นายธีรนันท์ ศรีหงส์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยมีแผนที่จะเดินหน้ากลยุทธ์ในการขยายเครือข่ายของธนาคารให้ครอบคลุมการให้บริการในภูมิภาค เพื่อรองรับการค้าและการลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียนที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกลยุทธ์ของธนาคารยังมีทั้งการร่วมมือกับพันธมิตรธนาคารท้องถิ่นในประเทศอาเซียน และการเปิดสาขาหรือการเป็นธนาคารท้องถิ่นในประเทศกลุ่มอาเซียนด้วย
โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับประเทศไทย ธนาคารจะพยายามเปิดสาขา หรือยกระดับเป็นธนาคารท้องถิ่นตามที่สามารถทำได้ เพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยในเดือนพฤศจิกายนนี้ ธนาคารจะเปิดทำการธนาคารในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว ) ในฐานะธนาคารท้องถิ่น ขณะเดียวกันจะเดินหน้าเข้าไปในกัมพูชา ที่ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการขออนุญาตจากทางการกัมพูชาว่าจะสามารถเปิดเป็นสาขา หรือสามารถตั้งเป็นธนาคารท้องถิ่นได้เลย
นายธีรนันท์กล่าวต่อว่า ส่วนในเมียนมาร์ถึงแม้ว่าการพิจารณาของธนาคารกลางเมียนมาร์ ที่ประกาศให้ใบอนุญาตธนาคารจากต่างประเทศเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศเป็นครั้งแรกจะยังไม่อนุญาตให้ธนาคารสามารถเข้าไปดำเนินธุรกิจได้ แต่ธนาคารยังสามารถใช้สำนักงานตัวแทนทำงานร่วมกับพันธมิตรธนาคารท้องถิ่นที่มีอยู่ 3 ราย ที่จะสามารถทำธุรกิจในเมียนมาร์ต่อไป เพราะโอกาสทางธุรกิจในเมียนมาร์ยังสามารถเติบโตได้อีกมาก โดยกลุ่มธุรกิจที่ธนาคารสนใจในเมียนมาร์คือ กลุ่มธุรกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ของเมียนมาร์ ที่มองว่ายังมีโอกาสและธนาคารก็มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้
ขณะที่การทำธุรกิจในประเทศเวียดนามก็ยังรอดูความชัดเจนจากทางการเวียดนาม และทิศทางการแข่งขัน เพราะการแข่งขันในประเทศเวียดนามยังมีอยู่สูง ส่วนประเทศอินโดนีเซีย ยังเป็นการร่วมมือกับธนาคารท้องถิ่นอยู่ ส่วนการจะเปิดสาขาหรือการตั้งเป็นธนาคารท้องถิ่นในอินโดนีเซียต้องอาศัยเวลาการศึกษาค่อนข้างมาก เพราะทางการอินโดนีเซียชะลอการเพิ่มขึ้นของธนาคารในประเทศ เนื่องจากปัจจุบันในประเทศอินโดนีเซีย มีสถาบันการเงินหลายแห่งแล้ว และทางการอินโดนีเซียต้องการให้ธนาคารต่างชาติที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศอินโดนีเซียควบรวมกิจการกับธนาคารท้องถิ่นมากกว่าตั้งใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาค่อนข้างมาก และต้องรอโอกาสที่เหมาะสม ซึ่งขณะนี้ธนาคารยังไม่มีแผนที่จะลงทุนในเรื่องนี้
ข่าวเด่น