เอสเอ็มอี
หลุยส์ สก็อต และ มาร์กี้ ราศี พรีเซ็นเตอร์งาน


 


กระทรวงอุตสาหกรรม ครบรอบ 72 ปีพร้อมจัดงานใหญ่ "Thailand Industry Expo 2014" ภายใต้แนวคิด “ซื้อของไทย ใช้ของดี SMEs ยั่งยืน คืนความสุขให้ประชาชน”  ระหว่างวันที่  26-31 สิงหาคม  ณ  อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมมั่นใจมีเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาทตลอด 6 วันจัดงานช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทย เชิญชวนบรรดาผู้ประกอบการและประชาชนได้ดูของดี เห็นของใหม่ ซื้อของถูกลด 20%-50%

กระทรวงอุตสาหกรรม ที่ดำเนินการมาครบรอบ 72 ปี พร้อมเปิดฉากงานใหญ่ "Thailand Industry Expo 2014" ภายใต้แนวคิด “ซื้อของไทย ใช้ของดี SMEs ยั่งยืน คืนความสุขให้ประชาชน”  ระหว่างวันที่  26-31 สิงหาคม  ณ  อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี รวม 6 วัน ตั้งแต่ 10.00 น.- 20.00 น.  ซึ่งงานนี้จัดขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในฐานะพระผู้ทรงเป็นนักพัฒนา โดยเฉพาะพัฒนาอาชีพและเสริมสร้างวิสาหกิจชุมชน นอกจากนี้ยังเพื่อแสดงศักยภาพของอุตสาหกรรมไทย ผู้ประกอบการไทยและความพร้อมของประเทศไทยสำหรับเป็นแหล่งเชื่อมโยงอุตสาหกรรมของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC อีกทั้งเพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของ SMEs และวิสาหกิจชุมชนเพื่อเตรียมความพร้อมสู่โอกาสทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นในปี 2558


ดร.อรรชกา สีบุญเรือง อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมเปิดเผยว่า ความยิ่งใหญ่ของงาน  "Thailand Industry Expo 2014" ประกอบด้วย 3 พ.ได้แก่ 1 พื้นที่ โดยงานจะจัดเต็มบนพื้นที่ 60,000 ตารางเมตรของอาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี 2.พันธมิตร เป็นการผนึกกำลังความร่วมมือจากผู้ประกอบการที่ร่วมจัดแสดงผลงานมากกว่า 1,500 ราย แบ่งเป็นผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศมากกว่า 70 หน่วยงานและผู้ประกอบการ SMEsและวิสาหกิจชุมชน หรือ OTOP จากทั่วประเทศมากกว่า 1,500 ราย   3. พลัง  งานนี้จะเป็นการแสดงพลังของภาคอุตสาหกรรมไทย ความเป็นหนึ่งเดียวกันที่มีความพร้อมและศักยภาพ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมไทยเข้มแข็ง แข็งแรงและเป็นศูนย์กลางการผลิตของ AEC

“ งานนี้นับว่า มีพันธมิตรตั้งแต่รายใหญ่ ขนาดกลางไปจนถึงรายเล็กเข้าร่วมงาน รวมถึงพาร์ทเนอร์ภาคเอกชนประมาณ 30 ราย เช่น ซีพีเอฟ  เบทาโกร น้ำตาลมิตรผล  ไทยเบฟเวอเรจ  บริษัท สหพัฒนพิบูล  เอสซีจี บุญรอดบริวเวอรี่ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มบริษัทรถยนต์ทั้ง ฮอนด้า กรังด์ปรีซ์  อีซูซุ  ซูซูกิ และ เบนซ์  บริษัทผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า  ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่ม

ส่วนกลุ่มสถาบันการเงินได้เข้าร่วมด้วยเช่นกัน อาทิ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรและธนาคารกรุงไทย เป็นต้น ซึ่งจะมาพร้อมแพ็คเกตพิเศษสำหรับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs” 

สำหรับรูปแบบการจัดงาน ดร.อรรชกากล่าวว่า ภาพรวมของการจัดงาน  "Thailand Industry Expo 2014" มหกรรม “ซื้อของไทย ใช้ของดี SMEs ยั่งยืน คืนความสุขให้ประชาชน” ในครั้งนี้ประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก ได้แก่ กิจกรรมในส่วนของนิทรรศการและกิจกรรมในส่วนการประชุมสัมมนาและเวิร์กช็อป  โดยในส่วนของนิทรรศการแบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ 

1.ส่วนนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ในฐานะพระผู้ทรงเป็นนักพัฒนาด้านการพัฒนาอาชีพและเสริมสร้างวิสาหกิจชุมชน เพื่อเป็นการเผยแพร่พระราชกรณียกิจที่สำคัญของพระองค์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศไทย รวมถึงเผยแพร่แนวพระราชดำริและองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน

2.ส่วนนิทรรศการของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยนิทรรศการในส่วนนี้จะนำเสนอผลงานจากก้าวแรก สู่ความก้าวหน้า 72 ปี กระทรวงอุตสาหกรรม ของกระทรวงและหน่วยงานในสังกัดต่าง ๆ 

3.ส่วนนิทรรศการแสดงสินค้าและบริการ โดยในส่วนนี้จะเป็นการจัดแสดงสินค้าและบริการจากผู้ประกอบการชั้นนำของประเทศ ผู้ประกอบการ SMEsและวิสาหกิจชุมชน หรือ OTOP จากทั่วประเทศ รวมมากกว่า 1,500 ราย

นอกเหนือจากนี้ยังมีความบันเทิงตลอดการจัดงานจากนักร้อง นักแสดงที่มีชื่อเสียงอย่างต่อเนื่องตลอดงาน อาทิ  การแสดงจากรายการคุณพระช่วย, มินิคอนเสิร์ตจากหญิง ลี ,ก้อง สหรัถ, ฮั่น The Star, ป๊อบ แคลอรี บลา บลา และบุรินทร์ (Groove Rider) เป็นต้น

ดร.อรรชกา คาดการว่า การจัดงานในครั้งนี้จะทำให้มีเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาทตลอดการจัดงานเป็นเวลา 6 วัน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาวะที่ยังไม่ฟื้นเต็มที่ได้ ขณะเดียวกันยังช่วยให้ SMEs มีช่องทางการตลาดในการขายสินค้าและช่วยให้ประชาชนได้จับจ่ายใช้สอยสินค้าราคาถูก แต่ที่ผ่านมาสภาวะธุรกิจของธุรกิจ SMEs ถือว่าดีขึ้นแล้วภายหลังจากการชุมนุมทางการเมือง จากก่อนหน้านี้ประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย 

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานหนึ่งที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการในการบริหารจัดการการผลิต นอกจากนี้ยังมีสถาบันเครือข่ายมากมายในกระทรวงและหน่วยงานอื่น ๆ เช่น หากเป็นเรื่อง OTOPและวิสาหกิจชุมชนก็จะทำงานร่วมกับกรมพัฒนาชุมชน นอกจากนี้ยังร่วมกับกระทรวงพาณิชย์และอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง  

ทั้งนี้ได้เชิญชวนบรรดาผู้ประกอบการที่ต้องการเรียนรู้การทำธุรกิจมาเยี่ยมชมงาน เพื่อจะได้เรียนรู้ เกิดการสร้างเครือข่ายที่นำไปสู่การช่วยกันพัฒนา แลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อทำให้ธุรกิจเติบโต แข็งแรงได้อย่างยั่งยืน ในส่วนของประชาชนผู้บริโภคนั้นมาแล้วจะได้ดูของดี ได้เห็นของใหม่ที่ปรกติไม่มีขายในไทยเพราะผลิตเพื่อส่งออกเท่านั้นและซื้อสินค้าราคาพิเศษลด 20%-50% โดยไฮไลท์อย่างหนึ่งของงาน เช่น เปลือกไข่นกกระจอกเทศที่มีการออกแบบสวยงาม

ด้านสองพรีเซนเตอร์ของงานนี้ หลุยส์ สก็อต และ มาร์กี้ ราศี ร่วมโชว์วิสัยทัศน์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ในการทำธุรกิจ โดยในส่วนของมาร์กี้ได้เริ่มทำธุรกิจแล้ว เปิดร้าน “Imbrand” ขายเครื่องประดับจากคริสตัลและมุกแท้ผ่านอินสตราแกรม มีทั้ง สร้อยคอ ต่างหู แหวน ซึ่งมาร์กี้จะคัดเลือกสินค้าและออกแบบเองเพื่อลดค่าใช้จ่าย แต่ก็ยอมรับว่า การเริ่มต้นเป็นเรื่องที่ยากและมีอุปสรรคมากมาย เช่น การออกแบบต้องแก้หลายรอบ สีสันออกมาไม่ตรงกันและใช้เวลานานกว่าจะสำเร็จ 


ส่วนหลุยส์มีแนวคิดที่จะทำธุรกิจเช่นกันจากวัยที่เพิ่มขึ้นที่ทำให้เป็นห่วงอนาคต ซึ่งจะนำมาผสมผสานกับประสบการณ์การทำงาน โดยสนใจทำธุรกิจเกี่ยวกับเสื้อผ้ายีนส์

ทั้งนี้สุดท้ายสองพรีเซนเตอร์ได้เชิญชวนให้ประชาชนและผู้ประกอบการมาร่วมงาน  "Thailand Industry Expo 2014" ในโอกาสครบรอบ 72 ปีกระทรวงอุตสาหกรรมให้มาก ๆและอุดหนุนสินค้าของไทยเพื่อไม่ให้เงินตรารั่วไหลออกนอกประเทศ

 


LastUpdate 23/08/2557 09:46:35 โดย : Admin
24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 10:04 pm