"ไมลส์ เทลเลอร์" ถือเป็นอีกหนึ่งนักแสดงดาวรุ่งของฮอลลีวู้ดที่น่าจับตามอง ล่าสุดเขามีผลงานใหม่ ด้วยการรับบทนำในภาพยนตร์เรื่อง "Whiplash"
"Whiplash" ได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามทั้งจากนักวิจารณ์และผู้ชมทั่วไป นอกจากตัวภาพยนตร์จะเป็นที่ประทับใจต่อผู้ชมแล้ว นักแสดงนำอย่าง "ไมลส์ เทลเลอร์" เอง ก็สามารถแจ้งเกิดได้อย่างสมบูรณ์แบบ กับบท "แอนดรูว์" มือกลองหนุ่มที่ต้องการเป็นมากกว่าเพียงฉากหลังในวงดนตรี เขาต้องการเป็นสุดยอดมือกลองระดับโลก ซึ่ง เทลเลอร์
ก็ทุ่มเทเพื่อภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยฝึกซ้อมการตีกลองอย่างหนัก ไม่แพ้นักแสดงแอ็คชั่นที่ทุ่มเทเพื่อฉากต่อสู้เลย
"ผมหลงรักการตีกลองอยู่แล้ว ผมตีกลองจริงจังตั้งแต่อายุ 15 ของขวัญที่ผมขอแม่หลังจากเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ก็คือ กลองชุด แถมพอผมย้ายมาอยู่ที่แอลแอเพื่อการแสดง ผมก็ไม่ลืมที่จะเอากลองชุดมาด้วย ผมคิดว่าผมตีกลองได้ดีนะ แต่นั่นมันยังไม่เพียงพอ เพราะฉากสำคัญในหนังที่เป็นการโซโล่กลองที่พีคมาก ผู้กำกับอยากให้ผมเล่นเอง ทำให้ผมต้องฝึกซ้อมอย่างหนักเท่าที่จะซ้อมไหว เพราะไม่อยากให้ผู้กำกับที่เชื่อในตัวผมต้องผิดหวัง ผมต้องฝึกเป็นเวลา 4
ชั่วโมงต่อวัน 3 วันต่อสัปดาห์ เป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนก่อนการถ่ายทำ เลือดที่คุณเห็นในหนังระหว่างที่ผมตีกลองมันเกิดขึ้นจริงๆ แต่ท้ายที่สุดแล้วผมก็ได้แสดงเองกว่า 70% ของฉากตีกลอง ผมรู้สึกภูมิใจกับตัวเองมาก"เทลเลอร์ กล่าว
โดยช่วงนี้ถือว่า "เทลเลอร์" เป็นนักแสดงที่ได้รับการจับตามองอย่างมาก เพราะนอกจาก Whiplash แล้ว เขายังมีผลงานโดดเด่น อาทิ That Awkward Moment, The Spectacular Now, Divergent และเขายังได้เป็นหนึ่งในตัวละครซูเปอร์ฮีโร่อย่างมิสเตอร์แฟนทาสติกในเรื่อง "The Fantastic Four" เวอร์ชั่นรีบูตอีกด้วย
นอกจาก เทลเลอร์ แล้ว Whiplash ยังร่วมแสดงโดย "เจเค ซิมมอนซ์" ที่มารับบท "เทอเรนซ์" ครูสอนดนตรีที่มีวิธีการสอนที่เข้มข้น โดยเฉพาะเมื่อเขาเห็นถึงพรสวรรค์ของเด็กที่เขาสอน
ภาพยนตร์เรื่อง Whiplash จะประสบความสำเร็จในแง่รายได้หรือไม่คงต้องติดตาม แต่ที่แน่ๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการจับตามองน่าจะเป็นหนึ่งในหนังที่น่าลุ้นรางวัลต่างๆ โดยเฉพาะในสาขาใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยม หรือในสาขานักแสดงนำชายและสมทบชาย
ในเทศกาลหนังซันแดนซ์ปี 2014 นั้น หนังเรื่องนี้ได้รับ รางวัล Audience Award (รางวัลขวัญใจคนดู) และ รางวัล Grand Jury Prize (รางวัลพิเศษจากคณะกรรมการ) มาครอบครองได้สำเร็จ
ในขณะที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้รับเลือกให้เข้าฉายสาย Directors' Fortnight อีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่า "ออสการ์" เป็นรางวัลสูงสุดที่ผู้สร้างภาพยนตร์ทุกเรื่องต้องการครอบครอง ส่วน Whiplash จะได้รางวัลหรือไม่ ถ้าได้ได้ในสาขาใดบ้าง คงเป็นเรื่องที่ต้องติดตาม
ข่าวเด่น