อสังหาริมทรัพย์
"ซีคอนโฮม" ปฎิวัติวงการรับสร้างบ้าน แก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน


 

"ซีคอนโฮม" ทุ่ม 20 ล้านบาท พัฒนาระบบสร้างบ้านสำเร็จรูปทั้งหลัง หวังแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน ร่นเวลาก่อสร้างบ้านเหลือแค่ 4 เดือน ลดแรงงานเหลือเพียง 4-5 คน 


 
 
นางสาวศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทซีคอนโฮม เปิดเผยว่า บริษัทได้ทุ่มงบประมาณกว่า 20 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบโครงสร้างผนังสำเร็จรูปซีคอน (Seacon Bearing Wall) ซึ่งเป็นระบบการสร้างบ้านสำเร็จรูปทั้งหลังได้เป็นรายแรกของวงการรับสร้างบ้านเมืองไทย จากเดิมที่ใช้เพียงแค่เสาและคานเท่านั้น เพื่อแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลนในระยะยาว รวมทั้งร่นเวลาในการก่อสร้างให้รวดเร็วขึ้นด้วย ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า

 
 
 
ทั้งนี้ ได้นำร่องก่อสร้างบ้าน 5 แบบ ที่ก่อสร้างโดยใช้ระบบโครงสร้างผนังสำเร็จรูปซีคอน เพื่อสร้างบ้านทั้งหลัง คือ HAPPY BUDGET(แฮปปี้ บัดเจ็ต ) ทั้ง 5 แบบ ในพื้นที่ตั้งแต่ 33-50 ตารางวาขึ้นไป มีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 120-194 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.5-2.3 ล้านบาท คาดว่าถึงสิ้นปีนี้จะมียอดขาย 20 หลัง

 
 
 
"การพัฒนาระบบโครงสร้างผนังสำเร็จรูปครั้งนี้ ใช้เวลาในการพัฒนารวม 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนการออกแบบระบบ โดยทีมวิศวกรที่มีประสบการณ์ และเชี่ยวชาญเฉพาะทางของซีคอนโฮม ใช้เวลาประมาณ 4 เดือน ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนที่ 2 การขยายพื้นที่ โรงงานพร้อมเตรียมแม่แบบ และสายการผลิต ตลอดจนระบบติดตั้งและขนย้าย โดยทุกส่วนได้ถูกออกแบบให้สามารถรองรับกับการผลิตโครงสร้างผนังสำเร็จรูปซีคอนที่เหมาะกับบ้านรุ่น HAPPY BUDGET ทั้ง 5 แบบ ได้อย่างลงตัว ซึ่งในส่วนนี้ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน"นางสาวศุภิชชา กล่าว

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ประเทศไทยค่อนข้างประสบปัญหาแรงงานขาดแคลนอย่างมาก นับตั้งแต่หลังเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปี 2554 และในปี 2555 ก็ประสบปัญหาค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทอีก จนกระทบต่อการก่อสร้างที่ล่าช้า ส่งมอบไม่ทันกำหนด ดังนั้นบริษัทจึงพยายามคิดค้นระบบการก่อสร้างที่ลดการใช้แรงงาน และระบบดังกล่าวนี้ใช้เวลากว่า 7 เดือน ก่อนที่จะนำมาใช้ได้ ซึ่งสามารถลดการใช้แรงงาน จากบ้าน 1 หลังที่ก่อสร้างด้วยระบบอื่น ใช้คนงาน 6-7 คน ใช้เวลาก่อสร้างเฉลี่ย 6-7 เดือน แต่ระบบใหม่ดังกล่าวนี้ จะใช้แรงงานเพียง 4-5 คน หรือลดลง 2 คน ใช้เวลาก่อสร้าง 4 เดือนเท่านั้น เพราะลดขั้นตอนการก่ออิฐ ฉาบปูน ขณะที่ได้งานคุณภาพ มาตรฐานเท่าเทียมกันด้วย ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้

 
 
 
 
บริษัทมั่นใจว่าระบบดังกล่าวนี้จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดที่มีงบประมาณจำกัด และกลุ่มที่ต้องการสร้างบ้านในเวลาที่รวดเร็ว ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตบ้านสำเร็จรูป เดือนละ 50 หลัง โดยมีโรงงานที่ผลิตระบบสำเร็จรูปแบบทั้งหลัง และมีวัสดุสำเร็จรูปแบบเฉพาะเสาและคาน เพื่อส่งป้อนให้บริษัทในเครือทั้ง 7 แห่งที่รับสร้างบ้านด้วย

 
 
 
สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทมียอดขาย จำนวน 149 หลัง มีรายได้ 650 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 580 ล้านบาท แบ่งเป็น ซีคอน โฮม 30 หลัง มูลค่า 320 ล้านบาท คอมแพค โฮม 85 หลัง มูลค่า 270 ล้านบาท และบัดเจท โฮม 34 หลัง มูลค่า 60 ล้านบาท เนื่องจากหลังการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ลูกค้ามีความมั่นใจมากขึ้น ทำให้เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มียอดสร้างบ้านสูงมาก และเติบโตกว่าตลาดรวม หรือที่ 5% ทำให้มั่นใจว่าทั้งปีนี้ อาจจะมีรายได้สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 1,400 ล้านบาทได้ หรือเพิ่มขึ้นกว่า 13% เพราะนอกจากบรรยากาศต่างๆ จะดีขึ้นแล้ว บริษัทเองก็จะเร่งจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดอย่างเต็มที่ในช่วงครึ่งปีหลังด้วย
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 03 ก.ค. 2557 เวลา : 09:51:44
22-12-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 22, 2024, 12:22 am