ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ตั้งเป้าลดเอ็นพีแอลเหลือ 3% ปลายปีนี้ พร้อมเน้นปล่อยสินเชื่อคุณภาพ หลังสินเชื่อ 9 เดือนยังโตช้ากว่าเป้าหมาย จากผู้ประกอบการชะลอเบิก - เอสเอ็มอีแข่งรีไฟแนนซ์ดุ
นายณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายกลยุทธ์และการเงิน ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า สินเชื่อในช่วง 9 เดือนแรกของธนาคารสามารถเติบโตได้ 6.9% หากเทียบกับเป้าหมายที่ธนาคารวางไว้ที่ 15% ในปีนี้นับว่าค่อนข้างท้าทาย โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายธนาคารจะพยามยามสร้างการเติบโตอย่างเต็มที่ เพราะยังมีสินเชื่อที่ยังไม่ได้เบิกใช้อยู่จำนวนหนึ่ง แต่ต้องยอมรับว่าในปีนี้สินเชื่ออาจจะไม่สามารถทำได้ถึง 15%
ทั้งนี้สินเชื่อของธนาคารที่การเติบโตชะลอลงมาจากการชะลอการเบิกใช้สินเชื่อของกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ รวมทั้งกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและย่อมหรือเอสเอ็มอี มีการแข่งขันในตลาดสูงขึ้นจากธนาคารขนาดใหญ่และธนาคารบางรายที่เข้ามาทำตลาด ส่งผลให้ลูกค้าเอสเอ็มอีบางรายรีไฟแนนซ์ออกไป เพราะต้องการอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า กอรปกับสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน จากภาพรวมในตลาดที่เกิดขึ้นทำให้ธนาคารจะหันมาเน้นการปล่อยสินเชื่อในเชิงคุณภาพมากกว่าเร่งสร้างการเติบโต ซึ่งสินเชื่อในบางกลุ่ม เช่น สินเชื่อบ้าน หรือสินเชื่อส่วนบุคคล ธนาคารได้มีการปรับเกณฑ์การพิจารณา เพื่อคุมความเสี่ยงด้วย
อย่างไรก็ตาม การคุมความเสี่ยงจากสินเชื่อสอดคล้องกับเป้าหมายในการพยายามลดสัดส่วนหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ลงจากไตรมาส 3 ที่อยู่ในระดับ 3.3% โดยธนาคารตั้งเป้าหมายจะลดลงเหลือ 3% ในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ในช่วง 6-8 เดือนที่ผ่านมา ธนาคารได้เพิ่มความถี่ในการติดตามหนี้มากขึ้น ทำให้การเพิ่มขึ้นของหนี้เอ็นพีแอลชะลอลง ขณะเดียวกันธนาคารกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาถึงแนวทางในการขายหนี้ให้กับบริษัทบริหารสินทรัพย์อยู่เช่นกัน
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวอีกว่า การชะลออัตราการเติบโตของสินเชื่อลงนั้น ทำให้ธนาคารต้องสร้างรายได้จากค่าธรรมเนียมแทน ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากค่าธรรมเนียมมีประมาณ 20% ของรายได้รวม และตั้งเป้าจะเพิ่มเป็น 40% ในอีก 1-2 ปี โดยจะมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมของธุรกิจรายใหญ่และเอสเอ็มอี ขณะเดียวกันธนาคารก็จะพยายามลดต้นทุนให้ต่ำลง โดยจะมาจากการปรับสาขาที่มีความซ้ำซ้อนในพื้นที่ลง
ส่วนในปีหน้าธนาคารประเมินว่าเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน จากประมาณการณ์จีดีพีที่คาดว่าจะเติบโต 4.5 % ในปี 2558 นับว่าเป็นการเติบที่ต่ำกว่าภูมิภาค ซึ่งปีหน้าสินเชื่อก็อาจจะเติบโตในอัตราที่ชะลอลงจากปีนี้
ข่าวเด่น