บลจ.ธนชาต เพิ่มทางเลือกให้นักลงทุน ส่งกองบอนด์ 6 เดือน - 1 ปี สำหรับผู้ลงทุนที่มีเงินทุนสูง ชูผลตอบแทนสูงสุดประมาณ 2.85% ต่อปี
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้ บลจ.ธนชาต เสนอขายกองตราสารหนี้ 6 เดือน (T-FixFIF6M1AI) และ 1 ปี (T-FixFIF1Y7AI) สำหรับนักลงทุนที่ไม่ใช่รายย่อย ตั้งแต่วันนี้ถึง 11 พฤศจิกายน 2557
จากผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่ประกาศคงดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ร้อยละ 2.0 ตามคาด และคาดว่าจะยังไม่ปรับขึ้นในปีนี้แน่นอนเนื่องจากเหลือการประชุมอีกแค่ครั้งเดียวในปีนี้และเศรษฐกิจยังอยู่ในช่วงกำลังฟื้นตัว เพราะฉะนั้นหากนักลงทุนยังต้องการลงทุนในบอนด์ บลจ.ธนชาต ขอเพิ่มทางเลือกกับบอนด์ในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นบราซิล ตุรกี เพื่อสร้างผลตอบแทนให้มากขึ้น โดยขณะนี้ บลจ.ธนชาต ได้เปิดขาย 2 กองทุนคือ กองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศอายุ 6 เดือน (T-FixFIF6M1AI) ผลตอบแทนประมาณ 2.65% และกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศอายุ 1 ปี (T-FixFIF1Y7AI) ผลตอบแทนประมาณ 2.85% โดยทั้งสองกองทุนเป็นกองทุนที่เสนอขายต่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อยเท่านั้น (AI Fund) เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุนที่ต้องการเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนมากขึ้น
สำหรับตราสารหนี้ที่กองทุน 6 เดือนจะเข้าไปลงทุน คือ เงินฝากในจีนและอินโดนีเซีย 44% ตราสารหนี้ Banco ABC Brasil / Banco BTG PACTUAL ประเทศบราซิล 20% ตราสารหนี้ที่ออกโดย Turkiye Garanti Bankasi / Turkiye Vakiflar Bankasi 20% และตราสารหนี้ที่ออกโดย Yapi Ve Kredi Bankasi / AKBank T.A.S. สัดส่วน 16% มีค่าใช้จ่ายกองทุนประมาณ 0.1300% กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกัน ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน โดยผู้ลงทุนต้องลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 500,000 บาท
นายบุญชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับกองทุนตราสารหนี้ 1 ปี จะเข้าไปลงทุนเช่นเดียวกับกองทุนตราสารหนี้ 6 เดือนแต่ปรับสัดส่วนในการลงทุนและผลตอบแทน คือ เงินฝากในจีนและอินโดนีเซีย 40% ตราสารหนี้ Banco ABC Brasil / Banco BTG PACTUAL ประเทศบราซิล 20% ตราสารหนี้ที่ออกโดย Turkiye Garanti Bankasi / Turkiye Vakiflar Bankasi 20% และตราสารหนี้ที่ออกโดย Yapi Ve Kredi Bankasi / AKBank T.A.S. สัดส่วน 20% มีค่าใช้จ่ายกองทุนประมาณ 0.2100% กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีสินทรัพย์ในการลงทุนสูงและสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น โดยผู้ลงทุนต้องลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 500,000 บาท เช่นเดียวกัน
ข่าวเด่น