หุ้นทอง
หุ้นเด้งจบเกมส์ เมื่อเปิดสตอรี่


 

 
 
ตัวแรกนำโดย GRAMMY ผนึกกำลัง CTH แลกหุ้นบริษัทลูก "GMM B" ทั้ง 100% กับการเข้าถือหุ้นใน CTH จำนวน 15.58% หวังรุกเพย์ทีวีเต็มสูบ โบรกเกอร์ขอรอดูรายละเอียดความร่วมมือ คาดกำไรไม่น่าพริกกลับมาทัน ย้ำยังไม่มั่นใจธุรกิจเพย์ทีวี ขณะที่ราคาหุ้นวิ่งรับข่าว 2 วันราคาอยู่ที่หุ้นละ 18 บาท สูงสุด 18.4 บาท เมื่อวันที่21 กรกฎาคมบวก 17 % จากราคาเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมอยู่ที่ 15.7 ก่อนแจ้งปิดดีลดังกล่าว

 
 
โดยเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ก่อนเปิดตลาดหุ้นช่วงบ่าย GRAMMY ได้ขอพักการซื้อขายหลักทรัพย์ชั่วคราวขึ้นเครื่องหมาย  H เนื่องจากบริษัทอยู่ระหว่างรอเปิดเผยสารสนเทศสำคัญ
 
 
 
 
ขณะที่ นายปรีย์มน ปิ่นสกุล ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จากัด (มหาชน)หรือ GRAMMY เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้บริษัท แซท เทรดดิ้ง จำกัด (“Z Trading”)ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน)หรือ CTH จำนวน 30 ล้านหุ้น หรือ 15.58% มูลค่ารวมทั้งสิ้น 1.03 พันล้านบาท (คิดเป็นราคา 34.33 บาทต่อหุ้น)โดย“Z Trading” จะชำระราคาค่าซื้อหุ้นดังกล่าว เป็นหุ้นสามัญของ บริษัท จีเอ็มเอ็ม บี จำกัด (“GMM B”)ซึ่ง“Z Trading”ถือหุ้น 99.98% ให้แก่บริษัทย่อยของ CTH คือ บริษัท ซีทีเอช แอลซีโอ จำกัด (“CTH LCO”)เป็นจำนวนทั้งสิ้น 38.65 ล้านหุ้น (คิดเป็นราคา 26.64 บาทต่อหุ้น)หรือหมดทั้ง 100%

ดังนั้น จึงมีผลทำให้ GMM B สิ้นสภาพในการเป็นบริษัทย่อยของ Z Trading โดยคาดว่าการซื้อขายเงินลงทุนในหุ้นสามัญดังกล่าวจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2557 ประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับ GRAMMY ปัจจุบัน ธุรกิจโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงและใช้เงินลงทุนสูง ซึ่งลักษณะธุรกิจของ CTH และ GMM B สามารถส่งเสริมและเกื้อหนุนซึ่งกันและกันได้ ดังนั้น การที่ Z Trading เข้าลงทุนในหุ้นสามัญของ CTH โดยชำระเป็นหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทย่อยนั้น จะช่วยลดต้นทุน และลดการแข่งขันในการดำเนินธุรกิจของทั้งสองบริษัท อันจะส่งผลให้กลุ่มบริษัทฯ มีฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น

 
 
 
ด้าน นักวิเคราะห์ บล. เคเคเทรด เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่ GRAMMY จำเป็นต้องเพิ่มทุนหากผลประกอบการรวมปลายปีนี้ยังคงขาดทุนต่อเนื่อง โดยผลประกอบการ งวด 1Q57 และปี 2556 GRAMMY มีผลขาดทุนสุทธิ 792 และ 1,283 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ตัวเลขส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 2,272.03 ล้านบาทเท่านั้น โดยธุรกิจเพย์ทีวียังไม่สามารถสร้างกำไรได้มีแนวโน้มจะกดดันให้ภาพรวมงบทั้งปีมีความเสี่ยงต่อไป

มองว่าหาก GRAMMY ลดบทบาทธุรกิจเพย์ทีวีที่เป็นตัวฉุดผลประกอบการมาตลอด 2 ปีก่อนหน้านี้ได้มากเท่าไร จะส่งผลดีต่อผลประกอบการของ GRAMMY มากเท่านั้น เนื่องจากเรามองว่าการยื้อธุรกิจเพย์ทีวีต่อไปอาจจะทำให้ผลประกอบการรวมยังคงมีผลขาดทุนต่อไป และทำให้ GRAMMY ไม่สามารถโฟกัสธุรกิจทีวีดิจิทัล (ช่อง One (HD) และ Big (SD)) ที่มีโอกาสเติบโตสูงในอนาคตซึ่งคาดว่าจะมีการแข่งขันรุนแรงเช่นเดียวกันคำแนะนำและเหตุผล 
        
บทวิเคราะห์ บล.เคเคเทรด ระบุต่อไปว่า ยังไม่แนะนำให้ลงทุน เพราะมองว่าที่ผ่านมา ราคาหุ้น GRAMMY ยังไม่ปรับตัวลงสะท้อนผลขาดทุนที่เกิดขึ้นจากการลงทุนธุรกิจเพย์ทีวีช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และปีนี้คาดว่าจะขาดทุนต่อเนื่องราว 2 พันล้านบาท แต่ปัจจุบันราคาหุ้นกลับปรับตัวเพิ่มขึ้นสะท้อนความคาดหวังการพลิกฟื้นธุรกิจดังกล่าวจากการร่วมมือกับ CTH ที่เรายังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ นอกจากนี้ การทำธุรกิจเพย์ทีวีต่อไป อาจทำให้ GRAMMY ไม่สามารถโฟกัสธุรกิจทีวีดิจิทัลที่คาดว่าจะมีการแข่งขันสูงได้อย่างเต็มที่ 

 
 
 
ต่อด้วยตัวที่ 2 "SST" แตกไลน์ธุรกิจแฟชั่น “เกรฮาวด์” ด้านราคาหุ้น บมจ.ทรัพย์ศรีไทย (SST) พุ่งขึ้นไป 3 วันติด จากราคาหุ้นละ 20.80 บาท เมื่อวันที่15 กรกฎาคมที่ผ่านมา ขึ้นไปสูงสุดถึง 24.80 ในวันที่ 18 กรกฎาคม จนปิดตลาดที่ 24.40 บาท เพิ่มขึ้นถึง 17% และยังปรับขึ้นไปต่อเนื่องในวันที่ 21 กรกฎาคม ราคาหุ้นวิ่งขึ้นไปสูงสุดระหว่างวันถึงหุ้นละ 25 บาท ก่อนจะปิดตลาดจะปรับตัวลงมาที่หุ้นละ 24 บาท

 
 
 
ซึ่งในวันที่ 22 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นายสัมฤทธิ์ ตันติดิลกกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.ทรัพย์ศรีไทย หรือ SST เปิดเผยว่า บริษัทและ บริษัท มัดแมน จำกัด (มัดแมน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิทั้งหมดของบริษัท เกรฮาวด์ จำกัด (แฟชั่น) จำนวน 969,900 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท และหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิทั้งหมดบริษัท เกรฮาวด์ คาเฟ่ จำกัด (คาเฟ่) จำนวน 107,843 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของแฟชั่นและคาเฟ่ ราคารวมทั้งสิ้น 1,853.80 ล้านบาท

สำหรับวงเงิน 1,853.80 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินสด 1,265.80 ล้านบาท และหุ้นของมัดแมนมูลค่ารวม 588.00 ล้านบาท (1,322,473 หุ้น ราคาหุ้นละ 444.622 บาท) ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 15.67 ของทุนจดทะเบียนและชำระแล้วของมัดแมนภายหลังจากการทำรายการ โดยบริษัทฯจะถือหุ้นในมัดแมนร้อยละ 75 เนื่องจากการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนของมัดแมนเพื่อชำระราคาค่าหุ้นแฟชั่นและคาเฟ่ครั้งนี้ มัดแมนได้เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ บมจ.น้ำตาลขอนแก่น (KSL) จำนวน 787,186 หุ้น ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 9.33 ราคาหุ้นละ 444.622 บาท มูลค่ารวม 350.00 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกลุ่มของบริษัทฯด้วย

 
 
 
ทั้งนี้ บริษัท เกรฮาวด์ จำกัด (แฟชั่น) ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2523 เป็นผู้ออกแบบ ผลิต และจำหน่ายสินค้าแฟชั่นชั้นนำ แบรนด์“Greyhound" และ “Playhound" มีกลุ่มลูกค้าอยู่ในระดับกลางบน เน้นความทันสมัย เรียบง่าย และมีสไตล์ มีวางจำหน่ายที่ 17 ร้านในประเทศไทย ซึ่งรวมถึงในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เช่น สยามพารากอน อิเซตัน และเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นต้น และยังมีส่งออกไปจำหน่ายที่ต่างประเทศ เช่น ประเทศเกาหลีใต้ สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย อีกด้วย

ณ วันที่ 4 มิถุนายน 2557 บริษัท เกรฮาวด์ (แฟชั่น) มีทุนจดทะเบียน 96,990,000 บาท โดยแบ่งเป็นหุ้นสามัญ 494,650 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท และหุ้นบุริมสิทธิ 475,250 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาทเช่นกัน ซึ่งบริษัทฯ และมัดแมนได้เข้าซื้อหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิของแฟชั่นที่ชำระเต็มมูลค่าแล้วทั้งหมด

 
 
 
ส่วน บริษัท เกรฮาวด์ คาเฟ่ จำกัด (คาเฟ่) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2539 เพื่อดำเนินธุรกิจร้านอาหารภายใต้ชื่อ “Greyhound Cafe" “Another Hound Cafe" “Sweet Hound"และ “Ground-hey" โดยมีจำนวน 10 สาขาในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีแฟรนไชส์ในฮ่องกงจำนวน 5 สาขา และในสาธารณรัฐประชาชนจีนอีก 2 สาขา มีกลุ่มลูกค้าอยู่ในระดับกลางบน โดยมีคอนเซปต์คือความเรียบง่าย สร้างสรรค์ และทันสมัย
 

LastUpdate 25/07/2557 00:42:17 โดย : Admin
21-04-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 21, 2025, 5:47 am