จากข่าวสารที่ออกมาว่า ชมรมปฏิรูปสิทธิลูกหนี้ ได้เปิดเผยว่า ทางกรรมการและผู้แทนของชมรมต้องการเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ช่วยดำเนินการแก้ไขปัญหาลูกหนี้โดยกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนลูกหนี้รายย่อย ทั้งที่เป็นหนี้นอกระบบและในระบบ โดยมีข้อเสนอดังนี้ครับ
1. ข้อเสนอ : ขอให้มีศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้แบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One stop service center) เนื่องจากปัจจุบันหน่วยงานที่ช่วยเหลือต่างฝ่ายต่างทำและไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จจึงแก้ไขปัญหาไม่ได้
ความเห็น : เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งและควรนำบทเรียนหลังปี 2540 ที่เราเคยมีองค์กรแบบนี้มาคิดเพิ่ม
2. ข้อเสนอ : ควรมีการจัดตั้งศาลเศรษฐกิจ เพราะปัจจุบันมีคดีเกี่ยวกับการฟ้องร้องหนี้จำนวนมาก
ความเห็น : ไม่เห็นด้วยเพราะเราควรใช้ระบบปัจจุบัน ประเด็นอยู่ที่การจัดการ ไม่ใช่เรื่องไม่มีองค์กรชี้ขาด ประการต่อมาคือระดับความทัดเทียมในการรู้เรื่องกฎหมายระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้จะต้องคิดให้มากว่าจะเกิดการได้เปรียบเสียเปรียบเกินไปหรือไม่
3. ข้อเสนอ : แก้สัญญาที่ไม่เป็นธรรมต่างๆ ทั้งการคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งขอให้ยกเว้นการบังคับใช้กฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 733 ซึ่งจะทำให้เมื่อขายทอดตลาดทรัพย์ค้ำประกันเพื่อชำระหนี้แล้ว ลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดชอบหนี้ที่ยังเหลืออยู่
ความเห็น : ไม่เห็นด้วยในเรื่องของการคิดดอกเบี้ยเพราะถ้าไปฝืนกลไกตลาดจะเท่ากับไปไล่คนที่อยากให้บริการเพราะไม่คุ้มกับความเสี่ยง สำหรับเรื่องการขายทอดตลาดนั้นเห็นด้วยครับว่าเมื่อขายแล้วเป็นอันจบ ไม่มีการตามหนี้ที่เหลืออยู่ ก็คือขายทรัพย์ที่ยึดมาแล้วหนี้ทั้งหมดเป็นอันจบกัน
4. ข้อเสนอ : จัดการเจ้าหนี้นอกระบบอย่างเด็ดขาด
ความเห็น : เห็นด้วยและอยากให้มีโทษถึงประหารชีวิต ยึดทรัพย์ และไม่มีอายุความ
5. ข้อเสนอ : ตั้งไมโครไฟแนนซ์เพื่อให้ดูแลช่วยเหลือคนในชุมชนในอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 7% ต่อปี เนื่องจากปัจจุบันมีประชาชนจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินจากสถาบันการเงินที่ถูกกฎหมาย ทำให้ต้องหันไปพึ่งเงินกู้นอกระบบ ซึ่งเสียดอกเบี้ยสูงมากประมาณ 20-30% ทำให้ลูกหนี้ไม่มีทางที่จะหลุดพ้นวงจรการเป็นหนี้ได้
ความเห็น : ไม่เห็นด้วยในเรื่องของการคิดดอกเบี้ยตามข้อ 3 แต่เห็นด้วยในเรื่องการจัดตั้ง ส่งเสริมให้มีไมโครไฟแนนซ์เพื่อให้ดูแลช่วยเหลือคนในชุมชน
6. ข้อเสนอ : นิรโทษการเป็นหนี้โดยตัดหนี้สูญ ไม่ฟ้องล้มละลายหนี้ส่วนที่ยังชำระไม่หมดและ
ความเห็น : ไม่เห็นด้วยเพราะ เป็นหนี้ต้องใช้หนี้ สัญญาต้องเป็นสัญญา แต่ถ้าเป็นลักษณะขูดรีด ค้ากำไรบนความทุกข์ยากของเพื่อนมนุษย์ก็ต้องใช้มาตรการตามข้อ 3 และ 4 ประกอบกับ 5ข้างต้นมาดำเนินการ
7. ข้อเสนอ : เร่งให้ความรู้กับประชาชนด้านการเงิน ให้มีวินัยทางการเงินและไม่สร้างภาระหนี้เกินตัว
ความเห็น : เห็นด้วยเพราะ เราจะทำอย่างไรเราจึงจะลดวัฒนธรรมที่ทำให้เกิดการเป็นหนี้ อย่างที่ในบทความของท่านผู้รู้ท่านหนึ่งได้เขียนไว้ว่า 3 สิ่งนี้ต้องจัดการออกไป 1. ก่อร่างสร้างหนี้ 2. หน้าใหญ่ไร้เงินออม และ 3. ซื้อของโดยไม่ดูความคุ้มค่า และนำเอาค่านิยมของคนโบราณมาใช้ที่กล่าวว่า ฝากออมสิน ฝังดินไว้ ใช้หนี้เก่า ให้เขากู้ ทิ้งสู่เหว ....
สุรพล โอภาสเสถียร
ผู้จัดการใหญ่
บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด
ข่าวเด่น