"นพ.กฤชรัตน์" ประธานกลุ่ม เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก ชี้แนวโน้มราคาทองคำยังเป็นขาลง ไม่เหมาะลงทุนระยะยาว ควรลงทุนสั้นๆ เข้าออกเร็ว 

นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกลุ่มเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก กล่าวถึง ความเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วง 3วันที่ผ่านมานี้ที่ปรับตัวผันผวนว่า เป็นผลจากปัจจัยต่างประเทศ ที่ส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศปรับตัวผันผวนตามไปด้วย โดยผันผวนในทิศทางขาลง ซึ่งปัจจัยหลักที่มีผลมาจากการที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ที่แถลงต่อสภาคองเกรสเมื่อเร็วๆ นี้ เกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐที่อาจปรับขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้ ประกอบกับตลาดกังวลสถานการณ์ในต่างประเทศ ทำให้มีแรงเทขายในตลาดทองคำ ทำให้ราคาทองร่วงลงมาอยู่ที่ระดับบวก /ลบ  1,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำในประเทศก็อยู่ในระดับต่ำกว่า  20,000 บาทต่อบาททอง

สำหรับแนวโน้มราคาทองคำในประเทศ คาดว่าระยะสั้นๆ จะยังผันผวน แกว่งตัวที่ระดับ 1,290-1,305 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่วนภาพหลักในระยะยาว แนวโน้มราคาทองคำยังเป็นขาลง ไม่เหมาะที่จะลงทุนระยะยาว เหมาะที่จะลงทุนสั้นๆเข้าออกเร็ว ถ้าลงทุนผิดทางก็ต้องปิดสถานะแล้วเริ่มมาลงทุนกันใหม่ ซึ่งหากเข้าออกเร็วการลงทุนในทองคำก็ยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเท่ากับการลงทุนในหุ้น

เมื่อถามว่าปัจจัยที่จะมีผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาอีกครั้ง นายแพทย์กฤชรัตน์ กล่าวว่า  หากสงครามลุกลามมากขึ้น กรณี อิรัก อิสราเอล และเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะตัวเลขการว่างงาน แต่เท่าที่ดูคิดว่าที่สหรัฐฯจะประกาศตัวเลขว่างงานอยู่ที่ 6 พันคน ซึ่งไม่ได้ถือว่ามาก

นพ.กฤชรัตน์ ยังได้กล่าวถึง กรอบราคาทองว่า ในต่างประเทศ 1,290-1,305 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ถ้าทะลุ 1,305 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ได้จะขึ้นไปที่ 1,310 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แต่ถ้าทะลุ 1,290 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ลงมาถือว่าไม่ดี  ส่วนของไทยราคาซื้อขายทองคำแท่ง แนวรับอยู่ที่  19,700บาท ต่อบาททอง และแนวต้านอยู่ที่ 20,000 บาทต่อบาททอง เป็นกรอบสำหรับนักลงทุนที่ลงทุนระยะสั้นไม่เกิน 1-2 สัปดาห์