ก.ล.ต. อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ออกและเสนอขายตราสารทางการเงินที่สามารถนำมาคำนวณเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามแนวทางของ Basel III ซึ่งมีเงื่อนไขบังคับแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญและมีการกำหนดราคาแปลงสภาพขั้นต่ำ (ตราสาร Basel III) ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป และการอนุญาตให้กองทุนรวมทุกประเภท ยกเว้นกองทุนรวมตลาดเงิน สามารถลงทุนในตราสาร Basel III ได้ ในสัดส่วนที่กำหนด เพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุนและช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบการเงิน มีผลใช้บังคับภายในไตรมาสสี่ของปีนี้
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่าคณะกรรมการกำกับตลาดทุนมีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์เพื่ออนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ออกและเสนอขายตราสาร Basel III ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปได้ รวมถึงอนุญาตให้กองทุนรวมทุกประเภท ยกเว้นกองทุนรวมตลาดเงิน ลงทุนในตราสาร Basel III ทั้งในและต่างประเทศได้ไม่เกินอัตราส่วนการลงทุนที่กำหนด เพื่อเปิดโอกาสให้ธนาคารมีช่องทางสร้างความเข้มแข็งของเงินกองทุนเพิ่มขึ้น และผู้ลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนมากขึ้น
นอกจากนี้ ก.ล.ต. กำหนดราคาแปลงสภาพขั้นต่ำเป็นมาตรฐานเดียวกันที่อัตราร้อยละ 50 ของราคาหุ้นสามัญของธนาคารในช่วงที่ออกและเสนอขายตราสาร Basel III โดยรวมถึงตราสาร Basel III ที่นำมาคำนวณเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่มีเงื่อนไขการแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญด้วย โดยธนาคารผู้ออกตราสารต้องยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขาย และเปิดเผยลักษณะและรายละเอียดของตราสารอย่างชัดเจน ในส่วนตัวกลางผู้ขายตราสารจะมีกระบวนการที่ทำให้ลูกค้าเข้าใจลักษณะความเสี่ยงและผลตอบแทนของตราสารเป็นอย่างดีก่อนตัดสินใจลงทุน
“ตราสารประเภทนี้ซับซ้อนและมีความเสี่ยงแตกต่างจากตราสารหนี้ทั่วไป เนื่องจากผู้ถือตราสารจะถูกบังคับให้แปลงสภาพตราสารเป็นหุ้นสามัญของธนาคารในภาวะที่ธนาคารมีปัญหาทางการเงิน ดังนั้น ก.ล.ต. จึงกำหนดราคาแปลงสภาพขั้นต่ำที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อลดความซับซ้อนของตราสาร และให้ผู้ลงทุนรับทราบความเสี่ยงสูงสุดที่จะได้รับอย่างชัดเจน ขณะที่ธนาคารสามารถคำนวณจำนวนหุ้นรองรับที่แน่นอนก่อนออกเสนอขายตราสารได้ นอกจากนี้ ธนาคารต้องเปิดเผยราคาแปลงสภาพขั้นต่ำให้ผู้ลงทุนทราบอย่างชัดเจน อีกทั้งตัวกลางผู้ขายตราสารต้องปฏิบัติตามกระบวนการเดียวกับการเสนอขายหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ทดสอบความรู้ของผู้ลงทุน เปิดเผยข้อมูลที่จำเป็น แจ้งเตือนว่าหลักทรัพย์อาจมีความเสี่ยงสูงหรือซับซ้อน เป็นต้น เพื่อให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนอย่างเพียงพอ” นายวรพล กล่าว
ข่าวเด่น