รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ ในไตรมาสที่ 2/2557 เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการลดลงของต้นทุนด้านดอกเบี้ยเงินฝาก ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ของธนาคารที่วางไว้ สอดคล้องกับสภาวะการแข่งขันในตลาดและการชะลอตัวด้านสินเชื่อในไตรมาสที่2
อัตราค่าใช้จ่ายต่อรายได้ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ มาอยู่ที่ 35.1% จาก 38.0% ในปีก่อน เป็นผลจากการเติบโตด้านรายได้สูงกว่าการเติบโตของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ปัจจัยหลักในการลดลงของอัตราส่วนนี้มาจากการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่ดำเนินการได้เป็นไปอย่างดีและต่อเนื่อง จากการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น การใช้ทรัพยากรต่างๆ อย่างคุ้มค่า และการเพิ่มประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงต้นทุนในกระบวนการจัดซื้อ และการปฏิบัติงานด้านต่างๆ
รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 10.9% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมาจากรายได้จากการขายเงินลงทุนที่ธนาคารถืออยู่ 60.86% ในบริษัทไทยพาณิชย์สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน) และการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของรายได้ค่าธรรมเนียมรวมแม้ว่ารายได้ค่าธรรมเนียมด้านสินเชื่อลดลง
คุณภาพสินเชื่อ แม้ว่าในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ภาพรวมของเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างมาก ธนาคารสามารถรักษาคุณภาพสินเชื่อให้คงอยู่ในระดับที่ดีและคงตัว โดยอัตราสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL Ratio) ณ สิ้น ไตรมาส 2/2557 ทรงตัวในระดับ 2.11% เช่นเดียวกับไตรมาสแรกของปี และด้วยหลักการดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังเพื่อรองรับความไม่แน่นอนในอนาคต ในไตรมาสที่ 2/2557 ธนาคารได้ตั้งสำรองอีกจำนวน 3,200 ล้านบาท ทำให้อัตราส่วนสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ในระดับสูงที่ 141%
นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า “นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ธนาคารสามารถสร้างการเติบโตของกำไรจากดำเนินงาน (ก่อนรายการพิเศษต่างๆ) ดีขึ้นมาตลอด 16 ไตรมาสติดต่อกันท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนและการแข่งขันที่รุนแรงของตลาด การเติบโตที่ดีต่อเนื่องและยั่งยืนเช่นนี้นับเป็นความสำเร็จที่ชัดเจนของธนาคาร สะท้อนถึงความผูกพันที่แน่นแฟ้นของลูกค้า การได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากผู้ถือหุ้น การมีพนักงานที่มีความสามารถสูง และการเป็นมิตรที่ดีต่อสังคมซึ่งเรายังคงมุ่งมั่นที่จะรักษาความเป็นเอกลักษณ์เช่นนี้ เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ในการเป็น ธนาคารที่ทุกคนเลือก"
ข่าวเด่น