หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและจัดอบรมสัมมนาในประเทศ โดยกำหนดให้บริษัทต่างๆ นำเงินที่จ่ายเป็นค่าห้องสัมมนา ค่าห้องพัก ค่าขนส่ง หรือรายจ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการอบรมสัมมนาภายในประเทศ ให้แก่ลูกจ้าง หรือรายจ่ายที่จ่ายให้กับผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว เพื่อการอบรมสัมมนา มาหักลดหย่อนภาษีได้ 100%
นอกจากนี้ยังกำหนดให้นักท่องเที่ยวนำเงินที่จ่ายเป็นค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว หรือที่จ่ายเป็นค่าที่พักในโรงแรม สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน 15,000 บาท มาหักลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน โดยทั้งหมดมีผลบังคับใช้ถึง 31 ธันวาคม 2558
ทั้งนี้มาตรการภาษีดังกล่าวเพื่อส่งเสริมและฟื้นฟูการท่องเที่ยว และให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจด้านการท่องเที่ยว แม้รัฐบาลต้องสูญเสียรายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท แต่สามารถช่วยกระตุ้นให้เกิดผลดีต่อธุรกิจนำเที่ยวในประเทศประมาณ 3,000 ล้านบาท
นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า มาตรการภาษีดังกล่าวเป็นการส่งเสริมให้มีการใช้จ่ายในประเทศมากขึ้น อีกทั้งจะช่วยฟื้นฟูการท่องเที่ยว อันจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
ขณะที่ นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เชื่อว่า ผลกระทบที่ต่อการจัดเก็บภาษีอากรจะไม่มากนัก แต่จะเป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว โดยผู้เสียภาษีสามารถใช้สิทธิ์หักเป็นรายจ่ายหรือหักเป็นค่าลดหย่อนได้ ภายหลังจากที่กฎหมายมีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2558
ส่วนในด้านผู้ประกอบการ นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) มองว่า มาตรการนี้จะช่วยกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศได้ โดยเฉพาะการวางแผนท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ระหว่างวันที่ 31 ธ.ค.2557- 4 ม.ค. 2558 แต่ทั้งนี้หน่วยงานภาครัฐจะต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวเกิดการรับรู้ให้มากขึ้น ทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่จะต้องประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างการรับรู้ในกลุ่มคนไทยที่นิยมท่องเที่ยวเอง และกรุ๊ปทัวร์
นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เชื่อว่า จะช่วยส่งเสริมให้คนไทยเดินทางในประเทศเพิ่มขึ้นในช่วงไฮซีซันปีนี้ และมองว่าเป็นมาตรการที่เหมาะสมแล้วสำหรับการกระตุ้นและจูงใจในช่วงสั้น ส่วนสถานการณ์ธุรกิจโรงแรมในช่วงไตรมาสสุดท้าย แม้ว่าเริ่มปรับตัวดีขึ้น แต่ยังมีอัตราเข้าพักเฉลี่ยลดลงราว 10-15%
นายยุทธชัย สุนทรรัตนเวช นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) เห็นว่า เป็นอีกหนึ่งมาตรการที่จะช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศ แต่รัฐบาลอาจต้องเพิ่มมาตรการจูงใจ เนื่องจากขณะนี้ประชาชนยังระวังการใช้จ่าย ซึ่งขณะนี้ทางสมาคมได้หารือกับบริษัทบัตรเครดิตบางแห่ง เพื่อให้สามารถนำคะแนนจากการท่องเที่ยวมาแลกซื้อสินค้าได้
โดยหากมีมาตรการเสริมอื่นๆ รวมถึงธุรกิจท่องเที่ยวอาจจะออกโปรโมชั่นพิเศษ ทำให้การเดินทางเพิ่มขึ้นได้ร้อยละ 10 ใน 2 รอบบิลของการเสียภาษี จนถึงปลายปี 2558 แต่สำหรับ 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้มาตรการนี้อาจจะเพิ่มการเดินทางได้ไม่มากนัก
ข่าวเด่น