จากการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกที่นับวันจะมีความรุนแรง ส่งผลให้ผู้ประกอบการเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับชุมชนและผู้บริโภคในรูปแบบต่างๆ หนึ่งในกลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการนิยมนำมาใช้ คือ การทำกิจกรรมซีเอสอาร์ เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้บริโภค เพราะหากมุ่งแต่จะขายสินค้าเพียงอย่างเดียว ผลลัพธ์ที่ได้มา คงได้แค่ซื้อมาขายไปเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ ผู้ประกอบการค้าปลีกจึงต้องหันมาให้ความสำคัญกับชุมชน และผู้ผู้บริโภคมากขึ้น เพื่อสร้างความจงรักภักดีในแบรนด์สินค้า และจากการที่ห้างค้าปลีกสมัยใหม่มีการรุกคืบไปยังแหล่งชุนชนต่างๆ มากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการค้าปลีกต้องหันมาปรับแผนธุรกิจอีกครั้ง ด้วยการหันมาสนับสนุนสินค้าชุมชนควบคู่กันไป เพื่อสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับคนในชุมชนทั้งในรูปแบบคู่ค้าและลูกค้า
นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจนับจากนี้ บริษัทจะให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบกานรายย่อยมากขึ้น ด้วยการรับเป็นตัวกลางสนับสนุนในด้านของการตลาดให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เนื่องจากบริษัทมีธุรกิจค้าปลีกที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นร้านเซเว่นอีเลฟเว่น,เซเว่นแคตตาล็อค, ออนไลน์,ทีวีช้อปปิ้ง หรือห้างแมคโคร ซึ่งผู้ประกอบการสามารถเลือกนำสินค้ามาจำหน่ายได้ตามความเหมาะสมของขนาดสินค้า
ความหลากหลายของช่องทางค้าปลีกที่บริษัท ซีพี ออลล์ มี ส่งผลให้ปัจจุบันธุรกิจค้าปลีกในเครือของบริษัท ซีพี ออลล์ สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มากถึง 30 ล้านคนทั่วประเทศ จึงถือเป็นโอกาสที่ดีของเอสเอ็มอีที่จะนำสินค้าคุณภาพเข้ามาจำหน่าย เพื่อสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ
นางสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลอดเวลากว่า 25 ปี ของการดำเนินงาน แม็คโคร ได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน และการสนับสนุนร้านโชห่วย หรือร้านค้าปลีกรายย่อย มาโดยตลอด ด้วยการสร้างกิจกรรมพัฒนาธุรกิจของสมาชิกอย่างต่อเนื่อง ภายใต้โครงการ “แม็คโคร มิตรแท้โชห่วย” ซึ่งดำเนินการมาในปีนี้เป็นปีที่ 7 แล้ว เพื่อให้องค์ความรู้เกี่ยวกับการบริหารธุรกิจค้าปลีก รวมถึงแนะนำเครื่องมือ ทักษะในการสร้างยอดขาย และเพิ่มผลกำไร ซึ่งจะเป็นการช่วยเพิ่มศักยภาพและต่อยอดการดำเนินธุรกิจของร้านค้าปลีกท้องถิ่นในประเทศไทยเติบโตยั่งยืน ผ่านกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ
หนึ่งในกิจกรรมหลักที่แม็คโครได้ให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง คือ การจัดงาน “ตลาดนัดโชห่วย” โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ลูกค้าสมาชิกแม็คโคร และผู้ประกอบการร้านโชห่วย ร้านค้าปลีกรายย่อย ได้รับองค์ความรู้เกี่ยวกับการบริหารธุรกิจค้าปลีก รวมถึงแนะนำเครื่องมือ ทักษะในการสร้างยอดขาย และเพิ่มผลกำไร สร้างแรงบันดาลใจผ่านกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ซึ่งจะเป็นการช่วยเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจของร้านค้าปลีกท้องถิ่นในประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
ด้าน น.ส.บุษบา จิราธิวัฒน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า ในระยะเวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมา กลุ่มเซ็นทรัลทุ่มเทในการสร้างให้ชุมชนของไทยมีความเข้มแข็งและแข็งแกร่ง จนสามารถผลิตสินค้าออกมาเพื่อจำหน่ายในตลาดค้าปลีกสมัยใหม่ ภายใต้โครงการสินค้าชุมชนของเรา ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัลได้ให้การช่วยเหลือชุมชนอย่างจริงจัง ตั้งแต่การส่งทีมจัดซื้อ การคัดสรรสินค้า การลงพื้นที่เพื่อให้ความรู้ในการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ และมีคุณสมบัติตรงต่อความต้องการของตลาด พัฒนาชุมชน
นอกจากนี้ ยังได้เข้าไปมีส่วนปรับปรุงศักยภาพด้านการผลิตของชุมชน เช่น การสนับสนุนในด้านเทคโนโลยี อุปกรณ์ เครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น จนสามารถนำมาจำหน่ายในห้างร้านของเครือกลุ่มเซ็นทรัล ได้แก่ ท็อปส์ ไทวัสดุ และ โฮมเวิร์ค โดยมีสินค้าจากชุมชนนำมาจำหน่ายมากกว่า 500 รายการ ประกอบด้วย สินค้าประเภทพืชผลเกษตรชุมชน, สินค้าเอกลักษณ์ดั้งเดิม และสินค้าดีไซน์แปลกทันสมัย
ขณะเดียวกันก็ทำการประสานงานให้ความช่วยเหลือในปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญต่อการผลิตต่างๆ เช่น การติดต่อประสานงานให้ชุมชนได้รับสาธารณูปโภคพื้นฐาน เพื่อใช้ในการผลิตสินค้า อีกทั้งติดต่อแหล่งเงินกู้ของภาครัฐ โดยใช้ยอดการสั่งซื้อจากกลุ่มเซ็นทรัลเป็นเครื่องรับประกันในการกู้เงินของชุมชน ทำให้ชุมชนสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ นอกจากนี้ ยังดูแลให้ความรู้และปรับปรุงในขั้นตอนการผลิตเพื่อให้สินค้าที่ชุมชนผลิตสู่ตลาดนั้นได้มาตรฐานทั้งสินค้าและการออกแบบผลิตภัณฑ์
ปัจจุบัน กลุ่มเซ็นทรัล ได้เข้าไปช่วยพัฒนาชุมชนต่างๆ กว่า 59 ชุมชน ในกว่า 31 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งหลังจากเข้าไปช่วยสนับสนุนสินค้าชุมชนตั้งแต่ปี 2555 ปัจจุบันกลุ่มสินค้าชุมชนมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องปีละไม่ต่ำกว่า 40% และปัจจุบันมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 122.14 ล้านบาท
นายศิริชัย ประพันธ์ธุรกิจ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารอาคาร บริษัท เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ จำกัด กล่าวว่า แผนการทำตลาดในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทจะหันมาจับมือร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อต่อยอดในทางธุรกิจในทุกๆ ด้าน และเสริมศักยภาพความรู้และประสบการณ์ด้านสินค้าแฟชั่นให้กับร้านค้าภายในศูนย์การค้า เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาร้านค้าเช่าภายในศูนย์การค้า เดอะ แพลทินั่ม แฟชั่นมอลล์ มีความตื่นตัวที่จะเรียนรู้ และสนใจศึกษาเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับสินค้าของตัวเอง จากความสนใจดังกล่าวของผู้ประกอบการรายย่อย ส่งผลให้ศูนย์การค้า เดอะ แพลทินั่ม แฟชั่นมอลล์ มีแผนที่จะต่อยอดความช่วยเหลือ ด้วยการเปิดช่องทางการขายออนไลน์ให้กับร้านค้าเพิ่มเติม
นายประวิช สุขุม รองประธานกรรมการบริหาร กิจการบรรษัทรัฐสัมพันธ์ บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้บริหารเทสโก้ โลตัส กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจนับจากนี้ บริษัทจะให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ให้มีความมั่นคงแข็งแรง ในหลาย ๆ ด้าน เช่นเดียวกันผู้ประกอบการหลายรายที่เกิดจากห้องแถวเล็ก ๆ ก็เติบโต มีความมั่นคงในธุรกิจมากขึ้น เช่น ผู้จำหน่ายสินค้าสังฆภัณฑ์ สหกรณ์ผลไม้จากจันทบุรี และสุกี้เอ็มเค ที่เติบโตจากการเป็นพันธมิตรของ เทสโก้ โลตัส จนเป็นธุรกิจขนาดใหญ่
นอกจากจะให้ความช่วยเหลือนำสินค้ามาจำหน่ายในห้างเทสโก้ โลตัส ในประเทศไทยแล้ว ปัจจุบันยังให้การสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยในกลุ่มสินค้าเกษตร อาหารสัตว์ อาหารกระป๋อง และเครื่องเขียน ส่งออกสินค้าไปทำตลาดในห้างเทสโก้ โลตัส 11 ประเทศทั่วโลก ประกอบด้วย อังกฤษ ไอส์แลนด์ เช็กสโลวาเกีย ฮังการี เกาหลี จีน มาเลเซีย อินเดีย และ สหรัฐอเมริกา
นายเนติธร ประดิษฐ์สาร ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เอสเอ็มอี ถือเป็นรากฐานที่สำคัญของธุรกิจ ที่ผ่านมาบิ๊กซีช่วยสนับสนุน ส่งเสริมและพัฒนา ทั้งการเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้า การแนะนำด้านการกำหนดราคา การขนส่ง โดยมีสินค้าเอสเอ็มอี โดยเฉพาะสินค้าโอท็อป และสินค้าโครงการพระราชดำริ วางจำหน่ายผ่านทางไฮเปอร์มาร์เก็ต,มินิ Big C และ จำหน่ายผ่านออนไลน์ จำนวนมาก
การออกมาใช้กลยุทธ์ดังกล่าว นอกจากห้างค้าปลีกจะมีสินค้าจำหน่าย เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับองค์กรในอัตราส่วนที่น่าพอใจแล้ว ยังได้ใจผู้บริโภคในฐานะคู่ค้าไปแบบเต็มๆ
ข่าวเด่น