วันนี้ "เอซีนิวส์" เชิญชวนมาอัพเดท "แก็ดเจ็ตใหม่ ๆ" น่าใช้กัน
ประเดิมกันที่ “miCoach FIT SMART” อุปกรณ์ใหม่จากค่าย adidas ซึ่งเป็นแบรนด์สินค้ากีฬาจากเยอรมัน เป็นสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพที่ถูกออกแบบมาคล้ายกับนาฬิกา แต่ทำงานเน้นใช้ตรวจจับข้อมูลระหว่างการออกกำลังกาย เรียกว่า มาแนวเดียวกับ Fitbit force/flex, Garmin vivo fit, Jawbone Up/Up24 และ Sony Smartband โดยใช้ทำงานเก็บข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจ ความเร็วในการวิ่ง ระยะทางและปริมาณพลังงานที่เผาผลาญ ซึ่งจะทำงานเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนและแอพพลิเคชั่น myCoach Train and Run และข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้ในแต่ละครั้งนี้สามารถนำไปใช้วางแผนการออกกำลังกายในแต่ละวันให้กับเหมาะกับผู้ใช้ได้ สนนราคาประมาณ 6,500 บาท
ส่วนเมื่อเร็ว ๆนี้ แอลจี ก็ได้วางตลาด “LG G WATCH” นาฬิกาอัฉริยะเรือนแรกที่รองรับระบบปฏิบัติการ Android Wear เวอร์ชั่นพิเศษสำหรับอุปกรณ์สวมใส่เช่นกัน โดยเริ่มวางจำหน่ายผ่าน Google Play ใน 12 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐฯ, แคนาดา , ฝรั่งเศส , ไอซ์แลนด์ , เยอรมัน , อิตาลี , สเปน , อังกฤษ , ออสเตรเลีย , อินเดีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ก่อนตามด้วยอีก 15 ประเทศ รวมบราซิล , เม็กซิโก , รัสเซีย , สิงค์โปร์ และนิวซีแลนด์ ราคาอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ โดยในสหรัฐฯมีสนนราคาที่ประมาณ 7,000 บาทเศษ
LG G WATCH ได้รับการออกแบบสวยงามใช้ได้ มีหน้าจอขนาด 1.65 นิ้ว LCD IPS (280 x 280) ใช้ระบบปฎิบัติการ Android Wear ขนาด 37.9 x 46.5 x 9.95 มิลลิเมตร น้ำหนัก 63 กรัม ซีพียู 1.2GHz Qualcomm Snapdragon 400 ROM 4GB eMMC RAM 512MB แบตเตอรี่ 400mAh เชื่อมต่อ Bluetooth 4.0 พร้อมเซนเซอร์ 9-Axis (Gyro/ Accelerometer/ Compass) มีสี White Gold/ Black Titan และมีเทคโนโลยีกันฝุ่นและน้ำ
เมื่อนาฬิกาแอลจีเข้าตลาด ยิ่งทำให้ “iWatch” ของค่ายแอปเปิลถูกจับตามองอีกครั้ง โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอาจจะเดินหน้าผลิตได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยเว็บไซต์ iphone-droid รายงานว่า นักวิเคราะห์ชื่อดังอย่าง Ming-Chi Kuo ของบริษัทหลักทรัพย์ KGI ได้ปรับการคาดการณ์ใหม่จากที่เคยคาดว่า iWatch จะเข้าสู่กระบวนการผลิตในเดือนกันยายนมาเป็นเดือนพฤศจิกายน
Ming-Chi Kuo เชื่อว่า iWatch จะใช้ระบบปฏิบัติการ iOS เหมือน iPhone และ iPad มีหน้าจอ OLED แบบโค้งขนาด 1.3 นิ้วจนถึง 1.7 นิ้ว และกระจกหน้าปัดของ iWacth จะทำมาจากกระจกแซฟไฟร์เพื่อให้ใช้งานได้อึดทนนาน พร้อมทั้งมีคุณสมบัติกันน้ำและเซ็นเซอร์ด้านสุขภาพด้วย โดยทำงานร่วมกับแอพฯ Health ที่เพิ่งเปิดตัวไปพร้อมกับ iOS 8 ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เป็นอีกชิ้นที่ต้องตามลุ้นกัน
ส่วนนาฬิกาอัจฉริยะอีกรุ่นที่จะมาในอนาคตอันใกล้ มีชื่อว่า “Arrow Smartwatch” ซึ่งไม่ธรรมดาอีกเหมือนกัน เพราะจะมาพร้อมกล้องหมุนได้ 360 องศา เป็นตัวแรกของโลก ติดตั้งอยู่บนขอบของนาฬิกา ใช้สำหรับถ่ายภาพและวีดีโอได้ในทุกมุมมอง และช่วยให้ถ่ายภาพ Selfie ได้โดยไม่ต้องบิดแขนให้เมื่อยกันอีกต่อไป นาฬิการุ่นนี้ยังออกแบบเป็นรูปทรงกลมต่างจากรุ่นอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังมีระบบชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย ผ่านทาง dock ซึ่งช่วยชาร์จไฟได้ง่าย พร้อมฟีเจอร์ด้านสุขภาพเพื่อใช้วัดอัตราการเต้นของหัวใจด้วยเหมือนกัน และคาดว่ายังมีฟีเจอร์อื่นๆ อีกเพียบ ทั้งการใช้งานโทร จีพีเอส เล่นเพลง และอื่นๆ หลังพัฒนาเสร็จแล้วน่าจะเป็นที่ถูกใจสาวกไฮเทคอีกรุ่นหนึ่ง
สำหรับนาฬิกาอีกรุ่นที่น่าสนใจมีชื่อว่า “Ritot” หรือบ้างก็เรียกกันว่า “Projection Watch” ซึ่งออกแบบคล้ายกำไลข้อมือที่สามารถแสดงผลนาฬิกาบอกเวลาด้วยโปรเจ็คเตอร์ในตัว ส่องแสงเป็นตัวเลขไปบนหลังมือของผู้สวม นอกจากนี้ ยังทำงานเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ด้วย เพื่อแจ้งเตือนสายเรียกเข้า ข้อความ สภาพอากาศ หรือสั่นปลุกเตือนผู้สวมใส่ได้อีกด้วย เป็นผลงานสร้างสรรค์ของทีม อิวาน โพเวลล์ และ พอล สมิธ ซึ่งอยู่ระหว่างการระดมทุนผ่านเว็บไซต์ indiegogo อีกไม่นานเกินรอคงได้เห็นกัน
ก็คิดพัฒนากันไป แต่จะขายได้หรือไม่ คงต้องว่ากันอีกทีตามเนื้อผ้า ว่าของใครจะใช้งานได้ประโยชน์มากกว่ากัน
ข่าวเด่น