ผู้บริหารงานวิจัย ธนาคารกสิกรไทย มองเศรษฐกิจไทยปี 2558 ครึ่งปีแรกอยู่ในสภาวะเกียร์ว่าง ลดดอกเบี้ยใช้ไม่ได้ผล เผยต่างชาติจับตาดูมาตรการภาษี นโยบายธุรกิจต่างด้าว
นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปีหน้ายังมีโอกาสที่จะเติบโตในระดับปานกลางที่ระดับ 4% แต่ความชัดเจนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยคาดว่าจะเริ่มเห็นความกระเตื้องในครึ่งปีหลังของปี 2558 ขณะที่ครึ่งปีแรกจะยังอยู่ในภาวะเกียร์ว่างของระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากนักลงทุนต่างรอดูความชัดเจนของการปฏิรูปประเทศว่าจะไปในทิศทางใด
รวมทั้งความชัดเจนในด้านนโยบายภาษี และนโยบายในเรื่องธุรกิจต่างด้าว ที่หากมีการเปลี่ยนแปลงอาจจะมีผลต่อเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยได้ ซึ่งแม้ว่าประเทศไทยจะพึ่งพาการส่งออกเป็นหลักแต่ก็ต้องมาจากการลงทุนเพื่อส่งออกด้วย ซึ่งเม็ดเงินลงทุนตรงจากนักลงทุนต่างชาติ(FDI) ต่อปีจะมีมูลค่าราว 8-9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ในปี2557 มีเม็ดเงินลงทุนเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก เพราะมาจากการซื้อสินทรัพย์ไม่ใช่เข้ามาลงทุน
อย่างไรก็ตาม ในภาวะเกียร์ว่างทางเศรษฐกิจ ทิศทางของนโยบายการเงินอาจจะไม่สามารถใช้การได้ เพราะหากมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในช่วงที่ทุกคนต่างรอดูความชัดเจน มีโอกาสที่จะทำให้กระสุนด้านในนโยบายการเงินได้ แต่หากจะใช้นโยบายการเงินอาจจะหวังผลในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อช่วยหนุนภาคส่งออก และรองรับสถานการณ์สงครามอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ที่เริ่มเข้มข้นขึ้น
"การใช้นโยบายการเงิน เหมือนกับเหรียญ 2 ด้าน ที่มีผลทั้งเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจและเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน แต่ผลจากการใช้นโยบายดอกเบี้ยจะได้ผลอย่างไร เป็นเรื่องที่ท้าทาย เพราะในอดีตปี 2549 มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจแต่ก็ไม่ได้ผล ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบัน นอกจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ในประเทศแล้วยังมีเรื่องเศรษฐกิจภายนอก ที่ทำให้การใช้นโยบายการเงินภายใต้สถานการณ์นี้มีความท้าทายมากขึ้น" นายกอบสิทธ์ิกล่าว
นายกอบสิทธิ์กล่าวด้วยว่า ส่วนแนวโน้มของค่าเงินบาทในปีหน้า มีโอกาสที่จะอ่อนค่าตามค่าเงินเยนของญี่ปุ่น และค่าเงินยูโร ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ โดยค่ากลางของประมาณการณ์ค่าเงินบาทของไทยในปี 2558 อยู่ที่ 34.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และจะเคลื่อนไหวบวกลบราว 0.73 สตางค์ จากค่ากลาง ส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจจะเห็นการปรับเพิ่มขึ้นในช่วงกลางปีหน้าเป็นต้นไปราว 0.50%
นายศิวัสน์ เหลืองสมบูรณ์ ผู้จัดการฝ่ายการลงทุนภูมิภาค 2 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวในงามสัมมนา “แนวโน้มเศรษฐกิจปี 2558 ปีมะแมจะเฮงหรือไม่” ว่า การส่งสัญญาณรอบล่าสุดของกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่มีเสียงแตกว่าควรจะลดดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ กอรปกับการเปิดเผยของผู้ว่าการธนาคารประเทศไทย(ธปท.) ที่ระบุว่าพร้อมใช้ดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจหากอยู่ในภาวะที่เหมาะสม ทำให้ต้องติดตามการประชุมในครั้งต่อไปของกนง.ว่าจะเป็นอย่างไร แต่ศูนย์วิจัยฯยังประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะยังคงที่ระดับ 2% ไปจนถึงสิ้นปี แต่โอกาสที่จะมีการปรับลด หากกนง.มองว่าเหมาะสมก็อาจจะเห็นการปรับลดลง 0.25% แต่ในปีหน้าทิศทางดอกเบี้ยยังเป็นภาวะขาขึ้นตามทิศทางของเฟด
นางสาวกิริฏา เภาพิจิตร นักเศรษฐกรอาวุโสประจำประเทศไทย ธนาคารโลก กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปีหน้าคาดว่าจะเติบโตได้ดีกว่าปีนี้ ตามการลงทุนของภาครัฐที่จะสามารถเข้ามาช่วยการลงทุนของภาคเอกชน และทิศทางของการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยรวมธนาคารโลกประเมินการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2558 ไว้ที่ 3.5%
ข่าวเด่น