หุ้นทอง
บล.บัวหลวงชี้ภาพรวมการซื้อขาย DW ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประจำเดือนกันยายน 2557


ในเดือน ก.. 2557 ตลาดแกว่งตัวในกรอบแคบ นักลงทุนหันเก็งกำไร Call DW อิงหุ้นขนาดกลางคึกคัก ชูหุ้น TRUE, TTA, BMCL ได้รับความนิยมสูงสุด แนะนักลงทุนติดตามสถานการณ์ลงทุนอย่างใกล้ชิดรับมือ DW ถูกแขวน SP

 

ปริมาณการซื้อขาย DW โดยรวม: ลดลง จากช่วงเดือนก่อนหน้า โดยคิดเป็นร้อยละ 1.6% ของปริมาณการซื้อขายรวม

ในช่วงเดือน ก.. ที่ผ่านมา นักลงทุนให้ความสนใจซื้อขาย DW ลดลง โดยจะเห็นได้จากปริมาณการซื้อขาย DW ที่ประมาณ 782 ล้านบาทต่อวัน คิดเป็นสัดส่วนปริมาณการซื้อขาย DW ต่อปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งระบบที่อยู่ในระดับ 1.6% (ลดลง 0.4% จากเดือน ส..) โดยสาเหตุหลักคือ ในช่วงที่ผ่านมาปัจจัยบวกในประเทศโดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ที่ได้นำเสนอออกมาได้สะท้อนเข้าไปในราคาหุ้นอ้างอิงหลายตัวแล้ว ประกอบกับยังไม่มีปัจจัยบวกจากในต่างประเทศที่สำคัญนอกเหนือจากการที่ FED ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายระดับต่ำต่อไปหลังสิ้นสุดมาตรการ QE ส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยที่แกว่งตัวในกรอบแคบ ระหว่าง 1,560-1,600 จุด ทำให้ในช่วงเวลาดังกล่าว นักลงทุนจึงมีการปรับกลยุทธ์การลงทุนถือเงินสดรอดูสถานการณ์ และบางส่วนเข้าได้เก็งกำไรใน Call DW ที่อ้างอิงหุ้นขนาดกลาง เช่น BMCL,TPIPL,TTA ที่คาดว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาด นอกจากนี้ ในช่วงปลายเดือนที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เคลื่อนไหวเข้าใกล้แนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,600 จุด เราพบมีนักลงทุนจำนวนมากเข้าซื้อ Put DW ที่อ้างอิงดัชนี SET50 เพื่อเก็งกำไรและป้องกันความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนอีกด้วย อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาถึงภาพรวมการซื้อขายในเดือนนี้พบว่า นักลงทุนยังคงให้ความสนใจซื้อขาย DW ประเภท Call เป็นหลักในสัดส่วนที่สูงถึง 81.6%

 

 

 

หลักทรัพย์อ้างอิงที่เป็นที่นิยม: นักลงทุนเก็งกำไร DW บนหุ้น TRUE, BMCL, TTA  

           สำหรับ DW ในหุ้นรายตัวที่ได้รับความนิยมสูงสุดในเดือน ก.. ยังคงเป็น DW ที่อ้างอิงกับหุ้น TRUE ซึ่งมีสัดส่วนการซื้อขายสูงถึง 25.7% เนื่องจากโดยปกติหุ้น TRUE มีความผันผวนของราคาระหว่างวันค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับหุ้นอ้างอิงอื่นๆ ที่ซื้อขายในดัชนี SET50  ทำให้นักลงทุนเข้ามาจับจังหวะทำกำไรใน DW ทั้งประเภท Call และ Put เป็นจำนวนมาก

อันดับ 2 เป็น DW ที่อ้างอิงกับหุ้น BMCL โดยมีสัดส่วนการซื้อขายสูงถึง 5.8% โดยนักลงทุนให้ความสนใจลงทุนใน DW ประเภท Call เป็นจำนวนมาก เนื่องจาก BMCL มีทิศทางการเติบโตที่ชัดเจนอย่างต่อเนื่องตามจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดเส้นทางสายสีม่วงและน้ำเงินต่อขยาย รวมทั้งโอกาสในการได้เส้นทางใหม่จากการลงทุนในภาครัฐ  ทำให้คาดการณ์ว่าบริษัทจะพลิกกลับมาเป็นกำไรเร็วกว่าที่คาดไว้

อันดับ 3 เป็น DW ที่อ้างอิงกับหุ้น TTA โดยมีสัดส่วนการซื้อขายสูงถึง 5.6% โดยนักลงทุนให้ความสนใจลงทุนใน DW ประเภท Call เป็นจำนวนมาก เนื่องจาก TTA สามารถทำกำไรสุทธิได้ติดต่อกันใน 3 ไตรมาสแรกของงวดบัญชีปี 2557 นอกจากนี้ธุรกิจหลักของ TTA ที่เกี่ยวข้องการเดินเรือ โครงสร้างพื้นฐาน พลังงานถ่านหิน มีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างมาก

จำนวน DW: ปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยมีหุ้นอ้างอิงเข้าใหม่คือ NOK, PSL, RATCH, SRICHA

สำหรับ จำนวน DW ที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ณ.สิ้นเดือน ก.. 57 มีทั้งสิ้น 719 รุ่น แบ่งเป็น Call DW  570  รุ่นและ Put DW 149 รุ่น อ้างอิง ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจาก ณ.สิ้นเดือน ส.. ที่มีจำนวน DW ที่มีการเสนอขายทั้งสิ้น มี 737 รุ่น แบ่งเป็น Call DW 574 ตัวและ Put DW 163 รุ่น

ในขณะที่ จำนวนหลักทรัพย์อ้างอิงที่มีการเสนอขาย ณ. สิ้นเดือน ก.. มีทั้งสิ้น 89 ตัว ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก ณ.สิ้นเดือน ส.. 57 ที่มีจำนวนทั้งสิ้น 85 ตัว โดยหลักทรัพย์อ้างอิงที่เพิ่มเข้ามาในเดือน ก.. ได้แก่ ได้แก่ หุ้นสามัญของบริษัท สายการบินนกแอร์ (NOK),  หุ้นสามัญของบริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง (PSL), หุ้นสามัญของบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) และหุ้นสามัญของบริษัท ศรีราชาคอนสตรัคชั่น (SRICHA)

 

ผู้ออก DW: หลักทรัพย์บัวหลวงเป็นผู้ออกที่มีทั้งจำนวน DW และหุ้นอ้างอิงสูงสุด

หากพิจารณาจำนวน DW แยกตามรายผู้ออกจะพบว่า หลักทรัพย์บัวหลวงมีจำนวน DW สูงสุดในระบบคิดเป็น 17.1% ของจำนวน DW ที่มีการซื้อขายทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์ และจำนวนหลักทรัพย์อ้างอิงให้เลือกสูงสุดในระบบคิดเป็น 74.2% ของจำนวนหลักทรัพย์อ้างอิงที่มีการซื้อขายทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์ 

 

 

 

Issuer

 No of Call

No of Put 

Total DW 

Total UL 

ASP

47

6

53

42

BLS

67

56

123

66

CGS

2

0

2

2

CIMBS

4

0

4

4

KGI

68

16

84

45

KS

52

13

65

46

KTZ

20

0

20

20

MBKET

54

6

60

52

MSTL

86

19

105

47

PTSEC

60

19

79

54

RHBOSK

39

2

41

39

SCBS

42

12

54

42

TNS

29

0

29

29

Total

570

149

719

89

        *ข้อมูล ณ.วันที่ 30.. 57

ส่วนแบ่งตลาด: DW01 ที่หลักทรัพย์บัวหลวงเป็นผู้ออกที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุดและมียอดคงค้างในระบบสูงสุดเช่นกัน

หลักทรัพย์บัวหลวงมีส่วนแบ่งการตลาดเมื่อคิดจากมูลค่าการซื้อขายสะสมในเดือน ก.. เป็นอันดับ 1 อยู่ที่ 51.5% และหากพิจารณาจากยอดการถือครอง DW โดยนักลงทุน ณ.สิ้นเดือน ก..  หลักทรัพย์บัวหลวงก็เป็นผู้ออกที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 เช่นกัน

 

Highlights of the Month:   นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์ลงทุนอย่างใกล้ชิด รับมือ DW ถูกแขวน SP

 

ในวันที่ 26 .ย ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ขึ้นเครื่องหมาย “SP” (Suspension) จำนวน 1 วัน เพื่อห้ามการซื้อขายหุ้นของบริษัทจัสมินอินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) และใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) ที่มี JAS เป็นหลักทรัพย์อ้างอิงทั้งหมด ซึ่งกรณีดังกล่าว ทำให้นักลงทุนหลายท่านเกิดความสงสัยว่าหากตลาดหลักทรัพย์ห้ามการซื้อขายหุ้นอ้างอิงและ DW เป็นระยะเวลานานกว่านั้น จะส่งผลกระทบต่อนักลงทุนที่ถือครองอยู่อย่างไรบ้าง บล. บัวหลวงในฐานะผู้ออก DW จึงขอให้ข้อมูลแก่นักลงทุน เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือหากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวในอนาคต โดยแบ่งเป็น 2 กรณีได้แก่

กรณีที่ 1 : ตลาดหลักทรัพย์ขึ้นเครื่องหมาย SP กับหุ้นอ้างอิงและ DW ไม่เกินกว่าวันซื้อขายวันสุดท้ายของ DW

นักลงทุนจะสามารถกลับมาซื้อขาย DW ได้ตามปกติอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากผู้ออกฯ ยังมีกลไกการดูแลราคา DW ตามปกติ โดยนักลงทุนสามารถตรวจสอบราคาที่เหมาะสมได้จากเวปไซด์ของผู้ออกฯ รายนั้นๆ  อย่างไรก็ตามนักลงทุนที่ถือ DW ข้ามเครื่องหมาย SP จะมีความเสี่ยงในกรณีที่ราคาหุ้นอ้างอิงจะเปิดกระโดดไปในทิศทางที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อนักลงทุนค่อนข้างมากเนื่องจาก DW เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราทด (Effective Gearing) นอกจากนี้ ในกรณี DW ถูกขึ้นเครื่องหมาย SP เป็นระยะเวลานาน อาจทำให้ DW มีมูลค่าลดลงจากการเสื่อมค่าเวลา (Time decay) ดังนั้น นักลงทุนควรติดตามข่าวสารและบทวิเคราะห์เกี่ยวกับบริษัทหุ้นอ้างอิงอย่างใกล้ชิด และควรหลีกเลี่ยงการซื้อขาย DW บนหุ้นที่อาจมีความเสี่ยงดังกล่าวจะมีความเสี่ยงที่ไม่อาจควบคุมได้สูง

กรณีที่ 2 : ตลาดหลักทรัพย์ขึ้นเครื่องหมาย SP หุ้นอ้างอิงและ DW เกินกว่าวันซื้อขายวันสุดท้ายของ DW

ในกรณีนี้จะถือว่า DW ครบกำหนดอายุ ดังนั้น นักลงทุนที่ถือครอง DW ดังกล่าวจะได้รับเงินสดส่วนต่างจากการใช้สิทธิแบบอัตโนมัติผ่านเข้ามาทางบัญชีธนาคารภายใน 9 วันทำการนับจากวันที่ผู้ออก DW ประกาศราคาอ้างอิง โดยราคาอ้างอิงที่นำมาใช้ในการคำนวณเงินสดส่วนต่างจากการใช้สิทธิในกรณีนี้ตามข้อกำหนดสิทธิมาตรฐานของ DW จะแบ่งเป็น 2 ราคาคือ 

1.       ราคาปิดของหุ้นอ้างอิงในวันแรกที่พ้นจากเครื่องหมาย SP  (กรณีหุ้นอ้างอิงถูกปลดเครื่องหมาย SP ภายใน 30 วันหลังวันซื้อขายวันสุดท้ายของ DW)

2.       ราคายุติธรรมที่จัดทำโดยที่ปรึกษาการเงินอิสระที่สำนักงาน กลต. เห็นชอบ โดยราคายุติธรรมดังกล่าวจะต้องถูกจัดทำไม่เกินกว่า 50 วันก่อนวันที่ผู้ออกฯ ประกาศแจ้งราคายุติธรรม (กรณีหุ้นอ้างอิงถูกปลดเครื่องหมาย SP หลังวันซื้อขายวันสุดท้ายของ DW เกินกว่า 30 วัน)

หลักทรัพย์บัวหลวงยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรผลิตภัณฑ์ เพื่อให้นักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลาย โดยในวันอังคารที่  7 ตุลาคมนี้ บริษัทจะทำการออกและเสนอขาย DW  จำนวนทั้งสิ้น 26 รุ่นครอบคลุม 15 หลักทรัพย์อ้างอิงได้แก่  ADVANC, AOT, BJC, BCH, BLA, EARTH, INTUCH, IRPC, JAS, KBANK, KTB, PTTEP, SCB, TRUE และ SET50 Index  ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.blswarrant.com

 

เรียบเรียงโดย

บรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)

 

 


LastUpdate 07/10/2557 13:16:36 โดย : Admin
24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 3:44 am