ในยุคสมัยนี้ไม่ว่าหน่วยงานใด ธุรกิจใดต่างพยายามดึงเทคโนโลยีใกล้ตัว อย่างการสื่อสารบนโลกดิจิตอลมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ซึ่งยังเป็นการเดินตามนโยบายของรัฐบาลด้วยที่ต้องการผลักดันไทยเข้าสู่ยุคของเศรษฐกิจดิจิตอล โดยล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ ขานรับนโยบายดังกล่าวด้วยการเปิดตัว 2 โมบาย แอพพลิเคชั่นได้แก่ “DITP Connect” และ “ThaiTrade.com” หวังเพิ่มศักยภาพและอำนวยความสะดวกให้นักธุรกิจไทย-เทศ ทั้งผู้ผลิตและส่งออก สร้างความแข็งแกร่งในเวทีโลก เป็นสื่อกลางให้ได้รับข้อมูลข่าวสารอย่างฉับไว สื่อสารกับคู่ค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง
พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในพิธีเปิดตัว ดีไอทีพี แอพพลิเคชั่น โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ว่า ปัจจุบันสิ่งสำคัญที่มีผลกระทบโดยตรงต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก คือ ความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยีและการสื่อสารที่ฉับไว ทันต่อเหตุการณ์ ทั้งที่เป็นการสื่อสารด้วยโทรศัพท์มือถือ การทำงานผ่านโปรแกรมสำเร็จรูป ระบบนำทางผ่านดาวเทียม หรือGPS และโซเชียลมีเดีย ที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนและครอบครัว ให้สามารถพูดคุยกันได้ผ่านข้อความ (Chat) หรือคุยกันแบบเห็นหน้าเห็นตากันผ่านวีดีโอคอลล์ (Video Call)
ซึ่งจากสถิติ 10 บริษัทชั้นนำด้านอินเทอร์เน็ตของโลก เช่น กูเกิล เฟซบุ๊ค อาลีบาบา มีมูลค่าทางธุรกิจสูงถึง 69 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 5 เท่าของจีดีพีของประเทศไทย ซึ่งแสดงให้เห็นได้ว่า เศรษฐกิจดิจิตอล Digital Economy คือกุญแจสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกยุคปัจจุบัน
ทั้งนี้รัฐบาลมีนโยบายผลักดันประเทศไทยเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิตอลใน 1 ปีและมุ่งสนับสนุนส่งเสริมให้ภาคธุรกิจในทุกอุตสาหกรรมสามารถใช้ประโยชน์จากดิจิตอลเทคโนโลยีได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน โดยการลดต้นทุน ลดเวลา เพิ่มช่องทางการค้าและก่อให้เกิดสินค้าและบริการใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับยุทธศาสตร์การทำงานให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการวางรากฐานขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิตอลอย่างจริงจัง 3 อย่าง ดังนี้คือ 1.การพัฒนาระบบดิจิตอลเพื่อรองรับการให้บริการอย่างครบวงจร ให้ประชาชนและผู้ประกอบการได้รับข้อมูลข่าวสารจากกระทรวงฯอย่างสะดวกรวดเร็ว 2.การส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์ดิจิตอล ทั้งที่เป็นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ อุปกรณ์สื่อสารและโทรคมนาคมดิจิตอล 3. ส่งเสริมและผลักดันธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ด้าน นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ทั้ง 2 แอพฯจะช่วยอำนวยความสะดวกในด้านการสื่อสารและรับรู้ข้อมูลข่าวสารให้แก่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เป็นผู้ส่งออกส่วนใหญ่ หรือกล่าวได้ว่า ในจำนวนผู้ส่งออกทั้งหมดคิดเป็นเอสเอ็มอีถึง 90% ด้วยกัน
สำหรับแอพพลิเคชั่นที่เปิดตัวได้แก่ DITP Connect เป็นแอพฯที่รวบรวมข้อมูลข่าวสารจากฐานข้อมูลของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยได้เข้าถึงข้อมูลการค้าสำคัญๆ โดยสามารถเลือกหมวดหมู่สินค้าและตลาดได้ตามต้องการ กิจกรรมงานแสดงสินค้า การฝึกอบรมและกิจกรรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศต่างๆ
ส่วนแอพฯ ThaiTrade.com เป็นการต่อยอดมาจากเว็บไซต์ www.thaitrade.com ซึ่งเป็นเวบไซต์ตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Marketplace) อย่างเป็นทางการของไทยอีกต่อหนึ่ง โดยเพื่อเป็นสื่อกลางนำสินค้าที่ได้มาตรฐานออกสู่สายตาผู้ซื้อทั่วโลก ให้ผู้ซื้อได้พบสินค้าคุณภาพ ผู้ขายจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อมีคำสั่งซื้อ ทั้งยังเปิดโอกาสให้มีการจับคู่เจรจาทางธุรกิจกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเดิมเป็นการทำกิจกรรมบนเว็บไซต์ แต่เวลานี้เปลี่ยนมาเป็นทำบนมือถือแทน
อธิบดีกรมฯคาดหวังว่า จะมีผู้ประกอบการเข้าร่วมใช้แอพฯเพิ่มขึ้น เป็นประมาณ 2 หมื่นราย จากปัจจุบันมีผู้ประกอบการเข้ามาใช้งานเว็บ thaitrade.com ผ่านทางพีซีอยู่แล้วประมาณ 1 หมื่นราย ซึ่งการมาร่วมทำกิจกรรมการค้าผ่านเว็บของกรม ยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่คู่ค้าต่างๆ ด้วยว่า ได้ติดต่อกับบริษัทที่ผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐาน
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอพฯทั้งสองไปใช้งานกันได้แล้ว ซึ่งรองรับการใช้งานทั้งบนอุปกรณ์ระบบ iOS และ Android
ข่าวเด่น