เมื่อเอ่ยชื่อ "มาโกโตะ โคชินากะ" แล้ว คอเพลงญี่ปุ่นจะต้องรู้จักเขาดี ในฐานะหัวหน้าวง "ลูซิเฟอร์" (Lucifer) ซึ่งเป็นวงร็อคที่มีชื่อเสียงมากๆ ของญี่ปุ่น แต่นอกเหนือจากเรื่องของดนตรีแล้ว มาโกโตะ ยังมีผลงานทางการแสดงด้วย ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ หรือละครเวที เขาเคยผ่านมาแล้ว และล่าสุด เจ้าตัวเล่นภาพยนตร์ไทยเรื่อง "ฟินสุโค่ย" อันเป็นผลงานการกำกับของ "กอล์ฟ"ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ซึ่งเพิ่งจะลงโรงฉายไปเมื่อวันที่ 25 กันยายน ที่ผ่านมา เจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจเอาไว้เล็กๆ น้อยๆ เมื่อเร็วๆ นี้
การทำงานกับ"กอล์ฟ"
มาโกโตะ เล่าว่า "กอล์ฟ ธัญญ์วาริน" เป็นผู้กำกับที่สนุกสนานและไม่เหมือนใคร และเป็นผู้กำกับที่มีความสามารถ
เขาเคยได้ชมผลงานเรื่องที่ผ่านๆ มาของกอล์ฟแล้ว รู้สึกว่ายอดเยี่ยมมาก เมื่อเวลาที่เขาได้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ฟินสุโค่ย เขาได้มีโอกาสคุยและเสนอความคิดออกมาด้วย ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาทำงานนอกญี่ปุ่นในฐานะนักแสดง
แต่ก็รู้สึกดีเพราะมีแฟนๆ ชาวไทยต้อนรับเขาอย่างอบอุ่น
มุมมองต่อหนังไทย
ความแตกต่างระหว่างภาพยนตร์ไทยและญี่ปุ่น คือ แก็ก ซึ่งบางครั้งสิ่งที่คนญี่ปุ่นขำ คนไทยอาจจะไม่เข้าใจ อย่างไรก็ตาม มาโกโตะ คิดว่าแก็กญี่ปุ่นมักจะต้องคิด ไม่ใช่มุกที่จะเข้าใจได้ทันที ผิดกับของไทย ที่เข้าใจได้ง่ายกว่า เพราะมักจะเป็นแก็กที่ตรงไปตรงมา
เล่นเป็นตัวเอง
ที่ผ่านมา มาโกโตะ ผ่านการแสดงมากับหลายบทบาท แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้แสดงเป็นตัวของเขาเอง ซึ่งเขาก็ชอบ อย่างไรก็ตาม แนวความคิดด้านการแสดงของเขาเปลี่ยนไป ถ้าเป็นสมัยก่อน เขาจะชอบบทที่ไม่เกี่ยวข้องกับเขานัก แต่ตอนนี้เขาต้องการบทบาทที่ไม่ธรรมดา เพื่อที่จะพัฒนาภาษาอังกฤษ และทักษะการแสดงของเขา ซึ่งการได้รับบทเป็นตัวเอง ก็ตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดี
งานอดิเรกคือถ่ายภาพ
นอกเหนือจากการร้องเพลงและแสดงแล้ว งานอดิเรกของเขา คือ ถ่ายภาพ โดยเมื่อไม่นานมานี้ เขาเพิ่งได้กล้องตัวใหม่มา เลยมีอาการเห่อ ชอบถ่ายรูปตามที่ต่างๆ หรือแม้แต่ของใกล้ๆ ตัวเขา ทว่าสถานที่ที่เขาชอบถ่ายภาพที่สุด ไม่ใช่สถานที่ ที่คนชอบไป แต่เขาชอบไปในที่ซึ่งคนไม่เยอะ เขาชอบถ่ายภาพวิถีชีวตผู้คน โดยเฉพาะในญี่ปุ่น บ้านเกิดของเขา
อนาคตอยากเป็นผู้กำกับ
นอกเหนือจากการเป็นนักร้องและนักแสดงแล้ว เขายังอยากจะเป็นผู้กำภาพยนตร์ โดยตั้งเป้าว่าสักวันเขาจะหันหลังให้กับการแสดง แล้วเอาจริงเอาจังกับการกำกับภาพยนตร์ ซึ่งตอนนี้เขาเขียนบทภาพยนตร์ไว้บ้างแล้ว และหวังว่าสักวันจะได้นำไปสร้างภาพยนตร์จริงๆ
"เจร็อค"ยังไม่ตาย
เมื่อพูดถึงวงการดนตรี หลายคนอาจมองว่า "เจร็อค" หรือ ร็อคสไตล์ญี่ปุ่น ดูจะมีความนิยมลดลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบันที่เพลงป็อปเกาหลีแพร่หลายมาก แต่ มาโกโตะ มองว่า เจร็อคก็ไม่ได้เสื่อมสลายหายไป และคุณค่าก็ไม่ได้ลดลงไป โดยเขามองว่าในแต่ละแนวก็มีแฟนคลับโดยเฉพาะ
แผนอื่นนอกจากการกำกับ
นอกเหนือจากการกำกับภาพยนตร์แล้ว เขายังมีแผนการอย่างอื่นอีกที่จะทำในอนาคต และเกี่ยวกับเรื่องของดนตรี แต่เจ้าตัวยังขออุบไว้เป็นความลับ เพราะอยากให้แฟนๆ ได้ตื่นเต้น
ข่าวเด่น