แม้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะมีการผ่อนปรนกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อคืนความสุขให้กับประชาชน แต่ต้องยอมรับว่า การประกาศใช้กฎอัยการศึกที่ยังไม่มีการยกเลิก ได้สร้างความเสียหายต่อธุรกิจการท่องเที่ยวในปีนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นายรุ่งโรจน์ สีเหลืองสวัสดิ์ รองประธานฝ่ายวิชาการ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ยอมรับว่า แม้ขณะนี้ภาพรวมการท่องเที่ยวของไทยปรับดีขึ้น แต่ยังไม่เต็ม 100% เนื่องจากยังอยู่ในช่วงประกาศกฎอัยการศึก ส่งผลให้บริษัทประกันภัยในต่างประเทศไม่กล้ารับประกันความเสี่ยง โดยเฉพาะยอดนักท่องเที่ยวต่างประเทศในพื้นที่กรุงเทพฯและพัทยากลับเข้ามาเพียง 30-40% จากที่หายไป 50-60%
ด้าน นายธวัชชัย อรัญญิก ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า การยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวจากจีนและจีนไทเป (ไต้หวัน) เป็นไปตามนโยบายของ คสช. ที่ได้ประกาศใช้มีผลบังคับใช้ระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ 9 สิงหาคม ถึง 8 พฤศจิกายน 2557 เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
ที่น่าจะช่วยกระตุ้นนักท่องเที่ยวจีนให้มาเที่ยวไทยมากขึ้นเป็น 4-5 แสนคนต่อเดือน จากเดิมที่มีเพียง 2-3 แสนคนเท่านั้นสืบเนื่องจากสถานการณ์ทางการเมือง โดยนโยบายนี้น่าจะช่วยกระตุ้นให้มีการท่องเที่ยวมากขึ้นเพราะอยู่ในช่วงวันชาติจีน เดือนตุลาคมนี้ซึ่งเป็นวันหยุดยาว คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากจีนประมาณ 1.5 ล้านคน มายังประเทศไทย ส่วนภาพรวมในปีนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนมาไทยจำนวนทั้งสิ้น 4.3 ล้านคน มากกว่าเป้าหมายเดิมที่คาดไว้ 3.98 ล้านคน
ส่วน สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) ก็ยอมรับว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวไทยภายใต้ประกาศกฎอัยการศึก พบว่า มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้า-ออกผ่านสนามบินสุวรรณภูมิเฉลี่ยเพียง 7-8 หมื่นคนต่อวัน ต่ำกว่าช่วงสถานการณ์ปกติที่มีเฉลี่ย 1-1.4 แสนคนต่อวัน จึงมองว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไปอาจจะทรงตัว ทำให้ภาพรวมการท่องเที่ยวทั้งปี 2557 มีความเป็นไปได้สูงที่ยอดนักท่องเที่ยวจะอยู่ที่ประมาณ 20 ล้านคน ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่า ปีนี้จะมีนักท่องเทียว 26.5 ล้านคน เช่นเดียวกับรายได้ที่อาจไม่ถึง 2 ล้านล้านบาท อาจส่งผลต่อรายได้ปี 2558 ที่อาจไม่ถึงเป้าหมาย 2.2 ล้านล้านบาท
ด้าน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปี 2557 น่าจะมีนักท่องเที่ยวหายไปราว 2.5 ล้านคน สูญเสียรายได้ไป 109,560 ล้านบาท
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. บอกเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ในส่วนภาคธุรกิจท่องเที่ยว ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไปหาวิธีการหรือมาตรการต่างๆ เพื่อแสดงให้เห็นว่า การดูแลด้านความมั่นคงกับการท่องเที่ยวสามารถเดินหน้าไปด้วยกันได้ แม้มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกอยู่ก็ตาม โดยเน้นการประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น รวมถึงออกมาตรการประกันความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย
การยกเลิกกฎอัยศึกของ คสช.ในระยะเวลาอันใกล้ คงจะเกิดขึ้นได้ยาก เมื่อสถานการณ์ทางการเมืองที่ดูเหมือนว่าจะมีความสงบ แต่ก็ยังมีคลื่นใต้น้ำที่อาจสร้างความเสียหายต่อประเทศ ดังนั้นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวคงต้องพยายามพึ่งตนเอง โดยเน้นนักท่องเที่ยวในประเทศให้มากขึ้น
ข่าวเด่น