชียให้นำมาจำหน่ายสู่ตลาดโฮมช้อปปิ้งในมาเลเซียได้ เพื่อให้สินค้ามีความหลากหลาย ขณะเดียวกันยังถือเป็นการลดต้นทุนในการบริหารต้นทุนสินค้าให้ต่ำลง โดยในอนาคตบริษัทมีแผนจะจัดทำบัตรสมาชิกเพื่อซื้อสินค้าและสะสมแต้ม ใช้ซื้อสินค้าในกลุ่มประเทศอินโดจีนได้
จากแนวทางการดำเนินธุรกิจดังกล่าว บริษัท ทีวีไดเร็ค ได้วางเป้าหมายอีก 5 ปีข้างหน้าว่า จะมีรายได้จากต่างประเทศอยู่ที่ประมาณ 400-600 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 10-12% ของรายได้รวม ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวคาดว่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท จากปัจจุบันมีรายได้จากต่างประเทศอยู่ที่ประมาณ 60-70 ล้านบาท คิดเป็น 2% ของรายได้รวม ขณะที่ภาพรวมรายได้ในปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 2,500 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมา 15%
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/57 บริษัท ทีวีไดเร็ค คาดว่าจะมีรายได้และกำไรจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1/57 ที่มีกำไรสุทธิ 25.59 ล้านบาท และรายได้กว่า 642.69 ล้านบาท เนื่องจากสินค้าของบริษัทมีความหลากหลายและมีคุณภาพ รวมทั้งมีการบริหารต้นทุนสินค้าที่ดี มีจุดจำหน่ายสินค้าที่ทำให้ลูกค้าได้รับสินค้าได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความหลากหลายในสินค้า
จากการเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจโฮมช้อปปิ้งที่ไม่ได้ขยายตลาดเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น หากผลการเจรจาซื้อกิจการ ที่คาดว่าจะจบดีลได้ 1 บริษัท ภายในสิ้นปีนี้ อาจทำให้ บริษัท ทีวีไดเร็ค ออกมาประกาศปรับเป้าหมายรายได้ เพราะก่อนหน้านี้ได้ประมาณการณ์ไว้ว่า น่าจะมีรายได้สิ้นปีนี้อยู่ที่ประมาณ 2,500-2,700 ล้านบาท หากผลตอบรับดีเกินคาด คาดว่า บริษัท ทีวีไดเร็ค อาจยอมขยับเป้ามาอยู่ที่ 2,700 ล้านบาท ก็เป็นได้
ข่าวเด่น