"กรุงศรี"ใช้ประโยชน์เครือข่ายทั่วโลก หลังเป็นหนึ่งในเครือ MUFG รุกธุรกิจ โกลบอลมาร์เก็ต เตรียมชิงเค้กนักลงทุนญี่ปุ่นปีหน้า
นายตรรก บุนนาค ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านบริหารการเงิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยาจำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายหลังจากการเข้ามาถือหุ้นในธนาคารของ มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่สุดในญี่ปุ่นและระดับโลก เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ธนาคารในฐานะที่เป็นบริษัทในเครือของMUFG มีขีดความสามารถและศักยภาพสู่ระดับสากล โดยธนาคารจะใช้ประโยชน์จากเครือข่ายที่มีกว่า 40 ประเทศมายกระดับกลุ่มธุรกิจบริการเงินสู่กลุ่มธุรกิจโกลบอล มาร์เก็ต (Grobal Markets) ที่จะมีผลตั้งแต่ต้นปี 2558
โดยธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตจะนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการตลาดการเงินแบบเบ็ดเสร็จ ที่จะเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่มทั้งบริษัทธุรกิจขนาดใหญ่ที่เป็นบริษัทญี่ปุ่น กลุ่มบรรษัทข้ามชาติ โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทญี่ปุ่นที่เมื่อรวมกับสาขาของ MUFG ในกรุงเทพ ทำให้สัดส่วนกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ของธนาคารเพิ่มขึ้น โดยส่งผลให้ธนาคารมีลูกค้าบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทยมากกว่าครึ่งของบริษัทญี่ปุ่นที่ทำธุรกิจในประเทศไทย และจะเป็นโอกาสสำคัญในปีหน้าที่คาดว่าจะมีเม็ดเงินจากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ต มี 4 ด้านที่สำคัญ คือ ธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ และธุรกรรมตราสารอนุพันธ์ ในสัดส่วนประมาณ 60% ของธุรกรรมในธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ต รองลงมา คือ ธุรกรรมการบริหารและการจัดการความเสี่ยงที่มีสัดส่วน 30 % และด้านการลงทุนสัดส่วน 10% ซึ่งส่วนแบ่งตลาดของธนาคารในปัจจุบันของธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตเพิ่มขึ้นตามสินทรัพย์ที่มากขึ้น โดยปัจจุบันยังอยู่ในอันดับ 5 ของระบบธนาคารในประเทศ แต่เป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มธนาคารต่างชาติ
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มของตลาดเงินในปีหน้า ทิศทางค่าเงินยังมีความผันผวนตามทิศทางค่าเงินของยุโรปและญี่ปุ่น ที่จะส่งผลต่อทิศทางค่าเงินบาท ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ประกอบการต้องหาเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ขณะที่แนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกโดยเฉพาะสหรัฐที่มีสัญญาณเป็นทิศทางขาขึ้นในปีหน้า ทำให้ภาคเอกชนเริ่มหาเครื่องมือในการช่วยลดความเสี่ยง จากการปรับจากต้นทุนดอกเบี้ยที่เคยเป็นแบบลอยตัวมาเป็นแบบคงที่เพื่อลดความเสี่ยงบ้างแล้ว
ข่าวเด่น