"กอล์ฟไรเดอร์คัพ" ศึกกอล์ฟระหว่างทวีปยุโรปกับประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า สรรพสิ่งล้วนมีความเปลี่ยนแปลง ไม่มีหยุดนิ่ง
ทีมกอล์ฟยุโรป ซึ่งเป็นแชมป์เก่า 2 สมัยติดต่อกัน เอาชนะอเมริกันทีมอย่างไม่ยากลำบาก 16.5-11.5 แต้ม กลายเป็นไรเดอร์คัพ ที่ผู้ชมไม่ค่อยสนุก เพราะไม่มีอะไรให้ลุ้น ไม่มีจุดเปลี่ยนเหมือนหนังซูเปอร์ฮีโร่ ยุโรป ซึ่งถูกมองว่าเหนือกว่าครบวงจร ทำได้ตามความคาดหวัง
หากย้อนกลับไปมองศึกไรเดอร์คัพในอดีต ช่วงแรกๆ เป็นการแข่งขันระหว่างสหรัฐกับสหราชอาณาจักร ซึ่งอเมริกาเหนือกว่าชัดเจน ขนาดนำไอร์แลนด์มาช่วยก็ยังไม่ไหว
จนกระทั่งสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ ต้องดึงประเทศอื่นๆ ในยุโรปมาช่วย กลายเป็นการแข่งขันระหว่างสหรัฐกับยุโรป ตั้งแต่ปี 1979 ปรากฏว่ามาถึงตอนนี้ ยุโรปกลับกลายเป็นฝ่ายจะผูกขาดแชมป์ โดย 10 ครั้งล่าสุดรวมปีนี้ ยุโรปชนะไปถึง 8 ครั้ง และได้แชมป์ 3 สมัย ล่าสุด ขนาด 2 ปีก่อน สหรัฐเป็นเจ้าบ้าน ยุโรปยังบุกไปคว้าชัย
ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่ยุโรปเข้าร่วมแข่งขัน พวกเขาขึ้นชื่อด้านการเล่นประเภทคู่ มักจะได้แต้มจากการแข่งแบบโฟร์ซัม
และ โฟร์บอล ขณะที่สหรัฐจะเด่นประเภทเดี่ยวมากกว่า แต่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ที่สนามเมดินาห์ ในสหรัฐ ยุโรปกลับแข็งแกร่งกว่าในประเภทเดี่ยว มาถึงครั้งนี้ประเภทเดี่ยวก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อยอีก
หากเป็นแบบนี้ไปอีกสัก 2-3 สมัย อาจเกิดความคิดให้สหรัฐปรับทีมให้เป็นทวีปอเมริกาเหนือ ให้นักกอล์ฟแคนาดาหรือเม็กซิโกมาช่วย
แน่นอนว่าสหรัฐไม่ยอมง่ายๆ แน่ เพราะพวกเขายังเชื่อมั่นว่า กอล์ฟของพวกเขาดีที่สุด แต่หากยังกลับมาสู้ให้สูสีไม่ได้ ก็ต้องยอมรับ "กฎแห่งความผันแปร"
ข่าวเด่น