ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา หลายธุรกิจต้องประสบกับปัญหาในด้านของยอดขายที่ปรับตัวลดลง แต่สำหรับธุรกิจขายเพชรของบริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด (มหาชน) กับไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจและการเมืองที่เกิดขึ้น เห็นได้จากผลประกอบการ 2  ไตรมาสที่ยังคงมีอัตราการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากแนวโน้มที่ดีดังกล่าว ทำให้ ยูบิลลี่  คาดการณ์อาจต้องปรับเป้าหมายรายได้สิ้นปี ให้มีอัตราการเติบโตมากกว่า 20% จากเดิมคาดการณ์ว่าสิ้นปีนี้จะมีอัตราการเติบโตที่ประมาณ  20%

ปัจจัยที่ทำให้ภาพรวมผลการดำเนินงานของยูบิลลี่ สามารถรักษาอัตราการเติบโตด้านยอดขายได้ดี ส่วนหนึ่งเกิดจากการออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังได้จับมือร่วมกับพันธมิตรบัตรเครดิต เพื่อกระตุ้นการซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลสำคัญ  เช่น การออกคอลเลคชั่น ลา โดลเช่ (La Dolce) และ ลา คาร่า (La Kara) ในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า เป็นต้น 

จากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นนับตั้งแต่ก้าวสู่ไตรมาสที่  2  เนื่องจากปัจจัยทางด้านการเมืองมีแนวโน้มคลี่คลายไปในทางที่ดี  ส่งผลให้  ยูบิลลี่  ยิ่งออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด  เพื่อรับโอกาสกำลังซื้อของลูกค้าที่กำลังฟื้นตัว  หนึ่งในกลยุทธ์ที่นำมาใช้ คือ  การนำเสนอแหวนเพชรดีไซน์ใหม่ในคอลเลคชั่น The Excellence น้ำ 100 (D color) ระดับ Triple Excellent (3EX) ออกมาทำตลาด วางจำหน่ายในราคาพิเศษเพียง 45,900 บาท เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าสาวทันสมัยที่มีไลฟ์สไตล์

นอกจากนี้ ยูบิลลี่  ยังได้ร่วมกับบัตรเครดิตไทยพาณิชย์ นำเสนอผลิตภัณฑ์คอลเลคชั่น ‘อมาเลีย’ ซึ่งเป็นคอลเลคชั่นเอ็กซ์คลูซีพสำหรับผู้ถือบัตรเครดิตไทยพาณิชย์ พร้อมทำโปรโมชั่นพิเศษซื้อ 1 แถม 1 เมื่อซื้อแหวนเพชร ‘อมาเลีย’ รับฟรี จี้เพชรพร้อมสร้อยมูลค่า 85,000 บาท และสามารถชำระสินค้า 0% นาน 10 เดือน แถมรับเครดิตเงินคืน (Cash back) สูงสุด 20,000 บาท  จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมไตรมาส 2 ยูบิลลี่ถึงมียอดขายเติบโตดีต่อเนื่องจากไตรมาสแรก 

น.ส.อัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มาหชน)  หรือ JUBILE ผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องประดับเพชร  กล่าวว่า  ภาพรวมยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  แม้ว่าจะมีปัจจัยลบเกิดขึ้นในช่วงต้นปีเห็นได้จากยอดขายต่อบิลที่ปรับเพิ่มสูงถึง 10%  หรือประมาณ 40,000   บาทต่อบิล  เนื่องจากบริษัทมีการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับการเปิดตัวช็อปและเคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้าอย่างต่อเนื่อง  จึงทำให้กลุ่มลูกค้าพนักงาน  ผู้บริหาร และเจ้าของกิจการเข้ามาซื้อสินค้าของเพชรยูบิลลี่อย่างต่อเนื่อง

อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้  ยูบิลลี่  มียอดขายเพิ่มขึ้น คือ  พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยเริ่มมีความรู้และศึกษาเรื่องเครื่องประดับเพชรก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ จึงทำให้ช่วงที่ผ่านมามีเครื่องประดับเพชรบางแบรนด์ที่มีคุณภาพไม่สูงมากนักจำเป็นต้องปิดตัวไปแล้วหลายราย ขณะเดียวกันลูกค้าก็เริ่มไม่คำนึงเรื่องราคาเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อ เพราะปัจจุบันราคาเครื่องประดับเพชรบางประเภทมีราคาเพียงหลักหมื่นต้นๆ ซึ่งถือว่าถูกกว่าสมาร์ทโฟนบางรุ่น  ประกอบกับ ยูบิลลี่  มีการจับมือกับสถาบันการเงินให้สามารถผ่อนชำระสินค้าได้  จึงทำให้มียอดขายที่ดี

จากยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ส่งผลให้  ยูบิลลี่  มีแผนที่จะปรับเป้าหมายรายได้สิ้นปีเติบโตมากกว่า 20%  โดยในวันที่ 8 ส.ค.นี้จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้น  เพื่อปรับเป้าหมายรายได้สิ้นปีนี้เพิ่มขึ้น  จากเดิมบริษัทได้วางเป้าหมายรายได้สิ้นปีนี้มีรายได้อยู่ที่ประมาณ  1,800  ล้านบาท  เติบโตจากปี 2556 ที่ประมาณ 20%

น.ส.อัญรัตน์ กล่าวว่า การที่บริษัทมียอดขายสินค้าเพิ่มขึ้นเพราะเรามีฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีฐานสมาชิกอยู่ที่ประมาณ  1.4  แสนราย  เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีฐานลูกค้าอยู่ที่ประมาณ 1.3 แสนราย แบ่งเป็นลูกค้าในกรุงเทพฯ 40%  ต่างจังหวัด 60% ซึ่งจากแนวโน้มที่ดีดังกล่าว ประกอบกับบริษัทออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง คาดว่าสิ้นปีจะมีฐานสมาชิกมากกว่า 1.4 แสนราย

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้  ยูบิลลี่ มีแผนที่จะออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องเช่นกัน  โดยล่าสุดได้ออกมาเปิดตัวสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ STELLA POLARE หนึ่งในดีไซน์สุดหรูจาก The Excellence Series ที่คัดสรรเพชรขาวน้ำงามระดับ D Color น้ำ 100% จากแหล่งเจียระไนคุณภาพมาตรฐานระดับโลก Triple Excellent Diamonds (3EX) เมืองแอนป์เวิร์ป ประเทศเบลเยี่ยม พร้อมใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ขึ้นตัวเรือนด้วยการฝังเพชรแบบ MICROSET อันเป็นเอกลักษณ์พิเศษจากเพชรยูบิลลี่ ทำให้การจัดเรียงเพชรทุกเม็ด พิถีพิถันและประณีตในทุกๆขั้นตอน สร้างความโดดเด่นแห่งแสงประกายเพชร สื่อถึงพลังแห่งความรักอันบริสุทธิ์

นอกจากนี้  ยังได้มีการจัดโปรโมชั่นวันแม่ ‘ซื้อเพชรแจกเพชร’ ให้กับลูกค้าที่ซื้อกำไลเพชรสุดหรูคอลเลคชั่นใหม่ STELLA POLARE มูลค่า 495,000 บาท รับฟรีต่างหูเพชรมูลค่า 89,000 บาท เฉพาะ 10 ท่านแรก ที่ซื้อสินค้าภายในงาน ช้อปในงาน Jubilee...The Purest Love ระหว่างวันที่ 30 ก.ค. - 5 ส.ค. นี้  ซึ่งหลังจากเปิดตัวสินค้าใหม่ STELLA POLARE  เข้าทำตลาดทั้งในส่วนของ กำไร  ต่างหู และแหวน  ซึ่งมีราคาขายเริ่มต้นที่ 89,000 บาท  ยูบิลลี่  มั่นใจว่าหลังจากจบเดือน ส.ค.น่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นจากเดือนอื่นๆ ไม่ต่ำกว่า 30%

ส่วนแผนขยายสาขาในครึ่งปีหลังนี้  ยูบิลลี่  ยังคงเดินหน้าเปิดจุดจำหน่ายใหม่อย่างต่อเนื่อง  แต่ที่จะเป็นไฮไลท์น่าจะเป็นการเปิดตัวแฟล็กชิปสโตร์แห่งใหม่ตั้งอยู่บนพื้นที่  1,500 ตร.ม. ในย่านสีลม  เป็นตึก 4 ชั้น  รูปแบบของร้านจะเป็นศูนย์การค้าสำหรับเพชรโดยเฉพาะ เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับเอ  ซึ่งในส่วนของการก่อสร้างขณะนี้คืบหน้าไปแล้วประมาณ 80%  ภายใต้งบลงทุน  300  ล้านบาท  คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการภายในไตรมาส 3 นี้

น.ส.อัญรัตน์ กล่าวอีกว่า  ในส่วนของแผนการขยายสาขาช็อปและเคาน์เตอร์จำหน่ายเพชรยูบิลลี่ ปีนี้มีแผนที่จะขยายสาขาใหม่ให้ครบ 130 สาขา จากปัจจุบันมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการ 115  สาขา ซึ่งแต่ละสาขาคาดว่าจะใช้งบลงทุนอยู่ที่ประมาณ 7-10 ล้านบาท เน้นขยายสาขาในตลาดต่างจังหวัดเป็นหลัก  

นอกจากจะใช้กลยุทธ์ในด้านของการตลาดที่เน้นไปที่การทำกิจกรรมและออกสินค้าใหม่  เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้แล้ว  แนวทางการทำตลาดที่ ยูบิลลี่  ให้ความสำคัญ คือ  การสร้างความเชื่อมั่นในตราสินค้า หรือ Brand Awareness   เพราะกลยุทธ์สามารถกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อได้  และหลังจากที่  ยูบิลลี่ ออกมาใช้กลยุทธ์ดังกล่าว ส่งผลให้การซื้อเพชรของลูกค้าปรับตัวเพิ่มขึ้น 10%  หรือประมาณ 1-2 ครั้งต่อปี หรือประมาณ 40,000 บาทต่อครั้ง

หลังจาก ยูบิลลี่ ออกมาขยายธุรกิจและทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งปีหลังมีแผนที่จะเปิดตัวเครื่องประดับเพชรรูปแบบใหม่ๆ อีกประมาณ 200 ดีไซน์ รวมเป็น 300 ดีไซน์ จาก 20 คอลเลกชั่น  เข้ามาทำตลาดควบคู่ไปกับการทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย ยูบิลลี่  มั่นใจว่าสิ้นปีจะมีรายได้เติบโตตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ 20% ได้อย่างแน่นอน  เนื่องจากช่วงปลายปีเป็นช่วงไฮซีซั่นของการขายเครื่องประดับเพชร  ซึ่งอัตราการเติบโตดังกล่าวถือว่าสูงกว่าภาพรวมตลาดค้าปลีกเครื่องประดับเพชร ที่ปัจจุบันมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 3.5-4 หมื่นบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมา  7-10%

แต่ละกลยุทธ์ที่ยูบิลลี่เตรียมความพร้อมเพื่อทำตลาดในช่วงเวลานี้ และอนาคตในช่วงปลายปี ซึ่งถือเป็นช่วงหน้าขาย จะมีการขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อขอปรับเป้าหมายรายได้ให้เติบโตมากกว่า 20%  ซึ่งคาดว่าก็ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า ยูบิลลี่  เดินเกมได้สวนกระแสภาพรวมเศรษฐกิจจริงๆ