นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทของไทยช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา อ่อนค่าลง เป็นผลจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นมาเล็กน้อย หลังจากเศรษฐกิจสหรัฐไตรมาส 2/57 ขยายตัวได้ถึง 4.6% สูงกว่าที่ประมาณการไว้ที่ในระดับ 4.2% ซึ่งไม่ได้เป็นผลมาจากปัจจัยเศรษฐกิจภายในประเทศไทย เพราะคาดการณ์กันอยู่แล้วว่าปีนี้เศรษฐกิจจะไม่ได้ดีนัก โดยเฉพาะการส่งออกที่ชะลอตัว ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลก็จะไปมีผลต่อภาพรวมในปี 2558
"ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทอ่อนค่าลงประมาณร้อยละ 0.6 เนื่องมาจากปัจจัยภายนอกประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะการที่เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มฟื้นตัวได้ดีขึ้น ไม่ได้เป็นผลจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทย"
ทั้งนี้หากเทียบตั้งแต่ต้นปีค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นประมาณ 1.23% เป็นการแข็งค่าในทิศทางเดียวกับสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค อาทิ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และอินเดีย
ส่วนกรณีการประชุมธนาคารกลางโลก (เวิล์ดแบงก์) ที่จะหารือกันในเร็วๆนี้ นั้น มองว่าคงมีการพูดคุยและถกเถียงกันถึงเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศต่าง ๆ ที่แตกต่างกัน รวมถึงประสิทธิภาพของมาตรการในการดูแลเศรษฐกิจของแต่ละประเทศด้วยว่าจะได้ผลมากน้อยแค่ไหน
ทั้งนี้ ธปท.ได้ติดตามสถานการณ์ในยุโรป โดยเฉพาะความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่าจะส่งผลกระทบต่อเงินทุนเคลื่อนย้ายหรือไม่ แต่จากการประเมินเบื้องต้นแล้ว พบว่าขณะนี้ยังไม่เห็นการไหลออกของเงินทุนเคลื่อนย้ายที่ผิดปกติ แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ
ข่าวเด่น