ภายหลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ได้ ประกาศยกเลิกโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ดของรัฐบาลชุดที่แล้ว ทำให้สถานการณ์การส่งออกข้าวของไทย เริ่มมีสัญญาณที่ปรับตัวดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนก.ค.ไทยส่งออกข้าวได้เกือบล้านตัน สูงสุดในรอบ 35 เดือน
โดย นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า เดือน ก.ค. 57 ไทยส่งออกข้าวปริมาณ 941,000 ตัน เพิ่มขึ้น 39.5% เทียบกับเดือน ก.ค. 56 คิดเป็นมูลค่า 14,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.5% ซึ่งเป็นการส่งออกสูงสุดในรอบปีนี้ และสูงสุดนับจากเดือน ส.ค.2554 หรือสูงสุดในรอบ 35 เดือน ที่เคยส่งออกได้ถึง 1 ล้านตัน ส่วนการส่งออกช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ มีปริมาณ 5.62 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 55.5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มูลค่า 90,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.6%
สาเหตุที่ทำให้ปริมาณการส่งออกข้าวในเดือน ก.ค.สูงขึ้น เป็นเพราะการส่งออกข้าวขาวได้ปริมาณ 448,000 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 10% โดยตลาดหลักอยู่ที่ ไอวอรีโคสต์ ปริมาณ 58,000 ตัน มาเลเซีย 42,000 ตัน และ จีน 36,000 ตัน ส่วนข้าวหอมมะลิ ส่งออกปริมาณรวม 133,000 ตัน ลดลง 9.4% ส่วนใหญ่เป็นการส่งออกไปสหรัฐฯ 30,700 ตัน ขณะที่ข้าวนึ่งส่งออกปริมาณ 345,000 ตัน โดยส่งออกไปไนจีเรีย 90,400 ตัน หรือเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า เพราะรัฐบาลไนจีเรียประกาศลดภาษีนำเข้าข้าว
ส่วนในเดือนส.ค.สมาคมฯคาดว่า การส่งออกข้าวจะทำได้ถึง 900,000 ตัน เนื่องจากราคาข้าวของไทยอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับคู่แข่ง ประกอบกับทางการมีนโยบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการระบายข้าวในสต๊อก รวมถึงการเร่งเจรจาขายข้าวให้ต่างประเทศ ทั้งจีน อินโดนีเซีย และมาเลเซีย และคาดว่าปีนี้การส่งออกข้าวไทยจะอยู่ที่ 10 ล้านตัน และสามารถทวงแชมป์ส่งออกข้าวในปริมาณสูงสุดได้
สำหรับสถานการณ์ราคาข้าวเปลือกภายในประเทศที่ปรับตัวลดลง คาดว่าเป็นผลจากการเก็บเกี่ยวข้าวของชาวนา เนื่องจากเข้าสู่ช่วงหน้าฝนทำให้ข้าวมีความชื้นสูง ชาวนาต้องเร่งนำข้าวไปขายให้โรงสี ดังนั้นภาครัฐควรกำหนดระยะเวลาเก็บเกี่ยวให้เหลื่อมกัน เพื่อไม่ให้ปริมาณข้าวเข้าสู่ตลาดจำนวนมาก จนกลายเป็นแรงกดดันให้ราคาลดต่ำลง ซึ่งเชื่อว่า พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ คนใหม่ จะสามารถดูแลสถานการณ์ราคาข้าวได้
ส่วนการตรวจสอบสต็อกข้าวล่าสุด ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การตรวจสอบสต็อกข้าวทั่วประเทศน่าจะสรุปผลได้ชัดเจนภายในกลางเดือนกันยายนนี้ ตัวเลขจากการสำรวจ ขณะนี้มีความน่าหนักใจ และที่ผ่านมาได้ตรวจสอบทุกช่องทางอย่างจริงจัง ทั้งในส่วนของปริมาณข้าวที่เหลือ เรื่องกายภาพ เรื่องดีเอ็นเอ และเรื่องการปลอมปน ซึ่งใช้ผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบ แต่ขณนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
ข่าวเด่น