กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทยร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เดินสายจัดโครงการค่ายเยาวชนอาสาสมัครป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ปีที่ 2 ในจังหวัดลำปางและเชียงราย
นางอรนุช พฤกษ์วัฒนานนท์ กรรมการกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย กล่าวว่า กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้มูลนิธิฮอนด้าประเทศไทย ร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดโครงการ "ค่ายเยาวชนอาสาสมัครป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ปีที่ 2" โดยมีตัวแทนนักเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจากจังหวัดลำปางและจังหวัดเชียงราย รวม 200 คนเข้ารับการอบรม เพื่อเรียนรู้ทฤษฎีการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและการฝึกปฏิบัติในการเอาชีวิตรอดและช่วยเหลือผู้อื่นภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน
ค่ายเยาวชนอาสาสมัครป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่จัดขึ้นนี้ มุ่งเน้นการฝึกอบรมแบบเข้มข้นเพื่อให้เยาวชนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในเหตุการณ์จริง เยาวชนจะได้เรียนรู้ทั้งทฤษฎีในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตลอดจนการฝึกปฏิบัติภายใต้สถานการณ์จำลอง 6 สถานี ได้แก่ ฐานการเรียนรู้เครื่องมืออุปกรณ์กู้ภัย การฝึกเงื่อนเชือกในงานสาธารณภัย ห้องแผ่นดินไหวจำลอง การปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการช่วยฟื้นคืนชีพ การฝึกปฏิบัติการระงับอัคคีภัย การทำสะพานเชือกและการข้ามลำน้ำ จากวิทยากรที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ปิดท้ายด้วยกิจกรรมการเรียนรู้หลักการขับขี่จักรยานยนต์ให้ปลอดภัยจากครูฝึกสอนการขับขี่ปลอดภัยจากผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า
“จากเจตนารมณ์ในการจัดตั้งกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย เพื่อช่วยเหลือประชาชนชาวไทยในยามประสบภัยพิบัติธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต อาทิ น้ำท่วม ดินถล่ม ภัยหนาว ภัยแล้ง โดยกองทุนฯ มุ่งมั่นในการดำเนินกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุม 4 ด้าน คือ ด้านเงินทุน ด้วยการสมทบเงินเข้ากองทุนจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฮอนด้า ด้านวัสดุอุปกรณ์ ด้านการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือ และ ด้านการส่งเสริมความรู้ในการรับมือภัยพิบัติ สำหรับค่ายเยาวชนฯ ที่จัดขึ้นนี้เป็นปีที่ 2 นี้ เป็นหนึ่งในภารกิจที่กองทุนฯ มุ่งมั่นในการส่งเสริมความรู้ในการรับมือภัยพิบัติในระดับเยาวชนอย่างต่อเนื่อง โดยกองทุนฯ มุ่งหวังให้เยาวชนไทยได้มีความรู้ ความเข้าใจอย่างถูกต้องในการรับมือกับภัยในรูปแบบต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งยังสามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากค่ายอบรมไปใช้ในการช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นได้หากเกิดสาธารณภัยต่างๆได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยมากที่สุด"นางอรนุชกล่าว
ข่าวเด่น