เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" ผู้บัญชาการทหารบก และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของไทย แม้จะเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากทหารคนแรกในรอบกว่า 50 ปี ซึ่งหลังการประกาศสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก็ได้รับการตอบรับไปในทางที่ดีจากภาคเอกชน
โดย นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและหอการค้าไทย เห็นว่า เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทย ต้องการผู้นำที่เข้มแข็ง มีวินัย นำประเทศไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดี และช่วง 3 เดือนที่เข้าบริหารประเทศ แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำ ทำงานหนัก สามารถปลดล็อกปัญหาต่าง ๆ ได้เห็นเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในด้านของเศรษฐกิจ
โดยหลังตั้งรัฐบาลใหม่ งานเร่งด่วนที่เอกชนอยากเห็น คือ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เข้มแข็ง และอยากให้ยกเลิกกฎอัยการศึกในบางจังหวัด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว และกระตุ้นความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวเข้าไทย เพื่อชดเชยรายได้จากราคาพืชผลที่ยังไม่ดีนัก
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า สิ่งที่คาดหวังในรัฐบาลชุดใหม่ คือ ต้องการเห็นการวางแผนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจไทยในระยะยาว โดยเป็นนโยบาย และแผนในอีก 20 ปีข้างหน้า ว่า ภาพอนาคตประเทศไทยจะเป็นอย่างไร
นายอิสระ บุญยัง อดีตนายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า การที่หัวหน้าคสช.ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จะทำให้นโยบายของ คสช.ที่กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งเป็นนโยบายที่ดีในหลายเรื่อง สามารถสานต่อได้อย่างต่อเนื่อง และเกิดความรวดเร็วในการบริหารนโยบายต่าง ๆ
โดยภาคอสังหาริมทรัพย์ เห็นว่า คสช.ควรจะดูแลภาคเศรษฐกิจโดยรวมให้ฟื้นตัว และเร่งปฏิรูปประเทศตามสิ่งที่ตั้งใจไว้ เพราะ 7-8 เดือนที่เกิดปัญหาการเมือง ทำให้ภาคเศรษฐกิจทุกส่วนชะลอตัวลง ดังนั้นเมื่อมีนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชุดใหม่จะเป็นผลดีต่อนักลงทุน
ขณะที่ นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เห็นว่า ประชาชนคนไทยควรให้โอกาส พลเอกประยุทธ์ เข้ามาทำให้ประเทศไทยเข้าสู่ภาวะสงบสุข และให้มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน หลังจากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยเกิดความไม่สงบสุข ประชาชนแตกแยก ซึ่งถือว่าไม่เคยเกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมา ถึงขั้นมีการพูดถึงการแบ่งประเทศ แต่หลังจากที่มีการรัฐประหารเกิดขึ้นในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ประเทศไทยเกิดเสถียรภาพ มีความสงบสุขมั่นคง และทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีแผนการพัฒนาประเทศ และมีความต้องการที่จะปราบปรามคอร์รัปชั่นให้หมดไปจากประเทศไทย โดยคนไทยควรให้กำลังใจพลเอกประยุทธ์ ในการเข้ามาพัฒนาประเทศ
.jpg)
ส่วนท่าทีของต่างประเทศ นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า ยังคงไม่มีปฏิกิริยาจากต่างประเทศถึงการณีดังกล่าว แต่ที่ผ่านมาจากการเดินสายอธิบายถึงเหตุการณ์ทางการเมืองของไทยให้นานาประเทศได้รับทราบ ประเทศต่าง ๆ ก็เข้าใจในสถานการณ์และให้ความสำคัญต่อเนื้อหาและนโยบายโดยได้ติดตามโรดแมปที่คสช.ได้ตั้งไว้เพื่อนำไปสู่การเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยมากกว่ามองที่ตัวบุคคลว่าใครจะเป็นผู้ได้รับตำแหน่ง
.jpg)
ข่าวเด่น