Event

กระทรวงพาณิชย์ประกาศอัตราเงินเฟ้อเดือนสิงหาคม 2014 โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่2.09%YOY (เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า) ชะลอตัวลงเล็กน้อยจาก 2.16%YOY ในเดือนกรกฎาคม ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 1.83%YOY ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 1.81%YOY ในเดือนเดือนที่ผ่านมา

Analysis

ราคาอาหารสดและพลังงานยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง โดยเงินเฟ้อในระดับราคาอาหารสดปรับลดลงจาก 3.06%YOY ในเดือนกรกฎาคมเหลือเพียง 2.58%YOY ในเดือนสิงหาคม ในขณะที่ดัชนีราคาพลังงานในประเทศเดือนสิงหาคมชะลอตัวลงเล็กน้อยอยู่ที่ 2.9%YOYลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 3.07%YOY สอดคล้องกับทิศทางเงินเฟ้อโดยรวมที่ชะลอตัวลงต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมิถุนายนจากผลของมาตรการดูแลค่าครองชีพและการตรึงพลังงานและราคาก๊าซหุงต้ม ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยลดแรงกดดันเงินเฟ้อ

เงินเฟ้อพื้นฐานเริ่มทรงตัว จากที่เคยเร่งตัวต่อเนื่องในครึ่งปีแรก เงินเฟ้อพื้นฐานในส่วนของสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่ใช่อาหารในเดือนสิงหาคมทรงตัวอยู่ที่ 1.12%YOY ปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยจาก 1.11%YOY ในเดือนกรกฎาคม ในขณะที่ราคาสินค้าประเภทอาหารที่ไม่ใช่อาหารสดปรับตัวขึ้นที่ระดับ 5.18%YOY เทียบกับ 5.21%YOY ในเดือนก่อนหน้าโดยมีปัจจัยหลักมาจากอาหารสำเร็จรูปบริโภคในบ้านและนอกบ้านที่ปรับตัวสูงขึ้น 5.49%YOYและ 5.60%YOY ตามลำดับ

Implication

เริ่มเห็นการชะลอตัวลงของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือนส.ค. อยู่ที่ระดับ 1.83%YOY แบ่งเป็น 1.36 percentage point จากเงินเฟ้อในสินค้าประเภทอาหารที่ไม่ใช่อาหารสดและ 0.47 percentage point จากสินค้าประเภทที่ไม่ใช่อาหาร การชะลอตัวลงของเงินเฟ้อในอาหารสำเร็จรูปนี้แสดงให้เห็นถึงผลกระทบของการขึ้นราคาก๊าซหุงต้มที่เริ่มมีขนาดลดลง หลังจากมีการตรึงราคาตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา

แนวโน้มเงินเฟ้อในช่วงเหลือปีนี้มีทิศทางชะลอลง และไม่ได้สร้างแรงกดดันต่อการดำเนินนโยบายการเงิน อีไอซีประเมินว่าระดับเงินเฟ้อทั่วไปหลังจากนี้จะมีทิศทางทรงตัว หรือปรับตัวลงเล็กน้อย จากการที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานประกาศให้มีการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันใหม่ ทำให้ราคาน้ำมันในประเทศเฉลี่ยปรับตัวลดลง 1% และมีมติให้คงค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี ส่งผลให้เงินเฟ้อช่วงที่เหลือของปีไม่มีความเสี่ยงจากด้านต้นทุนการผลิต ทั้งนี้อีไอซีคาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปและเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยปี 2014 จะอยู่ที่ 2.2% และ 1.7% ตามลำดับ เป็นไปตามกรอบเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย