เมืองไทยประกันชีวิตชู 2 โครงการเด่น ไตรมาสสุดท้าย ส่ง "เมืองไทย SME Smile" รับกระแสธุรกิจเริ่มต้น เพียงมีพนักงาน 3 คนก็คุ้มครองได้ พร้อมชู "เมืองไทยรับทรัพย์ตลอดชีพ 90/7" เอาใจผู้ต้องการสร้างความมั่นคงให้ครอบครัว
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเดินหน้าออกแบบประกันที่ตอบโจทย์ลูกค้า สามารถครอบคลุมทุกช่องว่างในตลาด ล่าสุดเปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ รับกลุ่ม ไมโคร เซ็กเมนต์ ซึ่งจากการสำรวจตลาด ณ ปัจจุบัน พบว่ามีผลิตภัณฑ์สำหรับรองรับกลุ่มลูกค้าที่ประกอบธุรกิจประเภท SME ค่อนข้างหลากหลาย แต่จุดเด่นที่จะสามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างชัดเจน คือ จำนวนพนักงานประจำขั้นต่ำขององค์กรนิติบุคคลที่จะสามารถขอรับบริการดังกล่าวได้ พบว่าขณะนี้คือตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป
เมืองไทยประกันชีวิตจึงได้เปิดตัวโครงการ "เมืองไทย SME Smile" พร้อมชูจุดเด่น แม้พนักงานประจำมีจำนวน 3 คนก็คุ้มครองได้ เพื่อให้สามารถมีทางเลือกในการซื้อสวัสดิการแบบประกันกลุ่มให้กับพนักงาน รวมถึงคู่สมรสและบุตร ของพนักงานได้ โดยได้พัฒนาจากผลิตภัณฑ์เดิมในชื่อ โครงการ ‘SME Package’ ซึ่งเดิมองค์กรนิติบุคคลผู้ขอรับบริการจะต้องมีพนักงานตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยอัตราเบี้ยของประกันของเมืองไทย SME Smile อยู่ที่ 1 -2 หมื่นบาทต่อกรมธรรม์

โดดเด่นด้วยผลประโยชน์ที่คุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นคุ้มครองกรณีเสียชีวิตสูงสุดถึง 600,000 บาท หรือกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรับความคุ้มครองชีวิต 2 เท่า ของจำนวนเงินเอาประกันภัย หรือกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุสาธารณะรับความคุ้มครองชีวิต 3 เท่า ของจำนวนเงินเอาประกันภัย และสามารถเบิกค่าธรรมเนียมแพทย์ผ่าตัดได้ตามจริง 100% ภายในวงเงินผลประโยชน์รวมถึงรับสิทธิ์ซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอก (OPD) ได้ตามจริง สูงสุด 2,000 บาทต่อวัน ความคุ้มครองค่ารักษาทันตกรรมได้ตามจริง สูงสุด 5,000 บาท/ปีกรมธรรม์ ความคุ้มครองโรคร้ายแรง สูงสุด 600,000 บาท และรับส่วนลดร้านค้าที่ร่วมรายการในโครงการเมืองไทย Smile Plus โดยสามารถรับประกันได้ตั้งแต่อายุ 15 – 65 ปี บริบูรณ์
ทั้งนี้ บริษัทได้มีการนำเสนอ ‘โครงการเมืองไทย SME Smile’ ผ่านทุกช่องทางการขายของบริษัทฯ เช่น ช่องทางการขายตรงของประกันกลุ่ม (Direct), ช่องทางตัวแทน (Agency) ช่องทางบริษัทนายหน้า (Broker) และช่องทางธนาคาร (Bancassurance) เป็นต้น โดยมุ่งสู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ที่เป็นองค์กรนิติบุคคลขนาดเล็กและขนาดกลาง ที่มีพนักงานประจำตั้งแต่ 3 – 19 คน ประกอบธุรกิจที่มีความเสี่ยงไม่เกินระดับอาชีพชั้น 2 โดยพนักงานเป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม และองค์กรไม่ได้มีกรมธรรม์ประกันกลุ่มที่ยังมีผลบังคับกับเมืองไทยประกันชีวิต
นายสาระกล่าวว่า สำหรับอีกโครงการ คือ "เมืองไทยรับทรัพย์ตลอดชีพ 90/7" จัดเป็นประกันชีวิตแบบคุ้มครองตลอดชีพที่ให้ความคุ้มค่าแก่ผู้เอาประกันภัยอย่างครบถ้วน โดยให้ความคุ้มครองชีวิต 100% ยาวจนครบอายุ 90 ปี แต่จ่ายเบี้ยประกันภัยในระยะเวลาที่สั้นเพียง 7 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาที่สั้นกว่าแบบประกันชีวิตแบบคุ้มครองตลอดชีพทั่วไปที่มีในปัจจุบัน อีกทั้งยังเพิ่มความพิเศษให้แก่ลูกค้าตรงที่มีเงินจ่ายคืนระหว่างสัญญา โดยจะได้รับเงินจ่ายคืน 2% ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 2,4,6,8,10,12 และ 14
นอกจากนี้ยังรับเงินจ่ายคืนทุกปี ปีละ 2% ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 16 จนครบอายุ 89 ปี พร้อมเงินครบสัญญาอีก 100% เหมาะกับผู้ที่กำลังสร้างครอบครัวและต้องการสร้างหลักประกันไว้ให้ลูกหลานโดยผ่านทางเลือกที่คุ้มค่า รวมถึงกลุ่มคนทำงานที่ต้องการใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีเงินได้
ทั้งนี้ "โครงการเมืองไทยรับทรัพย์ตลอดชีพ 90/7" เป็นแบบประกันชีวิตตลอดชีพที่สามารถตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการสร้างเงินออมได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถเลือกจำนวนเงินเอาประกันภัยให้ตรงกับจำนวนเงินออมที่ต้องการสร้าง ในขณะเดียวกันยังมีเงินจ่ายคืนระหว่างสัญญาที่สามารถนำไปใช้จ่ายได้ตามความต้องการ เรียกได้ว่าได้ประโยชน์ทั้งผู้เอาประกันภัยและผู้รับประโยชน์ในแบบประกันเดียว
“ผู้สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.muangthai.co.th หรือโทร. 1766”
ข่าวเด่น