การลดค่าครองชีพให้ประชาชน นับเป็นภารกิจแรกของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตั้งแต่ที่เข้ายึดอำนาจการปกครองเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 โดยในวันที่ 6 มิถุนายน คสช.ได้ตั้งคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ถือว่าเป็นคณะทำงานด้านเศรษฐกิจเป็นคณะแรก เพื่อดูแลด้านราคาพลังงาน ทั้งราคาก๊าซและราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา
และผลจากการตรึงราคาพลังงานดังกล่าว ได้สะท้อนมายังอัตราเงินเฟ้อในเดือนมิถุนายน โดย นางอัมพวัน พิชาลัย ที่ปรึกษาการพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยเงินเฟ้อในเดือนมิถุนายนว่า เพิ่มขึ้น 2.35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่หากเทียบกับเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา อัตราเงินเฟ้อลดลง 0.1% เป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 10 เดือน เนื่องจากมาตรการดูแลค่าครองชีพอย่างใกล้ชิด ตามนโยบายของ คสช.ทั้งการตรึงราคาแก๊สหุงต้มภาคครัวเรือนและน้ำมันดีเซล พร้อมกับขอความร่วมมือผู้ประกอบการตรึงราคาสินค้าออกไปอีก 6 เดือน
เงินเฟ้อที่ลดลง 0.1% เกิดจากราคาสินค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ลดลง 0.31% เป็นการลดลงของราคาสินค้าผักและผลไม้ โดยเฉพาะผักสด เนื่องจากสภาพอากาศที่เหมาะสม ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น ส่วนสินค้าที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ เนื้อหมู ไก่สด ไข่ไก่ และอาหารสำเร็จรูป ส่วนราคาสินค้าหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นเพียง 0.01% จากหมวดค่าเช่า สูงขึ้น 0.05% หมวดทำความสะอาด สูงขึ้น 0.22% หมวดของใช้ส่วนบุคคล สูงขึ้น 0.07% หมวดค่าบำรุงรักษายานยนสูงขึ้น 0.16% และหมวดค่าเล่าเรียน สูงขึ้น 0.69%
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ยังคงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในครึ่งปีหลังว่า จะสูงขึ้น 2.53% จากครึ่งปีแรกที่คาดว่าจะเฉลี่ยที่ 2.23% จากเงินเฟ้อเฉลี่ยไตรมาส 3 ที่น่าจะอยู่ในระดับ 2.5% และเงินเฟ้อเฉลี่ยไตรมาส 4 ที่ 2.56% เป็นการปรับสูงขึ้นเล็กน้อย โดยต้องติดตามปัจจัยนอกประเทศ โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยหากไม่เกิดสงครามระหว่างอิรักกับซีเรียก็จะไม่ส่งผลต่อประมาณการณ์เงินเฟ้อที่ตั้งไว้ทั้งปีในกรอบ 2.2-2.8% โดยมีโอกาสที่เงินเฟ้อทั้งปี จะอยู่ที่ระดับ 2.4%
ขณะเดียวกัน น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ก็ยังมีนโยบายเร่งด่วนใน 3 เรื่องหลัก ได้แก่ การลดค่าครองชีพให้ประชาชน, การกระตุ้นเศรษฐกิจภายใน ลดอุปสรรคการค้าและการสร้างความปรองดอง โดยมาตรการลดค่าครองชีพนั้น กระทรวงฯ มีแผนจะจัดงานมหกรรมขายสินค้าราคาถูก ซึ่งจะเพิ่มเติมจากการจัดงานธงฟ้าที่มีเป็นประจำทุกปี รวมทั้งกระทรวงฯ จะขอความร่วมมือกับผู้ผลิตสินค้านำสินค้าอุปโภคบริโภคมาจำหน่ายให้แก่ประชาชนในราคาต่ำกว่าท้องตลาด พร้อมกับการจัดกิจกรรมคืนความสุขให้ประชาชน เช่น งานแสดงด้านการบันเทิงต่าง ๆ ซึ่งอาจจัดเป็นลักษณะคาราวานเคลื่อนที่ไปพร้อม ๆ กัน โดยจะเน้นไปยังภูมิภาคต่าง ๆ 4 -5 ครั้ง
ข่าวเด่น