นายธีระ วงศ์พัฒนาสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟน์ ฟู้ด แคปปิตอล จำกัด บริษัทในเครือ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท ไฟน์ ฟู้ดฯ ได้ผลิตอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน ภายใต้แบรนด์ "Star Chefs" ซึ่งเป็นตราแห่งคุณภาพระดับสูงด้านอาหาร โดยผลิตภัณฑ์อาหารของสตาร์เชฟ เป็นสูตรพิเศษที่คิดค้นและปรุงโดยเชพชั้นนำที่มีชื่อเสียง "ยาสุจิ โมริซุมิ" เชฟชั้นนำระดับ "มิชลินสตาร์" ชาวญี่ปุ่นผู้ซึ่งชนะเลิศรางวัลทีวีแชมป์เปี้ยนในประเทศญี่ปุ่นถึงสองปีซ้อน จึงมั่นใจในรสชาติและคุณภาพของสตาร์เชฟ เหมือนกับมีเชพชั้นนำมาปรุงให้กับลูกค้าด้วยตัวเอง
ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน ภายใต้แบรนด์ สตาร์เชฟ มีวางจำหน่าย 2 รสชาติ คือ แกงกระหรี่ญี่ปุ่นไก่ ขนาด 200 กรัม และแกงกระหรี่ญี่ปุ่นเนื้อ ขนาด 200 กรัม วางจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วไป อาทิ วิลล่ามาร์เก็ต,แมกซ์แวลู,โฮมเฟรชมาร์ท,สยามพารากอน,เซ็นทรัลฟู้ดฮอลล์,ท๊อปมาร์เก็ตเพลส โดยมีราคาขายปลีก กล่องละ 119 บาท
โดยแกงกระหรี่ญ่ี่ปุ่น สตาร์เชฟ ให้แคลอรี่ไม่เกิน 200 แคลอรี่ต่อกล่อง มีทั้งไฟเบอร์และวิตามินต่างๆ ที่ร่างกายต้องการ เช่น วิตามินเอ และวิตามินอี ทั้งยังให้คุณค่าทางโภชนาการสูงด้วย
นายธีระกล่าวว่า กลุ่มตลาดเป้าหมายของผลิตภัณฑ์อาหารตราสตาร์เชฟ จะเน้นตลาดเครือข่ายของค่ายสิงห์ที่เป็นบริษัทแม่ โดยจะจับตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน ที่มีภารกิจมากมายทั้ังเรื่องการทำงานและการเรียน ทำให้มีเวลาน้อยลง ประกอบกับคนกลุ่มนี้นิยมบริโภคอาหารต่างประเทศโดยเฉพาะอาหารญี่ปุ่น
สำหรับแผนในอนาคต นายธีระกล่าวว่า บริษัทฯมีแผนแล้วว่าปีหน้าที่จะเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC บริษัทฯจะไปบุกตลาดประเทศรอบๆ อินโดจีน ส่วนยอดขายตั้งเป้าว่าในช่วงเวลาที่เหลือ 3 เดือนของปีนี้ จะมียอดขายอยู่ที่ 100 ล้านบาท และปีหน้าทั้งปีตั้งเป้าจะมียอดขายที่ 250 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละประมาณ 30% ต่อปี
ส่วนการพัฒนาสินค้านั้น บริษัทฯจะมีการพัฒนารสชาติใหม่ๆ ออกสู่ตลาดเป็นระยะๆ อย่างไรก็ตาม ทางสตาร์เชฟ ไม่เน้นอาหารไทยที่เป็นอาหารสำเร็จรูป เนื่องจากหาบริโภคได้ง่าย แต่จะเน้นอาหารที่เป็นสากล โดยเฉพาะอาหารญี่ปุ่น เนื่องจากคนไทยในปัจจุบันคุ้นเคยและนิยมบริโภคอาหารญี่ปุ่นค่อนข้างมาก
นายธีระกล่าวต่อว่า ตลาดอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทานในปัจจุบัน มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 5,300 ล้านบาท โดยมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกๆปี ปีละประมาณ 10% ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ตลาดมีมูลค่าเติบโตเนื่องจากรูปแบบการดำเนินชีวิตในสังคมเมืองปัจจุบันต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น
"ผลิตภัณฑ์อาหารของสตาร์เชฟ ไม่ใช่ตลาดอาหารแช่แข็ง เพราะสามารถนำไปอุ่นไมโครเวฟหรืออุ่นกับน้ำร้อนและรับประทานได้เลย ทำให้ผู้บริโภคสะดวก และกินง่ายเพราะคนไทยคุ้นเคยกับอาหารญี่ปุ่นเป็นอย่างดี ซึ่งในตลาดส่วนนี้มีมาร์เก็ตแชร์ประมาณ 15% ของมูลค่าตลาดรวมอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน ฉะนั้นจึงมีโอกาสที่จะเติบโตค่อนข้างสูง"นายธีระกล่าว
นายธีระกล่าวต่อไปว่า สำหรับปีหน้าที่จะไปเจาะตลาดอินโดจีน เพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC นั้น ทางบริษัทฯมองว่าตลาดพร้อมรับประทานในอินโดจีนรวมทั้งไทยไม่ได้ใหญ่มากจึงมีโอกาสที่จะเติบโตสูง
สำหรับเชฟ "ยาสุจิ โมริซุมิ" ถือเป็นเชฟคนแรกที่มาร่วมกับบริษัท ไฟน์ ฟู้ด แคปปิตอล โดยที่ผ่านมา เชฟโมริซุมิ ได้ร่วมงานกับบริษัทไฟน์ ฟู้ดฯ ในหลายโครงการทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่ง "สตาร์เชฟ"ก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยเชฟโมริซุมิได้คิดค้นและพัฒนาสูตรอาหารที่มีรสชาติดี พร้อมปรุงด้วยวัตถุดิบที่สดและมีคุณภาพ ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าอาหารที่ปรุงออกมานั้นอร่อยและมีมาตรฐาน เหมือนมีเชฟมาทำให้รับประทานถึงที่บ้าน
ทั้งนี้ เชฟโมริซุมิ ได้เริ่มเข้าสู่วงการอาหารโดยการเป็นเชฟอาหารฝรั่งเศส ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากความนิยมอาหารฝรั่งเศสและอิตาเลียนในประเทศญี่ปุ่นช่วงปลายยุค '80 หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการเป็นเชฟอาหารฝรั่งเศสแล้ว เชฟโมริซุมิได้เริ่มห้ันมาให้ความสนใจในศิลปะการทำราเมน โจทย์หลักสำคัญคือการทำให้ร้านอาหารที่ถูดจัดว่าเป็นอาหารจานด่วน มีความหรูหราและโรแมนติค เฉกเช่นเดียวกับอาหารฝรั่งเศส
จากจุดเริ่มต้นอันยากลำบาก ในที่สุดเชฟโมริซุมิก็เริ่มเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียง ด้วยการเปิดตัวร้านอาหารมากกว่า 20 ร้านทั่วโลก และหนึ่งในนั้นคือร้าน MIST ในประเทศฮ่องกง ซึ่งได้รับรางวัล Michelin Stars 2 ปีติดต่อกัน (2011 - 2012) นอกจากนั้นยังคว้ารางวัลชนะเลิศในการแข่งขันสุดยอดเชฟในรายการ TV Champion
ข่าวเด่น