หลังจากถูกเฝ้าจับตามองมานาน ในที่สุด "แอปเปิล" ค่ายโทรศัพท์มือถือชั้นนำของโลก ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ iPhone 6 (ไอโฟน 6) อย่างเป็นทางการแล้ว มี 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ iPhone 6 หน้าจอ 4.7 นิ้ว และ iPhone 6 Plus หน้าจอ 5.5 นิ้ว โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐฯและอีก 8 ประเทศวันที่ 19 กันยายน นี้ ส่วนในไทยคาดว่าจะวางจำหน่ายช่วงเดือนพฤศจิกายน 2557 พร้อมกันนี้ แอปเปิลยังตัวนาฬิกาอัจฉริยะ หรือสมาร์ทวอช “Apple Watch” หรือ “iWatch” ด้วย ซึ่งจะเข้าตลาดช่วงต้นปี 2558
iPhone 6 พัฒนามาจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง iPhone 5S แต่ก็มีบางอย่างที่เพิ่มมาใหม่ สเปคเครื่องรุ่นใหม่มีดีไซน์ดังนี้
-หน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น และบางเบา โดย iPhone 6 มาพร้อมหน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว แบบ Retina HD Display ความละเอียด 1334 x 750 พิกเซล (348 ppi) จอใหญ่ขึ้นแต่ใช้งานได้อย่างสะดวก เพราะตัวเครื่องบางลง มีความหนาเพียง 6.9 มิลลิเมตรเท่านั้น
-ตัวเครื่องผลิตจาก Anodized Aluminum, Stainless Steel และกระจก หรูหรา แข็งแรง ทนทาน ฝาด้านหลังเป็นชิ้นเดียวกัน (Unibody) กล้องหลัง นูนเล็กน้อยและขอบตัวเครื่อง โค้งมนกว่าเดิม
-ได้พลังแรงขึ้นด้วยชิป Apple A8 แบบ 64-bit ประมวลผลได้เร็วขึ้น (CPU) 25% หน่วยประมวลผลภาพ (GPU) แรงขึ้น 50% นอกจากนี้ ยังมีชิป Apple M8 coprocessor ช่วยคำนวณการเคลื่อนไหวผ่านเซ็นเซอร์ต่างๆ ทั้ง Accelerometer, Compass, Gyroscope และ Barometer (วัดความกดอากาศ)
-กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเท่าเดิม แต่ปรับปรุงเซ็นเซอร์ใหม่ ให้ถ่ายรูปได้สวยงามขึ้นกว่าเดิม โดยฟีเจอร์ใหม่ของกล้อง iSight บน iPhone ทั้ง 2 รุ่น เช่น ระบบจดจำใบหน้า ระบบเลื่อนคุมแสง ระบบเสริมออโต้โฟกัสให้ทำงานได้ดีขึ้น ระบบป้องกันภาพสั่นไหวอัตโนมัติ ถ่ายภาพแบบพาโนรามาความละเอียดสูงสุด 43 เมกะพิกเซล มี Photos App ที่ช่วยจัดการรูปภาพได้อย่างรวดเร็ว และยังรองรับการถ่ายวีดีโอ ความละเอียดสูงระดับ 1080p
-รองรับ Wi-Fi เร็วขึ้นกว่าแบบ 802.11n ถึง 3 เท่า รองรับเครือข่าย LTE รับส่งข้อมูลได้ฉับไวสูงสุดถึง 150 Mbps
-นอกจากนี้ iPhone 6 ยังรองรับ NFC แล้ว ด้วยระบบการชำระเงินใหม่ Apple Pay ที่ใช้งานง่ายขึ้นและสะดวกขึ้น เพียงนำ iPhone 6 ไปจ่อกับเครื่องอ่าน แล้วแตะที่ Touch ID เดิมให้บริการเฉพาะในสหรัฐฯแต่อนาคตอันใกล้จะรองรับในหลายประเทศ
-iPhone 6 มีให้เลือก 3 ขนาดความจุ ได้แก่ 16 GB, 64 GB และ 128 GB ไม่มีรุ่น 32 GB ซึ่งรุ่นความจุ 64 GB ราคาเท่ากับ 32 GB ทำให้จ่ายถูกลง แต่ได้หน่วยความจำภายในเพิ่มขึ้น
iPhone 6 มีกำหนดขายในวันที่ 19 กันยายน 2557 นี้แล้ว ใน 9 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐฯ, แคนาดา, สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ออสเตรเลีย, ฮ่องกง, สิงคโปร์ และญี่ปุ่น
ทั้งนี้ในสหรัฐฯมีราคาเริ่มต้นแบบติดสัญญา 2 ปีที่ 199 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6,200 บาท) สำหรับรุ่น 16GB และ 299 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 9,500 บาท) สำหรับรุ่น 64GB และ 399 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 12,500 บาท) สำหรับรุ่น 128 GB
ส่วนในประเทศไทยคาดว่า ราคาของ iPhone 6 บน Apple Store Thailand จะเริ่มต้นที่ประมาณ 23,900 บาท ในรุ่น 16GB และ 26,900 บาท สำหรับรุ่น 64GB และ 31,900 บาท สำหรับรุ่น 128GB โดยคาดว่าจะวางจำหน่ายช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงอีก ซึ่งต้องจับตามองกันต่อไป
ส่วน “Apple Watch” ที่เปิดตัวพร้อมกันมีสเปคโดดเด่นไม่แพ้สมาร์ทวอชของค่ายอื่น ๆ มีทั้งความสามารถในการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ กันน้ำ ตรวจจับการเคลื่อนไหวร่างกาย
พร้อมแอพฯใหม่ Fitness และ Workout สนับสนุนการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพร่างกายที่ดีของสาวกไฮเทคนั่นเอง สามารถรองรับการใช้งานร่วมกับ iPhone หลายรุ่น ทั้ง iPhone 6,iPhone 6 Plus,iPhone 5s,iPhone 5c และ iPhone 5
มีวางจำหน่ายต้นปี 2015 ราคาเริ่มต้นที่ 349 ดอลลาร์สหรัฐ มีให้เลือก 3 เวอร์ชั่นคือ Apple Watch, Apple Watch Sport, และ Apple Watch Edition
ข่าวเด่น