ดารานักแสดงที่ประสบความสำเร็จมีอยู่มากมายหลายคน ซึ่งหากเอ่ยชื่อ "แอชตัน คุทเชอร์" แล้ว ก็ต้องยอมรับว่าเขาคือหนึ่งในนักแสดงที่ประสบความสำเร็จ จนเรียกได้ว่าเขาเป็นหนึ่งในซูเปอร์สตาร์ฮอลลีวูด เพราะมีผลงานต่อเนื่องทั้งภาพยนตร์และซีรีส์ ซึ่งตอนนี้เขากำลังเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ เมื่อกำลังเป็นพ่อคน และมีข่าวว่าลูกอยู่ที่ในท้องของ "มิลา คูนิส" แฟนสาวของเขาเป็นลูกสาว งานนี้ทั้งคู่ยินดีกันมาก ส่วนเรื่องงานแต่งงานของทั้งคู่ คงต้องรอให้ลูกสาวลืมตาดูโลกได้สักระยะก่อน
"แอชตัน คุทเชอร์" เกิดเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ปี 1978 เขาเป็นลูกคนกลาง โดยมีพี่สาวชื่อ ทอชา และน้องชายฝาแฝดชื่อ ไมเคิล
แอชตัน คุทเชอร์ เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเป็นนายแบบจากเข้าประกวด IMTA competition เมื่อปี 1998 ซึ่งแม้ คุทเชอร์ จะไม่ใช่คนที่ชนะเลิศ โดยเขาได้รองชนะเลิศอันดับ 1 โดยผู้ชนะเลิศ คือ ตอช ดูฮาเมล (ซึ่งต่อมา ดูฮาเมล ก็ผันตัวเป็นนักแสดงด้วย ) แต่รูปร่างหน้าเขาเป็นที่เตะตา ทำให้ได้เซ็นสัญญากับเอเจนซีที่นิวยอร์ก ได้ไปถ่ายแบบ และเดินแบบตามที่ต่างๆ รวมทั้ง ปารีส ประเทศฝรั่งเศส และ มิลาน ประเทศอิตาลี และโฆษาชิ้นแรกของเขาคือ โฆษณาคาลวิน ไคล์
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ คุทเชอร์ สนใจงานด้านการแสดงด้วย ทำให้เขาย้ายมาอยู่ลอสแอนเจลิส ซึ่งถือเป็นเมืองขึ้นชื่อด้านวงการบันเทิง โดยได้ไปออดิชั่นเพื่อคัดเลือกเป็นนักแสดงในซีรีส์แนวตลกหรือซิตคอมเรื่อง That's 70 show และเขาได้รับบท ไมเคิล เคลโซ ซึ่งซิตคอมเรื่องนี้สร้างชื่อเสียงให้เขามากพอควร คนไทยบางส่วนก็เคยได้ชมผ่านทางเคเบิลทีวียักษ์ใหญ่ของไทย โดยซิตคอมเรื่องนี้ออกอากาศระหว่างปี 1998-2006
ในส่วนของภาพยนตร์ คุทเชอร์ ได้แสดงหลายเรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแนวตลก ไม่ว่าจะเป็น Dude,Where's My Cat? (ปี 2000) , Just Married (ปี 2003) , Just Married (ปี 2003) และ Guess Who (ปี 2005)
ส่วนภาพยนตร์แนวอื่นที่เขาเคยแสดงคือ Cheaper By The Dozen เมื่อปี 2003 (เรื่องนี้เป็นหนังครอบครัวกึ่งตลก) และ The Butterfly Effect ซึ่งเป็นแนวดราม่า
คุทเชอร์ ไม่ได้มีดีเพียงแค่การแสดงเท่านั้น เขายังผลิตและแสดงในซีรีส์เรื่อง Punk'd ที่ออกอากาศทาง MTV และยังเป็นโปรดิวเซอร์รายการเรียลลิตี้โชว์ " Beauty and the Grek" , "Adventured in Hollyhood." , " The Real Wedding Crashers" รวมถึงเกมโชว์อย่าง "Opportunity Knocks" ถือได้ว่าเป็นนักแสดงที่มีความสามารถรอบตัวทีเดียว
ในปี 2011 คุทเชอร์ ได้แสดงในซิตคอมสุดฮิตเรื่อง Two and a Half Men โดยมารับบทนำแทนที่ ชาร์ลี ชีน ซึ่งมีปัญหาชีวิตและปัญหากับต้นสังกัด แต่การมารับบทนำแทน ไม่ใช่การมารับบทเดียวกัน โดยชาร์ลี ชีน รับบท ชาร์ลี ฮาร์เปอร์ ขณะที่ คุทเชอร์ มารับบท วอลเดน ชมิตช์ ซึ่งในตอนที่แฟนๆ ทราบว่าเขาจะได้เล่นซิตคอมเรื่องนี้ หลายคนก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอย โดยตอนแรกที่เขาปรากฎตัวในซีรีส์เรื่องนี้ คือ Nice To Meet You, Waldn Schmidt ซึ่งออกอากาศเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2011 มีการสำรวจว่า มีผู้ชมฝนสหรัฐราวๆ 28.7 ล้านคน ซึ่งมากกว่าทุกๆ ตอนใน 8
ซีซั่นก่อนหน้านี้ที่ ชีน แสดง ซึ่งจากซีซั่น 9 ที่ คุทเชอร์เริ่มแสดง ตอนนี้จบซีซั่น 11 และทางผู้สร้างบอกจะสร้างถึงซีซั่น 12 เท่านั้น แม้จะได้รับความนิยมมากก็ตาม
นอกเหนือจากเรื่องของการแสดงแล้ว เรื่องส่วนตัวของเขาก็ดูเป็นที่สนใจ คุทเชอร์เคยออกเดทกับนักแสดงหญิงแจนยูอารี โจนส์ (จาก 1998 จวบ 2001) แอชลี่ย์ สก็ต (จาก 2001 จวบ 2002 มอนเน็ท มอนเซอร์ (2002) และบริทานี่ เมอร์ฟี่ (จาก 2002 จวบ 2003) การเลิกกันในปี 2003 ทำให้เขามีความสัมพันธ์ใหม่กับ เดมี่ มัวร์ โดยมีข่าวไม่ขาดสายในของอายุที่แตกต่างมากเกินไป
มัวร์กับคุชเชอร์แต่งงานกันในวันที่ 24 กันยายน 2005 ในงานส่วนตัวๆ งานแต่งงานนี้สำหรับ 100 คนรู้จักที่ใกล้ชิดกันเท่านั้น ต่อมาได้หย่าร้างกับเดมี่ มัวร์ เมือเดือนธันวาคมปี 2013 และได้มาคบหากับ คูนิส ในที่สุด
ต่อจากนี้ คงต้องดูกันต่อไปว่า ชีวิตทั้งการงานและส่วนตัวของ คุทเชอร์ จะเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าเขาจะต้องมีผลงานดีๆ ออกมาให้คนดูอย่างต่อเนื่องแน่นอน
ข่าวเด่น