แค่ไปสนามซ้อมและไปดูเกมที่สนามเอติฮัดเมื่อคืนวันจันทร์ ลิเวอร์พูลก็แพ้เลย ทำให้มีเสียงแหย่ไปที่ "มาริโอ บาโลเตลลี" กองหน้าตัวใหม่ของทีมหงส์แดง ว่าเป็น "อีแร้ง" ขณะที่ในความเป็นจริง การที่ลิเวอร์พูลแพ้ทีมแชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-3 ประตู ไม่ใช่เรื่องประหลาดแต่ประการใด เพราะทีมเรือใบสีฟ้าเล่นในบ้านได้ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว
กองหน้าทีมชาติอิตาลี มีชื่อเสียงด้านการเป็นนักเตะพรสวรรค์สูง มีทักษะยอดเยี่ยม คุณสมบัติครบถ้วนที่จะเป็นกองหน้าชั้นเลิศ ขณะที่อีกมุมหนึ่งเขากลับมีชื่อเสียด้านอารมณ์ศิลปิน ไม่ได้มีความมุ่งมั่นจริงจังกับเกมการแข่งขันตลอดเวลาเหมือนนักเตะคนอื่น ขณะที่อุปนิสัยส่วนตัวก็ยังเป็นวัยรุ่นที่ยังขาดสติไตร่ตรองในหลายๆ เรื่อง ขนาดที่ได้รับฉายาจากผู้สื่อข่าวกีฬาเมืองไทยว่า 'เกรียนโอ้' ผู้จัดการทีมที่จะทำให้เขาแสดงฝีเท้าออกมาได้อย่างเต็มที่ ต้องเป็นคนที่มีจิตวิทยาสูงทีเดียว
อดีตนักเตะลิเวอร์พูลหลายคน เป็นห่วงว่าการซื้อ "บาโลเตลลี" มาร่วมทีมจะเสียมากกว่าได้ เพราะอาจทำให้สปิริตของทีม การรวมใจกันเป็นหนึ่งสูญหายไป
อย่างไรก็ตาม "เบรนแดน ร็อดเจอร์ส" ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ซึ่งกำลังจะนำทีมสู่ยุคใหม่ ต้องมั่นใจว่าเขามีความสามารถดึงสิ่งดีๆ ของ "บาโลเตลลี" ออกมาได้ ขณะที่เชื่อว่า "บาโลเตลลี" ซึ่งขณะนี้อายุ 24 ปีแล้ว จะมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
ในช่วงที่ "บาโลเตลลี" อยู่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผู้จัดการทีม คือ "โรแบร์โต มันชินี" ซึ่งเป็นชาวอิตาลีด้วยกันซึ่งก็ปกป้องและหนุนหลัง "บาโลเตลลี" อย่างดี แม้จะมีเรื่องผิดใจโต้แย้งกันบ้าง แต่ไม่ถือว่าเลวร้าย เขาได้ลงสนามทุกรายการ 80 นัด ยิงไป 30 ประตู (ในพรีเมียร์ลีก 56 นัด ยิง 20 ประตู) และร่วมคว้าแชมป์ฤดูกาล 2011/12 ด้วย
สิ่งแรกที่ "ร็อดเจอร์ส" ควรทำก็คือ ไม่โยนภาระไว้บนบ่าของ "บาโลเตลลี" ไม่ปล่อยให้เขาแบกรับความกดดันเพียงคนเดียว แต่ขณะเดียวกันก็ต้องทำให้นักเตะอิตาลีรายนี้ รู้สึกว่าเขามีความสำคัญ เป็นหนึ่งในกำลังหลักของทีม
ถ้าทำได้ "บาโลเตลลี" ก็จะเป็น "พญาหงส์" เต็มตัว แต่ถ้าทำไม่ได้ เขาก็จะกลายเป็น "อีแร้ง" ตัวจริง
ข่าวเด่น