การตลาด
สกู๊ป "3 ยักษ์ธุรกิจ" ปลุก "ไอคอนสยาม" สัญลักษณ์ใหม่ริมเจ้าพระยา


       

 
 
 
ได้ฤกษ์เปิดองค์ประกอบสำคัญของโครงการไปเป็นที่เรียบร้อย  สำหรับโครงการสุดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา  ซึ่งถือกำเนิดขึ้นจากการจับมือร่วมกันของ  3  ยักษ์ใหญ่แห่งวงการธุรกิจไทยที่ประกอบด้วย  บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด  เจ้าของและผู้บริหาร Mixed-use development ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น  ศูนย์การค้าสยามพารากอน  ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่  และศูนย์การค้าพาราไดส์ พาร์ค   บริษัท  แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด  ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพที่มีชื่อเสียง ผู้อยู่เบื้องหลังนวัตกรรมครบวงจรสำหรับโครงการที่พักอาศัยระดับบน เช่น โครงการแมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด และ เครือเจริญโภคภัณฑ์  บริษัทชั้นนำของไทยที่มีการลงทุนในระดับโลก

 
 
 
สำหรับชื่อโครงการสุดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ทั้ง 3 บริษัทยักษ์ใหม่ธุรกิจไทยรังสรรค์ขึ้นมา เพื่อเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ในกรุงเทพมหานครแห่งนี้ ใช้ชื่อว่า “ไอคอนสยาม” เมื่องใหม่สุดหรู ซึ่งประกอบไปด้วย โครงการศูนย์การค้าแห่งยุคและล้ำเลิศที่สุดแห่งหนึ่งของโลกจำนวน 2 อาคาร และโครงการคอนโดมิเนียมที่พักอาศัยมาตรฐานระดับโลกที่หรูหราสง่างามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวน   2 อาคาร

 
 
 
หลังจากเปิดตัวโครงการไปเมื่อปลายปี 2555 ที่ผ่านมา ด้วยคอนเซ็ปต์ของโครงการสุดหรูและเต็มไปด้วยความทันสมัย ส่งผลให้ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมธุรกิจเป็นอย่างดี  แม้ว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะยังไม่ได้มีการเปิดเผยชื่อของโครงการ  จากผลการตอบรับที่ดีดังกล่าวส่งผล 3 พันธมิตรของโครงการไอคอนสยาม ตัดสินใจซื้อที่ดินที่อยู่ล้อมรอบโครงการเพิ่มเติม ทำให้ปัจจุบันพื้นที่ของโครงการมีขนาดเพิ่มขึ้นเป็น 50 ไร่ จากเดิมที่มีอยู่ 40 ไร่ และผลจากการขยายพื้นที่เพื่อต่อยอดโครงการ ทำให้มูลค่าการลงทุนของโครงการขยับเพิ่มขึ้นกว่า 40% เป็น 50,000 ล้านบาท จากเดิมวางไว้ที่ประมาณ 35,000 ล้านบาท

 
 
 
 
นางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า  การเกิดขึ้นของ ”ไอคอนสยาม” จะเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของประเทศไทยในการเนรมิตโครงการที่ยิ่งใหญ่เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบ และตื่นตาตื่นใจที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศไทย เพราะไอคอนสยามจะเป็นสถานที่ที่จะดึงดูดคนไทยทั่วประเทศและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก

จากการศึกษาศักยภาพของธุรกิจและการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บนแม่น้ำเจ้าพระยาตลอดระยะเวลา 18 เดือนที่ผ่านมา โดยได้ปรึกษาหารือและแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน โรงแรมแชงกรีล่า โรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซต์ กรุงเทพ โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน โรงแรมเพนนินซูล่า กรุงเทพ เรือด่วนเจ้าพระยา และเอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ พบว่า ธุรกิจริมแม่น้ำเจ้าพระยามีศักยภาพอย่างมาก ดังนั้น 3 พันธมิตร จึงมีแผนที่จะวางแผนแลกเปลี่ยนลูกค้าและเอื้ออำนวยประโยชน์ในด้านต่างๆ ซึ่งกันและกัน รวมไปถึงการร่วมกันทำการตลาดในอนาคต เพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจทั้งริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก 

 
 
 
นอกจากนี้ สำนักผังเมือง กรุงเทพมหานครมีแนวคิดที่จะสร้างทางเดินเลียบฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งไอคอนสยามจะเข้าไปมีส่วนร่วม และเป็นส่วนที่สำคัญส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์นี้ โดยการสร้าง The River Park ให้เป็น Community Space ที่ใหญ่ที่สุดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาภายในโครงการ พร้อมกับเชื่อมต่อพื้นที่นี้กับทางเดินเลียบฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่จะเชื่อมกับที่ดินของธุรกิจที่อยู่ใกล้เคียง จากแผนแม่บท ICONSIAM River Master Vision ที่วางไว้ดังกล่าว 3 พันธมิตรมั่นใจว่า โครงการไอคอนสยามจะช่วยจุดประกายให้ทั้งโลกต้องหันกลับมามองแม่น้ำสายนี้อีกครั้งหนึ่ง 

 
 
 
สำหรับจุดเด่นของตัวศูนย์การค้า บริษัท สยามพิวรรธน์ ได้วางแผนอาณาจักรศูนย์การค้า 2  อาคารนี้ให้มีความแตกต่างกัน เพื่อให้สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น โดยในส่วนของอาคารแรกจะเป็นศูนย์การค้า Luxury ตั้งอยู่บนพื้นที่ 25,000 ตร.ม. ด้านหน้าอาคารทอดยาวกว่า 300 เมตรขนานไปกับแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นการรวบรวมที่สุดของแบรนด์ดังระดับโลกที่จะมาสร้างปรากฏการณ์ Icons within Icon เป็นแห่งแรก โดยการเนรมิต Iconic Store ซึ่งเป็นนิยามใหม่แห่งวงการค้าปลีก ที่จะถ่ายทอดเรื่องราวและเอกลักษณ์ของแบรนด์อันเป็นมรดกตกทอด แสดงถึงศักยภาพของแต่ละแบรนด์อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ อาคาร Luxury ยังรวมสุดยอดภัตตาคารหรูระดับ Michelin stars ชื่อดังจากประเทศต่างๆ

ขณะที่ศูนย์การค้าอีก 1 อาคาร จะเป็น Main Retail ตั้งอยู่บนพื้นที่ 500,000 ตร.ม. ติดกับถนนเจริญนคร เป็นสถานที่นำเสนอประสบการณ์แปลกใหม่ในหลากหลายมิติ ด้วยความตื่นตาตื่นใจ ของการสร้างพื้นที่ร้านค้าในรูปแบบที่ไม่มีใครเหมือน ในบรรยากาศ in door และ outdoor รวมแล้ว กว่า 500 ร้านค้า 100 ภัตตาคาร จาก 30 ประเทศ นำเสนอความแปลกใหม่ของสินค้าและบริการ อีกทั้งจะรวบรวมแบรนด์แชมป์เปี้ยนสุดยอดสินค้าและบริการไทยมาไว้อย่างครบครัน และยังมีพื้นที่พิเศษบน Rooftop Garden ซึ่งจะมี Sport Complex ขนาดใหญ่

นอกจากนี้ ไอคอนสยาม ยังจะมีศูนย์การประชุมระดับโลก (World Class Auditorium) 3,500 ที่นั่ง ซึ่งสามารถจัดการประชุมนานาชาติ งานสำคัญของรัฐบาล งานแสดง Trade Exhibition ที่จะหมุนเวียนมาจากประเทศต่างๆ และการการแสดงโชว์อลังการจากบรอดเวย์และลอนดอน  

 
 
 
อีกหนึ่งความภูมิใจที่ บริษัท สยามพิวรรธน์ ภูมิใจนำเสนอ คือ 7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งไอคอนสยาม ที่มีมูลค่ารวมกันกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้สามารถเปิดเผยได้  2 สิ่งมหัศจรรย์  คือ การแสดงสายน้ำผสมผสาน แสง สี เสียง ไฟ และมัลติมีเดีย (Multi-Media Water-and-Fire Feature) ที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความยาวมากกว่า 400 เมตร ตระการตา ซึ่งจะสร้างความตื่นตาตื่นใจแก่นักท่องเที่ยวทุกคน และพิพิธภัณฑ์ศูนย์รวมมรดกทางประวัติศาสตร์และสุดยอดภูมิปัญญาไทย ที่ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการคลัง และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นผู้สนับสนุน

 
 
 
 
น.ส.ทิพาภรณ์ เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า โครงการไอคอนสยาม จะเป็นโครงการที่เชิดหน้าชูตาที่สุดของกรุงเทพฯ  เพราะบริษัทกำลังสร้างโครงการไลฟ์สไตล์ที่เพียบพร้อมและสมบูรณ์แบบ เปรียบเสมือนเมืองใหม่ ซึ่งครบถ้วนไปด้วยที่พักอาศัย ศูนย์การค้า และความงดงามทางวัฒนธรรม ภายใต้มาตรฐานสูงสุดระดับสากล จนทำให้ทั่วโลกต้องหันมามองประเทศไทยอีกครั้ง ด้วยความรู้สึกที่แตกต่างไปจากเดิม

สำหรับจุดเด่นของโครงการที่พักอาศัย ซึ่งใช้ชื่อว่า "แมกโนเลีย วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนท์" จะเป็นที่พักเหนือระดับ ทั้งในแง่ของคุณภาพและความหรูหราที่สามารถติดต่อเชื่อมโยงกับชุมชนโลกผ่านเทคโนโลยีการสื่อสารระบบไฟเบอร์ออพติคที่ให้ความเร็วสูงแห่งแรกของประเทศไทย FTTX (Fiber to Home)  นอกจากนี้ ยังโดดเด่นด้วยตัวอาคารที่จะเน้นพื้นที่สีเขียวเกือบ 70% พร้อมกับออกแบบตัวอาคารให้เป็น "พ็อคเก็ต การ์เด้น" ทั้ง 2 อาคาร โดยในส่วนของอาคารแรกจะเป็นตึกสูง 70 ชั้น รวมห้องพัก 300 ยูนิต ส่วนอาคารที่ 2 จะเป็นตึกสูง 50 ชั้น รวมห้องพักกว่า 100 ยูนิต

 
 
 
หลังจากออกมาเผยรายละเอียดของโครงการไอคอนสยามครั้งนี้ 3 พันธมิตร วางเป้าหมายที่จะสร้างให้โครงการดังกล่าว กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งใหม่ และความภาคภูมิใจของประเทศไทย จะสวยงามหรูหราถูกใจลูกค้าคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติแค่ไหน ปี 2560 นี้ ได้เห็นโฉมกันชัดๆ .

 

 


 

 

 

 

 

LastUpdate 03/07/2557 14:17:52 โดย : Admin
25-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 25, 2024, 4:34 am