การตกรอบแรกของอิตาลีในฟุตบอลโลก 2014 ไม่ได้ส่งผลเพียงแค่ตำแหน่งของ "เซซาเร ปรันเดลลี" ซึ่งขอลาออกจากเก้าอี้กุนซือเพื่อแสดงความรับผิดชอบ แต่ "จิอันคาร์โล อเบเต" ประธานสหพันธ์ฟุตบอลก็ลาออกด้วย และจะมีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 11 สิงหาคมนี้
"เดเมตริโอ อัลแบร์ตินี" รองประธานสหพันธ์ ถือเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะได้รับตำแหน่ง ซึ่งหนุ่มใหญ่วัย 42 ปี ถือเป็นคนที่แฟนบอลรู้จักกันดีเมื่อหลายปีก่อน
อัลแบร์ตินี ค้าแข้งกับมิลานระหว่างปี 1988-2002 เป็นหนึ่งในสมาชิกยุครุ่งเรือง ก่อนจะแขวนสตั๊ดกับบาร์เซโลนาในปี 2005 และติดทีมชาติอิตาลี 79 นัด ยิงได้ 3 ประตู
ในสมัยค้าแข้ง อัลแบร์ตินี ได้รับการยอมรับว่า เป็นกองกลางที่สมบูรณ์แบบคนหนึ่งของประเทศ มีทั้งพรสวรรค์ ความแข็งแกร่ง พละกำลัง เทคนิค เล่นบอลกับเท้าได้ดี ผ่านบอลดีด้วยสายตาที่เฉียบคม เตะลูกโทษและฟรีคิกได้ดี แต่อาจไม่โดดเด่นด้วยบุคลิกที่นิ่งเงียบ อีกทั้งในยุคนั้น ซูเปอร์สตาร์แทบจะเดินชนกันตายในลีกอิตาลี
ชีวิตหลังค้าแข้งของ "อัลแบร์ตินี" ถือเป็นเรื่องกึ่งตกกระไดพลอยโจนเหมือนกัน เพราะเดิมทีเจ้าตัวก็อยากจะเป็นกุนซือเหมือนกับอดีตนักเตะคนอื่นๆ ที่ต้องการอยู่ในวงการต่อ แต่หลังเกิดเหตุการณ์อื้อฉาว กรณีล็อกผลการแข่งขันในกัลโชซีรี่เอฤดูกาล 2005-06 สหพันธ์ฟุตบอลอิตาลีมีการล้างบางครั้งใหญ่ และอดีตมิดฟิลด์มิลานก็กลายมาเป็นหนึ่งในคณะกรรมการทันที
ดูจากเส้นทางตรงนี้แล้ว "อัลแบร์ตินี" คงจะกลายเป็นนักบริหารองค์กรมากกว่าจะเป็นกุนซือคุมลูกทีมฝึกซ้อมอย่างที่เคยคิดไว้
นโยบายสำคัญที่ "อัลแบร์ตินี" ย้ำเป็นพิเศษว่าจะต้องสะสางให้ได้ ก็คือการแก้ปัญหาความรุนแรง และคอร์รัปชั่น
และที่เป็นจุดอ่อนของคู่แข่งก็คือ "คาร์โล ตาเวคคิโอ" ซึ่งกำลังถูกเพ่งเล็งเรื่องเหยียดผิว อีกทั้งยังมีเรื่องหนีภาษีผสมโรงด้วยอีกต่างหาก
อย่างไรก็ตาม แม้ "ตาเวคคิโอ"จะมีแผลเหวอะหวะ แต่ถือว่าเป็นคนที่มีแต้มต่อเหนืออัลแบร์ตินี
ซึ่งมีแค่จูเวนตุสกับโรมาหนุนหลัง ขณะที่ฟิออเรนตินา, ซามพ์โดเรีย,เชเซนา และเบรสชา ถอนสมอแล้ว
ลองดูกันว่า "อัลแบร์ตินี" จะฝ่าด่านไปนั่งเก้าอี้บริหารอย่างที่ตั้งใจไว้ได้หรือไม่
และทิศทางบอลอิตาลีจะเป็นอย่างไร หลังการเลือกตั้งประธานสหพันธ์ฟุตบอล
ข่าวเด่น