ภาพรวมธุรกิจในย่านราชประสงค์ช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตลดลง 20-30% เนื่องจากเกิดปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการภายในย่านราชประสงค์ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากอัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าพักตามโรงแรมในย่านราชประสงค์ที่ปรับลดลงเหลือ 30%
อย่างไรก็ดี ภายหลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งขาติ (คสช.)เข้ามาบริหารประเทศ ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศเริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากมีนโยบายต่างๆ เข้ามากระตุ้นภาพรวมเศรษฐกิจ และกำลังซื้อของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นนโยบายการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ หรือการจ่ายเงินรับจำนำข้าวให้กับชาวนา ซึ่งในส่วนของย่านราชประสงค์เองก็ได้รับผลดีจากแนวทางดังกล่าว เห็นได้จากอัตราการเข้าของโรงแรมในย่านที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 40%
นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ กล่าวว่า ช่วงเวลา 1 เดือนที่ คสช.เข้ามาบริหารประเทศจะส่งให้ให้ภาพรวมเศรษฐกิจของไทยปรับตัวดีขึ้น แต่ก็อยากให้ คสช.เร่งสร้างความเชื่อมั่นและสร้างความเข้าใจให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะเดียวกันควรมีการสนับสนุนผ่านมาตรการต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวกลับมาท่องเที่ยวและช้อปปิ้งในประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน เพราะเป็นประเทศที่มีกำลังซื้อสูง
นอกจากนี้ จากการศึกษามูลการจับจ่ายใช้สอยของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ไปช้อปปิ้งในประเทศฮ่องกง พบว่า มีการใช้จ่ายใน 1 วัน มากกว่าการช้อปปิ้งในประเทศไทย 5 วัน ปัจจัยดังกล่าวถือเป็นโจทย์สำคัญที่ท้าทายผู้บริหารประเทศว่าทำอย่างไร เพื่อดึงกำลังซื้อดังกล่าวเข้ามาอยู่ในประเทศไทย เพราะหากสามารถดำเนินการได้ เช่นเดียวกับการปรับลดอัตราภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยนำเข้าจะทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าสนใจในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ
จากผลกระทบที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์รวมตัวกันจัดงาน "ราชประสงค์ แกรนด์ เซล" เนื่องจากย่านราชประสงค์เป็นแหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมืองที่มีความครบครันของสินค้าและบริการที่มากที่สุดย่านหนึ่งของกรุงเทพฯ โดยเป็นจุดยุทธศาสตร์หลักของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาช้อปปิ้งและใช้ไลฟ์สไตล์เป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุปัจจัยดังกล่าวจึงทำให้ผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ร่วมกันสร้างสรรค์แคมเปญช้อปปิ้ง เพื่อเป็นหนึ่งในโปรแกรม “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์ เซล” มาตั้งแต่ปี 2006
สำหรับ แคมเปญ “ราชประสงค์ แกรนด์ เซล” ผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ ได้วางแนวงทางการจัดแคมเปญไว้ในรูปแบบของการสร้างภาพลักษณ์ของย่านราชประสงค์ให้เป็นแหล่งช้อปปิ้งครบวงจร และยิ่งใหญ่ที่สุดใจกลางกรุงเทพฯ หรือ “เดอะ ฮาร์ท ออฟ แบงค็อก” ด้วยการร่วมกับ 6 ศูนย์การค้าชั้นนำ และ 7 โรงแรมสุดลักซ์ชัวรี่กลางใจเมืองที่เป็นสมาชิกของย่านราชประสงค์ มาจัดโปรโมชั่นสุดพิเศษผ่านสินค้าและบริการต่างๆ
โปรโมชั่นและกิจกรรมออนท็อป ภายใต้แคมเปญ “ราชประสงค์ แกรนด์ เซล 2014” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 มิ.ย.-31 ส.ค. นี้มีการแบ่งรายละเอียดของโปรโมชั่นออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.ช้อปปิ้งสุดมันส์ จาก 6 ศูนย์การค้าใจกลางเมือง ที่รวบรวมสินค้ามากกว่า 10,000 รายการ กว่า 3,500 ร้านค้า ได้แก่ ศูนย์การค้าเกษร, ศูนย์การค้าอัมรินทร์ พลาซ่า, ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, เอราวัณแบงค็อก, ศูนย์การค้าเดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ และศูนย์การค้าเพรสิเด้นท์ ทาวเวอร์ อาเขต ที่ร่วมมอบส่วนลดสูงสุดถึง 80% นอกจากนั้น ยังมีสิทธิ์รับของสมนาคุณและลุ้นรับรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย
2.พักผ่อนเต็มอิ่มกับเพจเกจที่พักสุดคุ้มและเมนูสุดอร่อย จาก 7 โรงแรมสุดลักซ์ชัวรี่ภายในย่านที่ร่วมกันนำเสนอโปรโมชั่นเมนูอาหาร บุฟเฟ่ต์ และห้องพักราคาพิเศษ ได้แก่ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ, โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์, โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ แพลทินัม, โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ,โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์, โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ และ โรงแรมเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ ที่ร่วมสร้างสรรค์โปรโมชั่นสุดพิเศษ อาทิ เมนูซิกเนเจอร์เลิศรสในราคาพิเศษ, บุฟเฟ่ต์นานาชาติลด 50% และห้องพักสุดหรูในราคาพัก 3 คืน จ่าย 2 คืน เป็นต้น
ในส่วนของบัตรเครดิตที่เข้าร่วมกับวีซ่าภายใต้แคมเปญ “ราชประสงค์ แกรนด์ เซล 2014” ในครั้งนี้ ประกอบด้วย บัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ บัตรเครดิตกสิกรไทย บัตรเครดิตกรุงศรี บัตรเครดิตไทยพาณิชย์ บัตรเครดิตกรุงไทย และบัตรเครดิตยูโอบี โดยมอบโปรโมชั่นต่างๆ เช่น บัตรเครดิตไทยพาณิชย์ มอบคะแนนรีวอร์ดเพิ่มสูงสุด 15 เท่า เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรทุก 10,000 บาทต่อเซลล์สลิป,บัตรเครดิตกรุงศรี มอบเครดิตเงินคืนสูงสุด 14% เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรตั้งแต่ 15,000 – 250,000 บาทต่อเซลล์สลิป
สำหรับบัตรเครดิตกรุงไทย มอบเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% สำหรับยอดซื้อ 50,000 บาทขึ้นไปต่อเซลล์สลิป และแลกยอดคะแนนสะสมเท่ายอดซื้อ และลูกค้าบัตรเครดิตกสิกรไทยรับคะแนนสะสมเคแบงก์ รีวอร์ด พอยต์ 20,000 คะแนน เมื่อช้อปครบ 100,000 บาทขึ้นไป ซึ่งในส่วนของรายชื่อร้านค้าที่ร่วมรายการ, รายละเอียดโปรโมชั่น และสิทธิประโยชน์ต่างๆ สามารถตรวจสอบได้ที่ www.heartofbangkok.com
นายศิริชัย ประพันธ์ธุรกิจ รองกรรมการผู้จัดการ-ฝ่ายบริหารอาคาร บริษัท เดอะ แพลทินัม แฟชั่นมอลล์ จำกัด กล่าวว่า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมากลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติมีปริมาณลดลง โดยเฉพาะต่างชาติลงถึง 50% แต่หลังจากสถานการณ์เริ่มดีขึ้นในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีกลุ่มลูกค้าต่างชาติกลับคืนมา 10-20% โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าในกลุ่มประเทศในภูมิภาคอาเซียนและเอเชีย ซึ่งล่าสุดบริษัทได้เตรียมจัดงาน "แพลทินัม เคลียร์แลนซ์เซล" ในวันที่ 31 ก.ค.-4 ส.ค.นี้ ด้วยการนำสินค้าจากกว่า 1,000 ร้านค้า ภายในศูนย์การค้าแพลทินัมมาจำหน่ายในราคาพิเศษ ซึ่งหลังจากจบงานดังกล่าวคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงปกติ หรือประมาณ 1,000-1,500 ล้านบาท
ด้าน นางวิไลวรรณ ทวิชศรี รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การจัดแคมเปญ “ราชประสงค์ แกรนด์ เซล 2014” ครั้งนี้ นับเป็นมหกรรมช้อปปิ้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ซึ่งเป็นหนึ่งในการดึงดูดของนักท่องเที่ยว โดยกิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของงาน “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์ เซล” ที่ทาง ททท. ได้จัดเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทยทุกปีอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากภาคเอกชนที่ร่วมจัดโปรโมชั่นสินค้าและบริการ เพื่อกระตุ้นยอดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติให้มีความคึกคัก พร้อมสร้างกระแสเงินสะพัดตลอดทั้งปี
ทั้งนี้ จากตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทยปี 2557 พบว่า ตั้งแต่ต้นปีมีเข้ามามากกว่า 8.6 ล้านคน (ระหว่างเดือนม.ค.– เม.ย.) แบ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออก อาทิ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และกลุ่มนักท่องเที่ยวยุโรป เช่น สวิสเซอร์แลนด์ รัสเชีย และ ฝรั่งเศส จากแนวโน้มของนักท่องเที่ยวที่เริ่มเข้ามาประเทศไทย ททท. เชื่อว่าแคมเปญนี้จะสามารถกระตุ้นการจับจ่ายของนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น เนื่องจากไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับความนิยมในการเดินทางมาช้อปปิ้ง เพราะมีความหลากหลายของสินค้าและความคุ้มค่าของราคา และคาดว่าตลอด 4 เดือนในการจัดกิจกรรม “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์ เซล” จะมีเม็ดเงินสะพัดเพิ่มขึ้น 20% และจะผลักดันให้ไทยยังเป็น 1 ใน 3 ศูนย์กลางการช้อปปิ้งของเอเชีย
(5).jpg)
ส่วนเป้าหมายของการจัดแคมเปญ “ราชประสงค์ แกรนด์ เซล 2014” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 มิ.ย. - 31 ส.ค. นี้ สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ คาดการณ์ว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักช้อปชาวไทย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยว จีน และ ญี่ปุ่น ให้เข้ามาใช้บริการภายในบริเวณย่านราชประสงค์ได้มากกว่า 400,000 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนทีมียอดนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการอยู่ที่ประมาณ 370,000 คนต่อวัน และมีเงินสะพัดอยู่ที่กว่า 7,500 ล้านบาทต่อเดือน
แนวทางการกระตุ้นการท่องเที่ยวของสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์จะสามารถดึงความสนใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาช้อปปิ้งในประเทศไทยได้ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ คงต้องขึ้นอยู่กับความช่วยเหลือของหน่วยงานภาครัฐด้วยว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทยได้มากน้อยแค่ไหน
ข่าวเด่น