การส่งออกของไทยในปีนี้ยังอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง แม้จะมีรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ แต่เมื่อเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า ยังไม่ฟื้นตัวอย่างที่มีการคาดการณ์ ก็ส่งผลให้การส่งออกของไทยทรุดตัวลงไปด้วย
โดย นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การส่งออกในปีนี้ภาคเอกชนมองว่าตัวเลขไม่น่าจะดี โอกาสโตสูงสุดแค่ 0.5% โดยประเมินจากค่าเฉลี่ยการส่งออกในช่วงไตรมาสสุดท้ายของไทยจะเฉลี่ยอยู่แค่ 1.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ แต่หากจะให้โตเกิน 1% การส่งออกต่อเดือนต้องได้ 1.95-2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ อีกทั้งตลาดหลัก ทั้ง ยุโรป จีน ญี่ปุ่น และอาเซียน ก็ยังไม่ฟื้นตัวอย่างที่คาดการณ์
แต่การส่งออกน่าจะเริ่มฟื้นตัวได้ตั้งแต่ต้นปีหน้าเป็นต้นไป และมีโอกาสที่จะขยายตัวได้สูง 4-5% โดยรัฐบาลจะต้องผลักดันการส่งออกใน 3 แนวทาง คือ 1.ขอให้กระทรวงพาณิชย์ยังคงโครงการเอสเอ็มอี โปรแอ็กทีฟ และจัดสรรงบประมาณอีก 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบสนับสนุนผู้ส่งออกไปจัดงานแสดงสินค้าและเจรจาการค้าในประเทศเป้าหมาย
หลังจากที่งบประมาณโครงการเดิมกำลังหมดลง เหลือไม่เกิน 50 ล้านบาท จากทั้งหมด 400 ล้านบาท
2. ผลักดันและเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดน เน้นในเรื่องการส่งเสริมให้เจ้าของสินค้าส่งออกและทำตลาดเอง แทนการส่งออกและจำหน่ายสินค้าผ่านตัวแทนกลาง ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 70% ของการค้ารวม โดยพบว่าสินค้าหลายชนิดของไทยสามารถดำเนินการได้ เช่น อาหาร สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม วัสดุก่อสร้าง อิเล็กทรอนิกส์ และ อะไหล่ยานยนต์ รวมถึงผลักดันการสร้างตราสินค้าและเพิ่มมูลค่าของสินค้า
และ 3. ขอให้เร่งรัดการเจรจาความร่วมมือด้านเศรษฐกิจไทยกับสหภาพยุโรป โดยเฉพาะข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-อียู ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญต่อการชดเชยรายได้และการส่งออกของไทย หลังจากที่จะถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ในปี 2558
ส่วน ร.อ.สุวิพันธ์ ดิษยมณฑล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้ กรมฯ ได้จัดทำแผนการผลักดันการส่งออกสินค้าไทยในปี 2558 ตามนโยบายของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ ที่ในเบื้องต้นกำหนดเป้าหมายการส่งออกสินค้าในปี 5258 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับปีนี้ โดยมีโครงการสำคัญที่จะดำเนินการ 400 กว่าโครงการ โดยจะเน้นการสร้างภาพลักษณ์ให้กับสินค้าในตลาดอาเซียน เพื่อเพิ่มยอดการส่งออกรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด เพื่อสร้างการรู้จัก ยอมรับ และกระตุ้นการซื้อสินค้าไทย และการผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดอาเซียน
นอกจากนี้ กรมฯ ยังจะให้ความสำคัญกับการผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหาร ซึ่งเป็นสินค้าที่รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยมีแผนที่จะสร้างการยอมรับในสินค้าเกษตรและอาหารไทย ผ่านการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหารที่สำคัญทั่วโลก และจัดงานแสดงสินค้าอาหารระดับนานาชาติในไทย รวมทั้งการร่วมมือกับร้านอาหารไทยในต่างประเทศจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อกระตุ้นการบริโภค และโปรโมตภาพลักษณ์อาหารไทย ขณะเดียวกัน จะเร่งมอบตราสัญลักษณ์ไทยซีเลกต์ให้กับร้านอาหารไทย และอาหารไทยที่ได้มาตรฐานให้ได้เพิ่มมากขึ้น
.jpg)
ข่าวเด่น