จากรายงานระบุว่าในประเทศไทยมีจำนวนบัตรเครดิตทั้งหมดสูงถึง 16.07 ล้านใบเมื่อปี 2556 ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 9 จากปี 2555
1. Credit Card แปลตรงตรงคือ บัตรสินเชื่อ หรือบัตรเงินกู้ หรือบัตรแสดงความเป็นหนี้ หรือบัตรที่พร้อมจะให้เราสร้างหนี้ มันไม่ใช่บัตรแสดงฐานะความมีเครดิต หากคนถือบัตรแพ้ใจตนเองจนเป็นหนี้ - ไม่มีหนทางใช้คืน
2. ถ้าเราแปลความหมายคำว่า Credit Card แบบนี้แล้ว คำถามมีอยู่ว่า เราควรจะมีบัตรแบบนี้มากหรือน้อย
3. การตลาดที่บอกเรามาตลอดว่า มีบัตรเครดิต เท่ากับเป็นคนมีเครดิตนั้นจริงหรือไม่ จริงทั้งหมดหรือไม่
4. การมีบัตรเครดิตไว้ใช้อย่างมีวินัยคือสิ่งที่ดีคือ เพราะไม่ต้องใช้เงินสดเดี๋ยวนั้น ปลอดภัย สะดวกสบาย และหาถ้าตัวคนใช้มีวินัยทางการเงินในการจัดการมันได้แล้วละก็ (ใช้ 100 จ่าย 100 ไม่จ่ายขั้นต่ำ) จะยิ่งทำให้เราได้ประโยชน์มากมาย
5. หนุ่ม-สาววัยทำงาน มนุษย์เงินเดือน คนที่เริ่มทำงานใหม่ๆ ต่างลงความเห็นว่า การมีบัตรเครดิต (บัตรแสดงความเป็นหนี้หรือบัตรที่พร้อมจะให้เราสร้างหนี้) ติดกระเป๋าไว้ใช้ทำให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น เป็นหนี้ง่ายขึ้นโดยแลกกับเหตุผล-ข้ออ้างที่ยกมาเสมอคือ การไม่ต้องพกเงินสดติดตัวเพราะมันอันตรายและเสี่ยงภัยมากในเวลานี้ อีกทั้งมันยังมีสิทธิพิเศษอื่นๆ ตามมาอีกด้วย เช่น กินข้าวได้ส่วนลด ตามแต่บริษัทผู้ให้บริการบัตรเครดิตจะสรรหามาดึงดูดใจลูกค้า
6. อาการของคนที่กำลังตกอยู่ในวังวนบัตรเครดิตหรือมีบัตรเครดิตมาก (มีบัตรแสดงความเป็นหนี้หรือบัตรที่พร้อมจะให้เราสร้างหนี้มากไปและใช้มันจนเกินกำลังที่จะจ่ายคืน) เช่น มีใบแจ้งหนี้จากบัตรเครดิตที่นำไปใช้จ่ายหลายใบจนจ่ายไม่ไหว ไม่รู้จะจ่ายใบไหนก่อน มีการผลักภาระไปเดือนหน้า หรือถ้าถึงขั้นต้องไปหากู้ยืมเงินใครต่อใครมาเพื่อจ่ายบัตรเครดิตละก็ ถือว่าสถานการณ์เริ่มเข้าสู่ "ความหายนะในชีวิต"
7. เริ่มต้นใหม่ครับ บริหารการเงินใหม่ครับ อย่าให้วัวหายแล้วจึงล้อมคอก เริ่มฝึกวินัยทางการเงินเสียใหม่ ใช้บัตรเครดิตแบบคนมีวินัยคือ "ใช้ 100 จ่าย 100 ไม่จ่ายขั้นต่ำ" ก่อนใช้ คิดถึงคำว่า "ประหยัด-ประโยชน์"
8. ตั้งสติ ยับยั้งชั่งใจ หากมีการเสนอบัตรใบใหม่มาให้ ลองใช้แนวคิด มีบัตรเครดิตใบใหม่ หมายถึง มีบัตรเงินกู้เพิ่ม หรือมีบัตรแสดงความเป็นหนี้เพิ่ม หรือมีบัตรที่พร้อมจะให้เราสร้างหนี้เวลาแพ้ใจตัวเองเพิ่ม แล้วถามตัวเองต่อหน้าพระที่ห้อยคอว่า "ตัวเรานั้นจำเป็นต้องสมัครจริงๆ หรือไม่"
9. หากทำได้ตัวเราจะมีวินัยทางการเงินมากขึ้นแน่นอน เพียงเท่านี้เครดิตของตัวเราที่แท้จริง ไม่ใช่มายาคติทางการตลาดอย่างที่ใครบอกมาก็จะดีขึ้นอย่างแน่นอน
สุรพล โอภาสเสถียร
ผู้จัดการใหญ่
บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด
ข่าวเด่น