หุ้นทอง
ทัพกูรูเชื่อมั่นเศรษฐกิจโลกฟื้น ฟันธง "เอเชียเหนือ-ญี่ปุ่น-สหรัฐฯ" น่าสนใจลงทุนปีแพะ


"ทิสโก้ เวลธ์"  นำทัพกูรูร่วมฟันธงเศรษฐกิจโลกฟื้นรับปี 2558  ชี้ “เอเชียเหนือ - ญี่ปุ่น - สหรัฐ” คือคำตอบลงทุนปีหน้า เผย "ค่าเงินดอล์แข็งค่า ราคาน้ำมัน ผลตอบแทนพันธบัตร" 3 ธีมลงทุนหลักปีหน้า 

 




 
นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)  กล่าวในงานสัมมนาใหญ่ TISCO Wealth Investment Forum "จัดพอร์ตลงทุนรับเศรษฐกิจโลกฟื้น “หุ้น-อสังหาฯ ต่างประเทศ” โอกาสมั่งคั่งปี 58" ว่า การลงทุนต่างประเทศจะยังคงเป็นธีมใหญ่ที่ ทิสโก้เวลธ์ (TISCO Wealth) แนะนำลงทุนสำหรับการจัดพอร์ตเพื่อเสริมความมั่งคั่งให้แก่ผู้ลงทุนในปี 2558 เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีการฟื้นตัวชัดเจนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทิสโก้ถือเป็นรายแรกๆในตลาดที่แนะนำให้นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักการลงทุนต่างประเทศ เพื่อเปิดโอกาสรับผลตอบแทน ทั้งนี้การลงทุนที่ตอบโจทย์ในปี 2558 ทิสโก้จะมุ่งเน้นในสองส่วนที่สามารถตอบโจทย์นักลงทุนได้อย่างครอบคลุม ได้แก่ กองทุนหุ้นต่างประเทศ และการซื้อขายหุ้นต่างประเทศโดยตรง

ด้าน นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน  ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ ทิสโก้  กล่าวในหัวข้อเสวนา  "จัดพอร์ตลงทุนรับเศรษฐกิจโลกฟื้น “หุ้น-อสังหาฯ ต่างประเทศ” โอกาสมั่งคั่งปี 58" ว่า ทิศทางการลงทุนในปี 2558 จะถูกกำหนดด้วย 3 ธีมหลัก ได้แก่ 1. ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง 2. ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะทรงตัวในระดับต่ำเป็นเวลานาน และ 3. Yield พันธบัตรสหรัฐฯ จะทรงตัวในระดับต่ำ

การลงทุนในปี 2558 จากธีมหลัก 3 ประการที่กล่าวมา ทิศทางการลงทุนปีหน้า ทิสโก้จึงแนะนำให้ลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียเหนือ โดยเฉพาะเกาหลีใต้และไต้หวัน รวมถึงตลาดหุ้นญี่ปุ่นและตลาดหุ้นสหรัฐฯ เนื่องจากจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากต้นทุนพลังงานที่ลดลง และแนวโน้มดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่า ซึ่งจากการปรับฐานของตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ตลาดหุ้นทั้ง 3 ภูมิภาคจะมีความน่าสนใจมากปีหน้า และแนวโน้มคาดการณ์ผลกำไรมีการปรับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

ขณะที่ ผศ.ดร.บุญธรรม รจิตภิญโญเลิศ นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์และการเงิน ประจำมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  กล่าวว่า ทิศทางเศรษฐกิจโลกในปีหน้า ภูมิภาคที่มีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน ได้แก่ สหรัฐอเมริกา และ เอเชียเหนือ โดยตลาดหุ้นที่น่าจับตามอง และเป็นโอกาสการลงทุนในปี 2558 ซึ่งได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากที่สุด ได้แก่ ตลาดเอเชียเหนือ โดยเฉพาะเกาหลีใต้ และไต้หวัน ถือว่าโดดเด่นมากที่สุด

เนื่องจากเป็นประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ที่จะได้เปรียบจากช่วงเวลาที่เงินไหลกลับตลาดสหรัฐฯ ในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น นั่นคือ มีทุนสำรองระหว่างประเทศสูง และมีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด และหากพิจารณาเศรษฐกิจมหภาคของทั้งสองประเทศนี้แล้ว ถือว่ามีความเสี่ยงน้อยมาก ไม่ว่าจะเป็นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจหรืออัตราเงินเฟ้อที่ยังดูดีอยู่ ตัวเลขการส่งออกที่ดีสุดในรอบ 2 ปี สถานภาพทางการคลังของรัฐบาลที่ยังมีเม็ดเงินเหลืออยู่อีกไม่น้อยที่จะใช้เงินอัดฉีดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และที่สำคัญอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2% ของเกาหลีใต้ นับว่ายังมีอาวุธเหลืออีกมากพอที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกหลายรอบ รวมถึงในขณะที่รายได้และกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดทั้ง 2 มีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบี  ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) กล่าวว่า จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ในสหรัฐอเมริกาและยุโรปบางประเทศ ส่งผลให้นักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เริ่มสนใจในสองภูมิภาคนี้มากขึ้น จากที่ 2-3 ปีที่ผ่านมา การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์จะให้ความสำคัญกับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ซึ่งในรอบปี 2555-2557แนวโน้มของนักลงทุนเริ่มเห็นว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ในตลาดสำคัญมีราคาที่สูงมากและผลตอบแทนในรูปของ Yield เริ่มต่ำลง ส่งผลให้นักลงทุนหาทางเลือกอื่นๆ ในการลงทุนมากขึ้น ส่วนรูปแบบการลงทุนจะรับความเสี่ยงและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ทำเลที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนสถาบัน ได้แก่ สหรัฐฯ ยุโรป อังกฤษ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ในขณะที่จีนเริ่มลดบทบาทลง และตลาดใหม่ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย

ส่วนในประเทศไทยเองการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ยังเป็นความเสี่ยงในสายตานักลงทุนต่างประเทศ เพราะมีอัตราการเติบโตค่อนข้างมากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มคอนโดมิเนียม ที่แม้ว่าปัจจุบันยังมีความต้องการอยู่บ้าง แต่ราคาก็ปรับขึ้นสูง ซึ่งในปีหน้าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อาจต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะการเก็งกำไรระยะสั้นต้องระมัดระวังมาก อย่างไรก็ตาม ทิศทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ ยังคงเป็นปัจจัยบวกสำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ในปี 2558
 

บันทึกโดย : วันที่ : 29 ต.ค. 2557 เวลา : 18:06:07
24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 5:41 am