หลักทรัพย์บัวหลวงเผยครึ่งปีแรกนักลงทุนแห่เก็งกำไร DW คึกคัก พบ DW บน TRUE และดัชนี SET50 นิยมสูงสุด ย้ำเลี่ยงเทรด DW ใกล้หมดอายุ พร้อมส่ง 27 ตัวใหม่ลงตลาด 4 สิงหาคมนี้ ชู 2 ตัวอ้างอิงหุ้นใหม่ TICON และ STPI ได้รับผลดีจากการเมืองคลี่คลาย และแกะกล่อง Put DW อิงหุ้น BMCLและ STPIตัวแรกในไทย
นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2557 นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrant : DW) มากขึ้น โดยสัดส่วนปริมาณการซื้อขาย DW ต่อปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวันสูงขึ้นเป็น 2.2% จาก 2.1% ในปี 2556 และ 0.9% ในปี 2555 โดยสาเหตุหลักมาจากการที่นักลงทุนเข้ามาซื้อขาย DW ประเภทสิทธิในการขาย (Put Warrant) เพื่อเก็งกำไรและป้องกันความเสี่ยงในช่วงตลาดเกิดความไม่แน่นอนสูงจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองประกอบกับนักลงทุนเริ่มมีความรู้ความเข้าใจใน DW มากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการให้ความรู้และจัดสัมมนาอย่างต่อเนื่องของโบรกเกอร์ผู้ออก DW รวมถึงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายสะสมในช่วงครึ่งปีแรกสูงถึง 92,162 ล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 762 ล้านบาท
“ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2557 DW ประเภทอ้างอิงหุ้นรายตัวที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ DW อ้างอิงหุ้น TRUE ซึ่งมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายต่อ DW ทั้งระบบสูงถึง 13.7% เนื่องจากราคาหุ้นมีความผันผวนสูง ประกอบกับมีข่าวร่วมเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์กับ China Mobile ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านสื่อสารจากประเทศจีนมาร่วมเสริมศักยภาพทางธุรกิจทำให้มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นจึงเป็นปัจจัยบวกสนับสนุนราคาหุ้น ในขณะที่สินค้าอ้างอิงประเภทดัชนีที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ SET50 ที่มีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายต่อ DW ทั้งระบบอยู่ที่ 6.9 % เนื่องจาก SET50 เป็นดัชนีที่มีการเผยแพร่อย่างกว้างขวาง ตลอดจนนักลงทุนคุ้นเคยกับตราสารอื่นๆ ที่อ้างอิงกับดัชนีดังกล่าวอยู่แล้วโดยเฉพาะ SET50 Index Future, SET50 Index Option และ TDEX”นายบรรณรงค์กล่าว
สำหรับจำนวน DW ที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 มีจำนวน 586 รุ่น แบ่งเป็น Call DW 454 รุ่นและ Put DW 132 รุ่น ครอบคลุม 79 หลักทรัพย์อ้างอิง ในขณะที่ช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้ามีจำนวน DW เพียง 418 รุ่น แบ่งเป็น Call DW 336 ตัวและ Put DW 82 รุ่น ครอบคลุม 52 หลักทรัพย์อ้างอิง ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะการแข่งขันที่สูงขึ้นของผู้ออก DW ประกอบกับทางการได้ปรับหลักเกณฑ์การออกและเสนอขาย DW ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
นายบรรณรงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทยังสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดของ DW ในอันดับ 1 อยู่ที่ 54.3% เมื่อคิดจากมูลค่าการซื้อขายสะสมตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2557 และอยู่ที่ 44.6% เมื่อคิดจากยอดการถือครอง DW โดยนักลงทุน ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 ซึ่งเป็นผลมาจากความมุ่งมั่นของบริษัทที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ เพื่อให้นักลงทุนมีทางเลือกที่หลากหลาย ตลอดจนการดูแลสภาพคล่องที่สม่ำเสมอเพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุน นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญในการให้ความรู้ความใจแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่องโดยล่าสุดบริษัทเตรียมจัดงานสัมมนาในหัวข้อ “พื้นฐานการลงทุนในใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrant)” ในวันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม 2557 เวลา 13.00-16.00 น. ณ บัวหลวงอินเวสเมนท์สเตชั่น ชั้น 4 อาคารซิลลิคเฮ้าส์ ถนนสีลม โดยผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ที่www.bualuang.co.th/investmentstation
“บริษัทยังคงแนะนำและย้ำเตือนให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนใน DW ที่มีอายุคงเหลือต่ำกว่า 2 เดือน และมีการซื้อขายอยู่ในสถานะ Out of the money คือมีราคาใช้สิทธิสูงกว่าราคาหุ้นอ้างอิง สำหรับ Call DW ส่วน Put DW จะมีราคาใช้สิทธิต่ำกว่าราคาหุ้นอ้างอิง เนื่องจาก DW ประเภทนี้มีการเสื่อมค่าของเวลาค่อนข้างเร็ว ทำให้ราคา DW ไม่ได้เคลื่อนไหวตามราคาหุ้นอ้างอิงตามที่ควรจะเป็น ดังนั้น นักลงทุนจึงควรตรวจสอบข้อมูลก่อนการลงทุนทุกครั้ง เพราะผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแม้ว่าจะให้ผลตอบแทนสูงแต่ก็มีความเสี่ยงค่อนข้างสูงเช่นกัน”นายบรรณรงค์กล่าว
นอกจากนี้ นายบรรณรงค์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันจันทร์ที่ 4 สิงหาคมนี้ บริษัทเตรียมเสนอขาย DW01 จำนวน 27 ตัว อ้างอิง 16 หลักทรัพย์ โดย 4 ตัวจะครบอายุในวันที่ 24 ธันวาคม 2557 ส่วนที่เหลือจะครบอายุในวันที่ 30 มกราคม 2558 โดยจุดเด่นของ DW ชุดนี้ อยู่ที่การออก Call DW 2 รุ่นในหุ้นอ้างอิงใหม่ที่บริษัทยังไม่เคยออกมาก่อน ได้แก่ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น (TICO01C1501A) และบริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ(STPI01C1501A) รวมทั้งยังป็นครั้งแรกในระบบที่มีการออก Put DW อ้างอิงหุ้นบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ (BMCL01P1412A) และหุ้น STPI ควบคู่กับ Call DW ที่มีการซื้อขายในปัจจุบัน เพื่อให้นักลงทุนจับจังหวะทำกำไรทั้งขาขึ้นและขาลง
“หุ้นอ้างอิงดังกล่าวน่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากเป็นหุ้นที่ได้รับผลดีจากการประกาศเดินหน้าในโครงการลงทุนต่างๆ ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รวมถึงหุ้น BMCL ที่มีการซื้อขายคึกคักและได้รับความสนใจจากนักลงทุนค่อนข้างมาก”นายบรรณรงค์กล่าว
ด้าน นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความต้องการเช่าพื้นที่โกดังสินค้าของ TICON ยังคงแข็งแกร่ง โดยมีลูกค้าแสดงเจตจำนงที่จะเข้าซื้อเช่าโกดังสินค้าแล้วถึง 400,000 ตารางเมตร ซึ่งมีแนวโน้มเปลี่ยนเป็นสัญญาเช่าล่วงหน้าและสัญญาเช่าในอนาคต อีกทั้งเงินทุนที่จะเพิ่มขึ้นจากใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ (TSR) มีแนวโน้มจะเข้ามาอย่างน้อย 2,000 ล้านบาทและการขายสินทรัพย์ในไตรมาส 4 ปี 2557 จะสนับสนุนให้สถานะทางการเงินและความสามารถในการจ่ายเงินปันผลของ TICON ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ข่าวเด่น