"กรุงเทพประกันภัย" ประกาศปีหน้าลุยตลาดลูกค้ารายย่อย เปิดสาขา่เพิ่มอีก 3-4 แห่ง พร้อมนำร่องนำเสนอสินค้าบริการใหม่ "ติดกล่องด"ำรถลูกค้า ตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่ ขับเร็ว ขับช้า ขับออกนอกเส้นทาง รายงานละเอียดยิบ พร้อมป้องกันรถหาย เตรียมเงิน 300 ล้านบาท ลุยช้อนหุ้นถูกในตลาด โฟกัสกลุ่มพลังงาน
.jpg)
นายพนัส ธีรวณิชย์กุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทกรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนงานในปี 2558 ว่าจะมุ่งเน้นตลาดลูกค้ารายย่อยมากขึ้น ทั้งประกันรถยนต์ ประกันอัคคีภัย และสินเชื่อ เนื่องจากมองว่าตลาดยังขยายตัวได้อีกมาก โดยมีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มเติมอีก 3-4 แห่ง จากปัจจุบันมีทั้งสิ้น 31 สาขาทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าเบี้ยรับรวมไว้ที่ 18,200 ล้านบาท หรือขยายตัวเพิ่มขึ้น 10-12% จากปี 2557 ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทำให้ ยอดขายรถยนต์ลดลง
“อย่างไรก็ตาม แม้บริษัทจะรุกตลาดรายย่อย แต่เราก็ไม่ทิ้งรายใหญ่ เพราะปีหน้ามีเมกะโปรเจ็กต์เกิดขึ้น เราจึงต้องทำควบคู่กันไป แต่ต้องบริหารจัดการความเสี่ยงให้เหมาะสม ซึ่งปีหน้าคงต้องกลับมาดูเรื่องภัยธรรมชาติอย่างจริงจัง โดยเฉพาะเรื่องภ้ัยแผ่นดินไหว ที่ขณะนี้ประเทศไทยเกิดแผ่นดินไหวขึ้นเป็นระยะๆ ทางภาคเหนือ”กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทกรุงเทพประกันภัยกล่าว
นายพนัสกล่าวต่อไปว่า สำหรับในปีหน้า บริษัทได้เตรียมที่จะบุกเบิกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะนำมาใช้ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก คือ การติดตั้งกล่องดำในรถยนต์ของลูกค้าที่ทำประกันไว้กับบริษัทกรุงเทพประกันภัย โดยกล่องดำดังกล่าวจะเป็นเสมือนอุปกรณ์ที่ติดตามรถไม่ว่ารถยนต์คันนี้จะไปอยูที่ไหนก็จะทราบ ซึ่งจะช่วยป้องกันรถหายได้อีกทาง รวมทั้งกล่องดำดังกล่าวจะเป็นเสมือนอุปกรณ์ที่ติดตามพฤติกรรมการขับรถ ขับเร็ว-ขับช้า-ขับรถออกนอกเส้นทางที่กำหนดรึเปล่า กล่องดำนี้จะรายงานให้เจ้าของรถได้ทราบตลอด โดยจะเชื่อมต่อสัญญาณ GPS และ GSM รายงานไปยังพ่อแม่ผู้ปกครองหรือนายจ้าง
"เบื้องต้นคาดว่าจะมีลูกค้าติดตั้งอุปกรณ์นี้ประมาณ 1 หมื่นคน โดยระยะที่เพิ่งทำการทดลองตลาดจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มใดๆ แต่หลังจากนั้นอาจจะมีการนำมาคิดคำนวณค่าเบี้ยในปีต่อไป ซึ่งมองว่าอุปกรณ์ดังกล่าวนี้จะช่วยลดอัตราการสูญเสียหรือการจ่ายสินไหมทดแทนลงไปได้ประมาณ 10-15% รวมทั้งยังช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้อีกทางหนึ่ง"นายพนัสกล่าว
นายพนัสกล่าวอีกว่า สิ่งที่ต้องระมัดระวังในปีหน้าสำหรับธุรกิจประกันภัย คือ การตัดราคาของธุรกิจประกันภัย ซึ่งในปีหน้าน่าจะเห็นการแข่งขันในด้านราคาที่จะมีการต่อสู้กันอย่างดุเดือด และช่วงชิงมาร์เก็ตแชร์กันด้วยการโคลท์ราคากรมธรรม์ประกันภัยที่ต่ำลง ซึ่่งน่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ใกล้เคียงก่อนเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมกรุงเทพครั้งใหญ่เมื่อสามปีที่ผ่านมา

นายพนัส กล่าวว่า ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปีนี้ มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 11,430 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลง 0.4% มีผลกำไรสุทธิจากการรับประกันภัยหลังหักค่าใช้จ่าย 1,259.3 เพิ่มขึ้น 90.5% รายได้สุทธิจากการลงทุน 1,004.3 ล้านบาท ลดลง 12.5% หักเงินสมทบฯและต้นทุนทางการเงิน 57 ล้านบาท ทำให้มีกำไรก่อนจ่ายภาษี 2,206.6 ล้านบาท และเมื่อหักค่าภาษีเหลือกำไรสุทธิ 1,902.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.8% กำไรต่อหุ้น 17.87 บาท
(1).jpg)
ด้าน นายชัย โสภณพนิช ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันภัย กล่าวว่า ผลตอบแทนจากการลงทุนปีนี้ น่าจะอยู่ที่ระดับ 4.8-4.9% โดยบริษัทได้เตรียมวงเงินลงทุนเพิ่มเข้าลงทุนในหลักทรัพย์ไทยช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้ที่ 200-300 ล้านบาท เนื่องจากตลาดหุ้นไทยช่วงนี้มีการปรับตัวลงมาบ่อยครั้ง ซึ่งถือเป็นจังหวะดีในการเข้าลงทุน
ทั้งนี้หุ้นในกลุ่มพลังงานถือเป็นหุ้นที่น่าสนใจสุด เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกมีการปรับตัวลงมามาก อย่างไรก็ตาม หลักทรัพย์กลุ่มอื่นบริษัทจะเน้นในเรื่องราคาเป็นหลัก หากมีการปรับตัวลงมามากก็จะหาจังหวะเข้าลงทุนเช่นกัน
"แผนการลงทุนของบริษัทในปีหน้าจะเน้นการกระจายการลงทุน โดยไม่ได้วางเป้าหมายการลงทุนใดลงทุนหนึ่ง แต่จะดูเรื่องราคาและผลตอบแทนเป็นหลัก ส่วนทิศทางการลงทุนของตลาดหุ้นไทยช่วงปีหน้า เชื่อว่า สามารถเติบโตต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจไทยที่คาดว่าจะขยายตัวดีขึ้น".
ข่าวเด่น