เริ่มมีความคึกคักมากขึ้น ภายหลังจากสำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะเริ่มดำเนินการแจกคูปอง “คืนความสุขให้ประชาชน” เพื่อสนับสนุนประชาชนเปลี่ยนผ่านไปสู่การรับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ล็อตแรก จำนวน 4.64 ล้านใบ ใน 21 จังหวัด (14.1 ล้านครัวเรือนใน 42 จังหวัด) ซึ่งประชาชนสามารถเริ่มแลกคูปองได้ตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค.เป็นต้นไป ภายในระยะเวลา 6 เดือน
คูปองที่จะนำมาแจกดังกล่าวสามารถนำไปใช้แลกซื้อสินค้าได้ 2 กลุ่ม คือ แลกซื้อหรือใช้เป็นส่วนลดกล่อง Set Top Box หรือกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล กับใช้เป็นส่วนลดในการซื้อทีวีระบบดิจิตอลที่มีภาครับในตัว (DVB-T2) สิทธิประโยชน์ดังกล่าวที่ผู้บริโภคจะได้รับส่งผลให้ผู้ประกอบการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแลกคูปอง 690 บาท เริ่มออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายกันอย่างคึกคัก
เริ่มต้นด้วยผู้ประกอบการกล่อง Set Top Box ที่เริ่มออกมาแย้มกลยุทธ์การทำตลาดทั้งในรูปแบบนำคูปอง 690 บาทมาแลกกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลได้ในราคา 690 บาททันที และใช้เป็นส่วนลด พร้อมแถมพ่วงด้วยโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อชิงส่วนแบ่งการตลาดของคูปองที่จะนำมาแจกในล็อตแรกให้ได้มากที่สุด
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าบริษัทได้เตรียมรถบรรทุกอเนกประสงค์ 4 ล้อ ที่ดัดแปลงเพื่อเป็นจุดจำหน่ายเซตท็อปบ็อกซ์ และเสารับสัญญาณเคลื่อนที่ในชื่อ "คาราวานคืนความสุข" โดยรถเหล่านี้จะเดินทางไปยังต่างจังหวัดที่มีการติดตั้งโครงข่ายทีวีดิจิทตอล ซึ่งการเดินทางไปแต่ละครั้งบริษัทจะเตรียมสต๊อกเพื่อไปจำหน่ายประมาณ 10,000 กล่อง
นอกจากนี้ "สามารถ" ยังเปิดตัวเซตท็อปบ็อกซ์ 3 รุ่นใหม่ คือ Strong Pop 1 เป็นกล่องที่มีระบบเสียง Dolby, Strong White เป็นกล่องสีขาวมีระบบเสียง Dolby และ Strong Black เป็นกล่องสีดำที่มีปุ่ม โดยกล่องทั้ง 3 รุ่นมีฟังก์ชั่นพื้นฐานในการรับชมทีวีดิจิทัลพื้นฐาน เข้าทำตลาดในราคา 690 บาทเหมือนกันทุกรุ่น เพื่อให้สอดคล้องกับคูปองที่ กสทช.แจกให้กับผู้บริโภค
สำหรับช่องทางขายสินค้าของกล่อง Set Top Box ที่ สามารถ ปักธงทำตลาด ประกอบด้วย ห้างเทสโก้ โลตัส, โฮมโปร, เซเว่น อีเลฟเว่น และตัวแทนจำหน่ายของสามารถทั่วประเทศ พร้อมกันนี้ยังจะใช้กลยุทธ์สามารถสตรอง เน้นความแข็งแกร่ง 5 ด้านเป็นตัวหลักในการทำตลาด ประกอบด้วย 1.ความเชี่ยวชาญ 2.สินค้าคุณภาพ 3.กลยุทธ์การตลาดบุกถึงบ้าน...ส่งถึงที่ และมีจุดจำหน่ายกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ 4.ศูนย์บริการหลังการขายกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ และ 5.โปรโมชั่น คืนสุข 3 ต่อ
ในส่วนของโปรโมชั่นต่อที่ 1 คือ นำคูปอง 690 บาท มาแลกซื้อกล่องทีวีดิจิตอล 3 รุ่นฟรี ต่อที่ 2 ลูกค้าที่ซื้อกล่องเซต ท็อป บ็อกซ์ ไป จะได้รับคูปอง 690 บาท เพื่อใช้เป็นส่วนลดซื้อมือถือไอ-โมบาย รุ่น IQ 6.8 DTV และต่อที่ 3 ลูกค้าดีแทคที่ใช้แพ็คเกจแฮปปี้ และซื้อมือถือไอ-โมบาย รุ่น IQ 6.8 DTV จะได้รับค่าโทรฟรี 690 บาท ซึ่งหลังจากทำแคมเปญดังกล่าว สามารถ คาดว่าสิ้นปีจะมีส่วนแบ่งการตลาด กล่องเซต ท็อป บ็อกซ์ ที่ 20% และมีส่วนแบ่งการตลาดเสาอากาศทีวีดิจิตอลที่ 40% เนื่องจากบริษัทมีแผนที่จะทำตลาดเสารับสัญญาณควบคู่กันไป เพราะมีผู้เล่นน้อย
นายประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์ กรรมการผู้อำนวยการและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด กล่าวว่า ตอนนี้บริษัทอยู่ระหว่างการวางแผนการทำโปรโมชั่นแจกทอง และแจกเสารับสัญญาณทีวีดิจิทัล รวมไปถึงการปรับลดราคาขายกล่องเซต ท็อป บ็อกซ์ แพลนเน็ต จากราคา 1,490 เหลือ 990 บาท เพื่อให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้
ขณะเดียวกัน แพลนเน็ต ก็จะเน้นไปที่จุดแข็งของการตลาด คือ การบริการหลังการขายและการรับประกัน 2 ปี นอกจากนี้ แพลนเน็ต ยังมีแผนที่จะทำกล่องรุ่นพรีเมียมราคาประมาณ 2,500 บาท เข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง ซึ่งหลังจากออกมาทำการตลาดมากขึ้น คาดว่าจะมียอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยการมีส่วนแบ่งในด้านของกล่องเซต ท็อป บ็อกซ์ ที่ 5% และส่วนแบ่งการตลาดเสารับสัญญาณทีวีดิจิตอลลที่ 10%
ด้าน บริษัท คราวน์ เทค แอดวานซ์ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล ภายใต้แบรนด์ "เอเจ" ขอร่วมชิงส่วนแบ่งการตลาดคูปอง 690 บาท ด้วยการเปิดตัวแนะนำกล่องทีวีดิจิตอล 6 รุ่น มีราคาให้เลือกตั้งแต่ 1,290 บาท – 3,990 บาท พร้อมทำโปรโมชั่นเพิ่มยอดขายระหว่างวันที่ 20 ต.ค.2557 – 31 พ.ค. 2558 เมื่อซื้อกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล AJ รับสิทธิ์ลุ้นโชคทองคำทุกวัน รวมกว่า 1,000 บาททอง เพียงส่ง SMS พิมพ์คำว่า AJ ตามด้วยรหัส 9 หลัก แล้วส่งไปที่หมายเลข 4141888 ก็มีสิทธิ์ร่วมลุ้นรางวัลโชค 3 ชั้น
สำหรับโชค 3 ชั้น ที่เอเจ ประกาศแจกให้กับลูกค้าที่เข้ามาซื้อกล่องรับสัญญาณ ประกอบด้วย โชคชั้นที่ 1 แจกทองคำ 1 บาท จำนวน 3 รางวัล ทุกวัน โชคชั้นที่ 2 ลุ้นโชคทองคำหนัก 10 บาททุกเดือน และโชคใหญ่ชั้นที่ 3 ทองคำหนัก 100 บาท 1 รางวัล, ทองคำหนัก 50 บาท 1 รางวัล และทองคำหนัก 20 บาท 4 รางวัล
ขณะที่ผู้ประกอบการกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลกำลังประกาศศึกชิงส่วนแบ่งการตลาดคูปอง ในด้านของผู้ประกอบการช่องทางจำหน่าย ก็ประกาศร่วมศึกในฐานะผู้จัดจำหน่าย ด้วยการออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างคึกคักเช่นกัน
นายจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสบริหารสินค้า เพาเวอร์มอลล์ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า บริษัทจะเริ่มรับคูปองแลกซื้อทีวีดิจิตอลและกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลนับตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค.นี้เป็นต้นไป โดยลูกค้าสามารถนำคูปอง 690 บาท มาแลกซื้อสินค้าภายในเพาเวอร์มอลล์ และรับ โปรโมชั่นลดราคาสินค้ากลุ่มดิจิทัลทีวีสูงสุด 35% พร้อมผ่อนชำระ 0% นานสูงถึง 10 เดือน
นอกจากนี้ เพาเวอร์มอลล์ ยังได้ “ขยายความสุข” ให้กับลูกค้าที่เลือกมาใช้คูปองด้วยการ “คืนความสุขให้ประชาชน” ที่ POWER MALL ด้วยการมอบคูปอง Food Court Plus Card สำหรับรับประทานอาหารที่ Food Court เดอะมอลล์ทุกสาขา และ Food Hall ที่ พารากอน มูลค่า 100 บาท ซึ่งหลังจากออกมาทำการตลาด เพาเวอร์มอลล์ คาดว่าลูกค้าจะให้ความสนใจในการปรับเปลี่ยนเป็นดิจิตอลทีวีกว่า 90%
น.ส. สอางทิพย์ อมรฉัตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาด บริษัท เพาเวอร์บาย กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการวางแผนการทำกิจกรรมการตลาดกลุ่มสินค้าทีวีที่รองรับสัญญาณทีวีดิจิทัล และกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัล เนื่องจากขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับซัพพลายเออร์ คาดว่าเร็วๆ นี้น่าจะได้ข้อสรุป พร้อมทำตลาดในวันที่ 25 ต.ค. ซึ่งเบื้องต้นกิจกรรมที่จะทำน่าจะเป็นในส่วนของการมอบส่วนลด และของแถมให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้คูปองแลกซื้อสินค้าดังกล่าว
ด้าน น.ส. สลิลลา สีหพันธุ์ รองประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้บริหารห้างเทสโก้ โลตัส กล่าวว่า ในช่วงแรกของการทำตลาด เทสโก้ โลตัส 74 สาขา ใน 21 จังหวัด จะพร้อมรับคูปองดิจิตอลทีวีนับตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค.นี้เป็นต้นไป และในช่วงที่สอง คือ เดือนพ.ย.จะเพิ่มจำนวนสาขารับคูปองดังกล่าวอีก 44 สาขา
ปัจจุบัน เทสโก้ โลตัส มีจำนวนแบรนด์กล่องรับสัญญาณดิจิตอลทีวีจำหน่ายอยู่ที่ 12 แบรนด์ ซึ่งถือเป็นร้านค้าปลีกที่มีแบรนด์กล่องรับสัญญาณดิจิตอลทีวีให้ลูกค้าเลือกมากที่สุด นอกจากนี้ ยังจำหน่ายกล่องรับสัญญาณดิจิตอลทีวีที่ราคาเริ่มต้นเพียง 690 บาท ซึ่งลูกค้าสามารถใช้คูปองที่ได้รับจาก กสทช. แลกซื้อได้ทันที โดยไม่ต้องเพิ่มเงิน
กลยุทธ์การตลาดที่ผู้ประกอบการแต่ละรายต่างประกาศออกมาจะได้ผลการตอบรับจากผู้บริโภคมากน้อยแค่ไหน คงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้บริโภค เพราะปัจจุบันผู้บริโภคบางกลุ่มยังไม่มีความเข้าใจทีวีดิจิตอลว่าคือ อะไร และจะดูได้อย่างไร
ข่าวเด่น