เริ่มมีความคึกคักมากขึ้นสำหรับภาพรวมตลาดทีวีในประเทศไทย ภายหลังเศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัว ประกอบกับผู้ประกอบการออกมาปรับแผนการทำตลาด ด้วยการหันมาทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขายกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคมากขึ้น เพื่อผลักดันให้สิ้นปีมียอดขายใกล้เคียงเป้าหมาย หรือเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
นอกจากจะหันมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายมากขึ้นแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ผู้ประกอบการลืมไม่ได้ คือ การออกมาเปิดตัวสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาทำตลาด เพื่อสร้างสีสันและเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค เพราะนับวันผู้บริโภคยิ่งมีความต้องการสินค้าเทคโนโลยีที่มีความแปลกใหม่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตัวเอง
บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ถือเป็นหนึ่งบริษัทที่ออกมาประกาศว่าจะเปิดตัวทีวีใหม่เข้ามาทำตลาดในช่วงไตรมาส 3 และ 4 อีกไม่ต่ำกว่า 10 รุ่น จากทั้งหมด 40 รุ่นในปีนี้ ซึ่งสินค้าใหม่แต่ละตัวที่จะนำเข้ามาทำตลาด ล้วนแต่เป็นสินค้าเทคโนโลยีใหม่ๆ เพราะปัจจุบันผู้บริโภคนิยมสินค้าเทคโนโลยีใหม่ๆ เพิ่มขึ้น โดยหลังจากออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่เข้าทำตลาดอย่างต่อเนื่อง บริษัท แอลจีฯ มั่นใจว่าสิ้นปีจะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 23-25% จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 22%
นายฮวน วอย ฮา ประธานและประธานบริหาร กลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์(ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำแห่งนวัตกรรมและเทคโนโลยีจอภาพ บริษัทได้เปิดตัว LG 4K OLED TV เข้ามาทำตลาด จุดเด่นของทีวีรุ่นดังกล่าวจะเป็นทีวีที่ให้รายละเอียดจอภาพสุดคมชัดระดับ 4K หรือ 3,840 x 2,160 หรือเท่ากับ 8 ล้านพิกเซล เครื่องแรกของโลกในงาน IFA2014 ประเทศเยอรมนี โดยมี 2 ขนาดคือ ขนาด 77 นิ้ว รุ่น 77EG9700 และขนาด 65 นิ้ว รุ่น 65EC9700
ด้วยจุดเด่นของเทคโนโลยี OLED ซึ่งเม็ดพิกเซลสามารถเปล่งแสงได้เองเมื่อได้รับพลังงานไฟฟ้าโดยไม่ต้องพึ่งพาหลอด Backlight ภาพรายละเอียดคมชัด จึงปรากฏบนจอโค้งที่ออกแบบให้สอดคล้องกับธรรมชาติการรับชมของมนุษย์ ก่อกำเนิดตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดในการรับชมภาพ ผนวกกับระบบปฏิบัติการ webOS ที่ผ่านการรับรองจากสถาบันระดับโลกอย่าง European Imaging and Sound Association (EISA) ว่าเป็นแพลตฟอร์มที่มี user interface ที่ดีเยี่ยม LG 4K OLED TV จึงทำให้บริษัท แอลจีฯ มั่นใจว่าเทคโนโลยีจอภาพ OLED จะสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญและจุดเปลี่ยนให้กับอุตสาหกรรมทีวีในประเทศไทยอย่างแน่นอน
ปัจจุบัน LG Ultra HD TV รุ่น UB820T มี 3 ขนาดให้เลือก คือ 42 นิ้ว 49 นิ้ว และ 55 นิ้ว มีราคาเริ่มต้นที่ 41,990 – 59,990 บาท รุ่น UB80T ขนาด 40 นิ้ว ราคา 39,990 บาท โดยขณะนี้ได้เริ่มนำสินค้าเข้าทำตลาดแล้วในห้างค้าปลีกและร้านค้าตัวแทนจำหน่ายของแอลจีทั่วประเทศ ซึ่งจากเทคโนโลยี OLED ที่มีคุณสมบัติความคมชัดสูง ทำให้บริษัท แอลจีฯ มั่นใจว่าในอนาคตอันใกล้ทีวีรุ่นดังกล่าวจะเข้ามาแทนที่ทีวีหน้าจอแบบ LCD อย่างแน่นอน
ในส่วนของ บริษัท ซัมซุง อิเล็คทรอนิค ประเทศไทย จำกัด ก็ออกมาเปิดตัวทีวีนวัตกรรมใหม่เข้าทำตลาดอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ล่าสุดออกมาเปิดตัว SAMSUNG CURVED UHD TV เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า พร้อมกับทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เพราะปัจจุบันผู้บริโภคเริ่มมีความต้องการทีวีใหม่เพิ่มขึ้น
นายเรืองเดช คุณมงคล ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ บริษัท ไทยซัมซุง อิเล็คทรอนิค ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า หลังจากบริษัทออกมาเปิดตัว SAMSUNG CURVED UHD TV เข้าทำตลาด บริษัทก็จะเดินหน้าทำกิจกรรมส่งเสริมการขายควบคู่ไปด้วย เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค ซึ่งกิจกรรมที่เลือกจัดในครั้งนี้จะเป็นการจัดโปรโมชั่น Samsung Exclusive Day 2014 ด้วยการมอบข้อเสนอยิ่งใหญ่แห่งปีให้กับผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นส่วนลด หรือลุ้นโชคเป็นล้าน เมื่อมาช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์ซัมซุงภายในงาน ซึ่งจะมีทั้งสินค้าราคาพิเศษ และเมื่อช้อปครบตามเงื่อนไขยังมีสิทธิ์ลุ้นรับนวัตกรรมล่าสุดครบเซ็ตมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ลุ้นทุกวันฟรีหรือจ่าย และลุ้นเที่ยวเกาหลีเชียร์เอเชียนเกมส์
อย่างไรก็ดี หลังจากเปิดตัวทีวีจอโค้งรุ่นใหม่ Samsung Curved UHD TV ที่ให้ความละเอียดสูง (UHD) พร้อมเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำและฟังก์ชันการใช้งานระดับสูงเข้าทำตลาด ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกทั้งขนาด 48 นิ้ว 55 นิ้ว และ 65 นิ้ว บริษัท ซัมซุงฯ มั่นใจว่าจะได้ผลตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะมีสินค้าใหม่อย่าง Samsung Curved UHD TV เข้าทำตลาด บริษัท ซัมซุงฯ ยังเดินหน้าทำตลาด Samsung UHD TV อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอขนาด 48 นิ้ว 50 นิ้ว 55 นิ้ว หรือ 65 นิ้ว
นอกจากนี้ ยังมี Samsung Smart TV LED TV ที่ให้ครบทุกอารมณ์ สมาร์ททุกความบันเทิง สนุกง่าย ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ มาพร้อมหน้าจอขนาด 32 นิ้ว 40 นิ้ว 48 นิ้ว 55 นิ้ว และ 60 นิ้ว เข้าทำตลาด จึงทำให้บริษัท ซัมซุงฯ ยิ่งมั่นใจว่าสิ้นปีจะมียอดขายทีวีในประเทศไทยเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน
ด้าน บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด ขอร่วมสมรภูมิการแข่งขันในตลาดทีวี ด้วยการเปิดตัวทีวี บราเวีย 4K เข้ามาทำตลาดเพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสพลังแห่งความบันเทิงสุดคมชัดในทุกรายละเอียดได้ง่ายขึ้น ด้วยราคาสุดคุ้ม กับทีวี บราเวีย 4K ซีรี่ส์ใหม่ 2 ซีรี่สืด้วยกัน คือ BRAVIA X9000B Series ขนาด 65 นิ้ว ในรุ่น KD-65X9000B และ BRAVIA 8500B Series มี 2 ขนาด คือ 55 นิ้ว และ 65 นิ้ว ในรุ่น KD-55X8500B และ รุ่น KD-65X8500B
ในส่วนของรุ่น KD-65X9000B จะมีความโดดเด่นในด้านของการออกแบบในรูปลักษณ์ Wedge Design ที่นอกจากสวยงาม ยังช่วยประหยัดพื้นที่ และเพิ่มประสิทธิภาพของพลังเสียง มาพร้อมเทคโนโลยีอันยอดเยี่ยมของภาพและเสียง เช่น X-tended Dynamic Range™ ที่ให้รายละเอียดความคมชัดกว่าทีวีแบบ LED ทั่วไปถึง 3 เท่า โดยแสดงผลในส่วนที่มืดได้อย่างลึกมีมิติ ทำให้คุณได้สัมผัสถึงความคมชัดของภาพในระดับ 4K หน้าจอ TRILUMINOS™ Display ที่แสดงผลของสารพันเฉดสีต่าง ๆ ได้กว้างขึ้น เหนือกว่าทีวี LED ทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด ภาพที่ได้จึงมีมิติสีสันสุดสมจริง มีจำหน่ายแล้วในราคา 189,990 บาท พร้อมรับชุดบลูเรย์ โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนท์รุ่น BDV-N9200W มูลค่า 24,990 บาท และส่วนลด 8%
ส่วนในรุ่น KD-65X8500B และ KD-55X8500B ยังคงอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีคุณภาพอย่าง TRILUMINOS™ Display , 4K X-Reality™ Pro โดย KD-65X8500B จำหน่ายราคา 154,990 บาท และ KD-55X8500B ราคา 89,990 บาท ทั้ง 2 รุ่น รับฟรี Sound Bar รุ่น HT-CT370 มูลค่า 10,990 บาท และรับส่วนลด 8% (cash discount) ทั้ง 2 รุ่น
จากความชัดเจนของการเปลี่ยนผ่านจากระบบอนาล็อคสู่ระบบดิจิตอล ทำให้ผู้ประกอบการต่างออกมาคาดการณ์ว่าภาพรวมตลาดทีวีในช่วงครึ่งปีหลังนี้น่าจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกที่ค่อนข้างชะลอตัว เนื่องจากผู้บริโภคชะลอกำลังซื้อ เพราะไม่มั่นใจในสถานการณ์ทางการเมือง ขณะเดียวกันการออกอากาศในระบบดิจิตอลทีวีก็ยังไม่มีความชัดเจน จึงทำให้ภาพรวมตลาดทีวีในประเทศไทยช่วงครึ่งปีแรกซบเซาไป
อย่างไรก็ตาม หลังจากผู้ประกอบการออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดมากขึ้น ประกอบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคเริ่มฟื้นตัว ขณะเดียวกันทั้งผู้ประกอบการและผู้ผลิตทีวีต่างออกมาจับมือรวมกันทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย จึงทำให้มีการคาดการณ์ว่า ภาพรวมตลาดทีวีในด้านของจำนวนยูนิตปีนี้น่าจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% หรือมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 30,000 เครื่อง แต่หากคิดเป็นมูลค่าคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 10% เนื่องจากราคาทีวีเก่าจะมีการปรับลดลงทุกปีเฉลี่ยที่ 5% ภายหลังจากมีสินค้ารุ่นใหม่เข้ามาทำตลาด 6 เดือน
ใครจะชิงยอดขายได้มากกว่ากัน คงต้องวัดกันที่ฝีมือด้านการตลาดและนวัตกรรมของสินค้าที่เปิดตัวออกมา เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อ
ข่าวเด่น