แม้ว่าภาพรวมตลาดน้ำอัดลมในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จะได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองไปบ้าง แต่หลังจากทุกอย่างผ่านพ้นไปและปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ผู้ประกอบการในตลาดน้ำอัดลมก็เริ่มออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่แบรนด์ที่ออกมาทำตลาดย้ำการเป็นผู้นำตลาดอยู่เป็นระยะ ก็น่าจะเป็น บริษัท โคค่า-โคล่า (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจน้ำอัดลมภายใต้แบรนด์โค้กและแฟนต้า
หลังจากคู่แข่งอยู่ในช่วงระหว่างปรับกระบวนทัพกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางธุรกิจ บริษัท โคคา-โคล่าฯ ก็จัดทัพบุกหนัก ส่งผลให้ปัจจุบันยังคงนั่งแท่นเป็นผู้นำตลาดน้ำอัดลมโดยรวม ด้วยการครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 58% เพิ่มขึ้นจากช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 52%
จากความสำเร็จดังกล่าว ส่งผลให้บริษัท โคคา-โคล่าฯ ออกมาเดินเกมทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวบรรจุภัณฑ์ใหม่เข้าทำตลาด การเปลี่ยนรูปแบบของสีบรรจุภัณฑ์ หรือการพิมพ์ชื่อลงบนกระป๋องของบรรจุภัณฑ์ ซึ่งสร้างความคึกคักให้กับตลาดน้ำอัดลมในช่วงที่ผ่านมาพอสมควร
ล่าสุด บริษัทโคคา-โคล่าฯ ออกมาย้ำความเป็นผู้นำในตลาดน้ำสี ด้วยการออกมาเปิดตัวแคมเปญใหญ่แห่งปี “แฟนต้า แพคซ่า ส่งสนุก เกรียนสนั่น” ด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์เจาะกลุ่มตลาดวัยรุ่น ด้วยแฟนต้ารุ่นพิเศษที่มีการประทับ “ข้อความโดนใจวัยรุ่น” กว่า 50 ข้อความ ลงบนบรรจุภัณฑ์แฟนต้า ให้วัยรุ่นและผู้บริโภคไทยได้ใช้แฟนต้าเป็นสื่อกลาง “ส่งต่อความสนุกซ่าให้แก่กัน”
นายคอสตาส เดลิอาลิส ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในจำนวน 200 ประเทศทั่วโลกที่เราเข้าไปทำตลาด แฟนต้าประเทศไทยจัดเป็นตลาดใหญ่อันดับ 4 ของโลก โดยประสบความสำเร็จด้วยยอดขายที่เติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง ในฐานะผู้นำตลาดเครื่องดื่มอัดลมกลิ่นผลไม้ที่ครองใจวัยรุ่น
ทั้งนี้ การสร้างสรรค์นวัตกรรม คือ หัวใจสำคัญของแฟนต้า บริษัทจึงเตรียมรุกตลาดด้วยแคมเปญสุดซ่าใหม่ล่าสุด ‘แฟนต้า แพคซ่า ส่งสนุก เกรียนสนั่น’ ซึ่งบริษัทได้ริเริ่มขึ้นภายใต้แนวคิดของการเติมสีสันและความสนุกให้ทุกวันของชีวิต อันเป็นแนวคิดหลักของแบรนด์ เพื่อสนับสนุนให้วัยรุ่นและผู้บริโภคไทยกล้าที่จะหลุดพ้นจากกรอบกิจวัตรประจำวันที่จำเจ และใช้จินตนาการเติมสีสันให้กับชีวิต ด้วยการส่งต่อและแบ่งปันผลิตภัณฑ์แฟนต้ารุ่นพิเศษพร้อม ‘ข้อความโดนใจวัยรุ่น’ ภายในกลุ่มเพื่อนและคนรู้จั
นายอคิรา นพคุณขจร ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโส เครื่องดื่มแฟนต้า บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แฟนต้าเป็นแบรนด์แห่งสีสันและความสนุกสนานที่สามารถเปลี่ยนวันธรรมดาและความตึงเครียดให้กลายเป็นช่วงเวลาแห่งสีสันและความสนุกสุดซ่าได้
สำหรับแคมเปญ ‘แฟนต้า แพคซ่า ส่งสนุก เกรียนสนั่น’นี้ บริษัทได้จับกระแสของการส่งต่อข้อความโดนใจผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์คในกลุ่มวัยรุ่น สร้างสรรค์เป็นข้อความโดนใจสุดจี๊ดกว่า 50 ข้อความ บนกระป๋องและขวด PET ของแฟนต้า โดยแบ่งออกเป็น 3 หมวดหมู่ ประกอบด้วย 1. ข้อความสำหรับความสนุกสุดซ่ากับแก๊งเพื่อน 2. ข้อความสำหรับความรู้สึกใสๆ ของวัยรุ่น และ 3. ข้อความสำหรับไลฟ์สไตล์วัยรุ่น ให้เหล่าวัยรุ่นและผู้บริโภคได้เลือกสรรนำไปส่งต่อความสนุกสนานได้หลากหลายอารมณ์และสถานการณ์
นอกจากนี้ บริษัท โคคา-โคล่าฯ ยังนำความสนุกสนานอันเป็นบุคลิกเด่นของแบรนด์ผ่าน ‘แฟนต้า เพลย์แก็งค์’ ที่จะมาวาดลวดลายสร้างสีสันสุดซ่าบนแพ็คเกจดีไซน์พิเศษ ขณะเดียวกันยังได้เตรียมงบลงทุนกว่า 120 ล้านบาท จัดทำกิจกรรมการตลาดกับผู้บริโภคอย่างครบวงจร ประกอบด้วย 1. การทำมิวสิควิดีโอกับศิลปินขวัญใจวัยรุ่น นักร้องสาวหน้าใส ‘Thank You’ จากกามิกาเซ่ เพื่อโปรโมทแฟนต้ารุ่นพิเศษ 2.การโฆษณาโทรทัศน์ และพิเศษสุด 3. การเปิดตัว ‘แฟนต้า สติกเกอร์ไลน์ แฟนต้า เพลย์แก็งค์’ ให้ผู้บริโภคดาวน์โหลด ผ่าน ‘ไลน์ แอพพลิเคชั่น’ เอาไว้ส่งข้อความสุดจี๊ดโดนใจในกลุ่มเพื่อน เพื่อกระจายความสนุกสุดซ่า
ปัจจุบันเครื่องดื่มแฟนต้ามีสินค้าให้เลือกดื่มทั้งหมด 4 รส ได้แก่ แฟนต้าส้ม แฟนต้าสตรอเบอรี่ (น้ำแดง) แฟนต้าฟรุ๊ตพั้นช์ (น้ำเขียว) และแฟนต้าองุ่น ในรูปแบบกระป๋องสลิมขนาด 240 มิลลิลิตร กระป๋องสลีคขนาด 325 มิลลิลิตร และขวด PET ขนาด 450 มิลลิลิตร,500 มิลลิลิตร, 1.25 ลิตร และ 1.5 ลิตร ซึ่งหลังจากออกมาทิจกรรมส่งเสริมการขายดังกล่าว บริษัท โคคา-โคล่าฯ มั่นใจว่าจะสามารถย้ำความเป็นผู้นำตลาดน้ำสีได้เป็นที่น่าพอใจ จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 76% จากตลาดรวมน้ำสี 10,913 ล้านบาท
ด้านบริษัท เสริมสุข จำกัด(มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มอัดลมภายใต้แบรนด์ "เอส"แม้จะเป็นแบรนด์น้องใหม่ในตลาด แต่ด้วยความเก๋าของการเคยเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มอัดลภายใต้แบรนด์เป๊ปซี่มาก่อน จึงทำให้ เอส ได้ผลการตอบรับดีจากผู้บริโภค เนื่องจากสามารถกระจายสินค้าเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง ล่าสุดออกมาเปิดตัว “เอสฟรี” สูตรไร้น้ำตาลเข้าทำตลาด เพื่อสร้างสีสรรให้กับตลาดน้ำอัดลม
นายฐิติวุฒิ์ บุลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเปิดตัว “เอส ฟรี” เครื่องดื่มน้ำอัดลมไร้น้ำตาล ไร้แคลอรีเข้าทำตลาดในครั้งนี้ เพื่อสร้างความคึกคักให้กับตลาดน้ำอัดลมมูลค่า 45,000 ล้านบาท และขยายพอร์ตน้ำอัดลมภายใต้แบรนด์ “เอส” ให้ครบทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยชูคอนเซปต์น้ำอัดลมทางเลือกใหม่ “เอส ฟรี ชีวิตอิสระสุดขั้ว” เปลี่ยนไลฟ์สไตล์แบบเดิมๆ กับรสชาติความอร่อยซ่าสุดขั้วของเอส แบบไม่ต้องกังวลแคลอรี โดยจะคอนเน็กต์กลุ่มวัยรุ่นยุคใหม่ ผ่านแคมเปญการตลาดสุดขั้ว พร้อมกิจกรรมเต็มรูปแบบผ่านโซเชียลมีเดีย และคาราวานแจกผลิตภัณฑ์ให้ผู้บริโภคทดลองดื่ม
ปัจจัยที่ทำให้บริษัท เสริมสุข ออกมาเปิดตัวสินค้านวัตกรรมใหม่เข้าทำตลาด เนื่องจากเทรนด์ผู้บริโภคคนไทยในปัจจุบันให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้นไม่แพ้ประเทศอื่นๆ ดังนั้นบริษัท เสริมสุข ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มชั้นนำของเมืองไทย จึงมุ่งมั่นในการพัฒนา ผลิตภัณฑ์คุณภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยการส่งเครื่องดื่ม “เอส ฟรี”เข้ามาทำตลาดในปีนี้ เพื่อตอบทุกโจทย์ความสดชื่นของผู้บริโภคเจนเอส
นายฐิติวุฒิ กล่าวว่า “เอส ฟรี” ถือเป็นอาวุธสำคัญของบริษัทในการขยายพอร์ตน้ำอัดลมซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ขาธุรกิจหลัก ที่บริษัทให้ความสำคัญอย่างมากเข้ามาเสริมทัพ “เอส โคล่า” และ “เอส เฟลเวอร์” เพื่อรุกตลาดน้ำอัดลมไร้แคลอรีเต็มสูบ แม้จะเป็นตลาดที่มีขนาดเล็กเพียงแค่ 800 ล้านบาท แต่ก็มีศักยภาพและการเติบโตสูงที่สุดในกลุ่มน้ำอัดลมถึง 10%
ปัจจุบันเครื่องดื่ม “เอส ฟรี” มีสินค้าให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้ออยู่ด้วย 2 ขนาด คือ แบบกระป๋อง 325 มล. ราคา 14 บาท และขนาด 1 ลิตร ราคา 20 บาท ในช่องทางร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ สถานีบริการน้ำมัน ซุปเปอร์มาร์เกต และไฮเปอร์มาร์เกตชั้นนำทั่วประเทศ ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถรุกตลาดน้ำอัดลมได้อย่างสุดขั้ว และก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์น้ำอัดลมตัวหลัก ที่จะช่วยให้ “เอส” เป็นน้ำอัดลมขวัญใจผู้บริโภคคนไทย
สำหรับค่ายเป๊ปซี่ หลังจากออกมาประกาศทวงแชมป์อันดับ 1 ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา และออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ตอนนี้ค่ายเป๊ปซี่ยังคงซุ่มเงียบในการออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่นเดียวกับค่ายบิ๊กโคล่า ซึ่งยังคงซุ่มเงียบตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ปล่อยให้ค่ายโค้กกับเอส ฟาดฟันชิงยอดขายกันอย่างดูเดือด แม้ว่าช่วงครึ่งปีแรกยอดขายจะซึมๆ ไปบ้าง แต่ปัจจัยลบดังกล่าวก็ไม่ใช่ปัญหาหลัก เพราะธุรกิจยังคงต้องเดินหน้าต่อไป ตราบใดที่ผู้บริโภคยังต้องการปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิต
ข่าวเด่น