ผ่านพ้นไปแล้วกับงานมหกรรมยานยนต์ปารีส มอเตอร์โชว์ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งงานนี้ค่ายรถยนต์ปอร์เช่ สัญชาติเยอรมัน ได้เปิดตัวยนตรกรรมใหม่ล่าสุดด้วยเทคโนโลยีไฮบริด แบบ ปลั๊กอิน 3 รุ่น อาทิ รถพรีเมี่ยมอเนกประสงค์ (SUV) คันแรกของโลก "ปอร์เช่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด" พร้อมออกมาตั้งค่ามาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถหรูในระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
เทคโนโลยีไฮบริดแบบ ปลั๊ก-อิน ที่ได้รับการนำมาใช้กับคาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คันนี้ ส่งผลให้รถประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากขึ้น โดยมีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำเพียง 29.4 กิโลเมตร/ลิตร และอัตราการปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพียง 79 กรัมต่อกิโลเมตร
รถยนต์หรูรุ่นต่อมาที่นำมาโชว์ในงานปารีส มอเตอร์โชว์ แม้จะมีการเปิดตัวไปบ้างแล้ว แต่ก็เป็นที่หมายปองของนักเล่นรถที่อยากจับจองเป็นเจ้าของ "ปอร์เช่ พานาเมร่า เอส อี-ไฮบริด"ที่มีรูปทรงโฉบเฉี่ยว และมีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 32.25 กิโลเมตร/ลิตร ผสมผสานกับการบริโภคพลังงานไฟฟ้า โดยมีอัตราที่ 16.2 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง/100 กิโลเมตร ,อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อยู่ที่ 71 กรัม/กิโลเมตร
ส่วนอีกรุ่นที่ได้รับความสนใจอย่างท่วมท้น ด้วยรูปลักษณ์ที่ปราดเปรียว สปอร์ตสุดเร้าใจ ต้องยกให้ "ปอร์เช่ 918 สไปเดอร์" ที่ขณะนี้ว่ากันว่าเป็นรถรุ่นที่แพงที่สุดของค่ายปอร์เช่เท่าที่เคยมีมา เพราะราคาที่เปิดตัวอยู่ประมาณ 26-27 ล้านบาท
ปอร์เช่ 918 สไปเดอร์ มีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 32.25-33.33 กิโลเมตร/ลิตร ผสมผสานกับการบริโภคพลังงานไฟฟ้าโดยมีอัตราที่: 12.7 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง/100 กิโลเมตร;อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อยู่ที่ 72-70 กรัม/กิโลเมตร
อนึ่ง จากข้อมูลของปอร์เช่ ในรุ่น คาเยนน์ ที่ไม่ใช่รถไฮบริด อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 8.7-15.15 กิโลเมตร/ลิตร และรุ่นพานาเมร่า ที่ไม่ใช่รถไฮบริด อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 9.34-15.62 กิโลเมตร/ลิตร
ข่าวเด่น