การตลาด
สกู๊ป "ซีพีเอ็น" ทุ่ม 1.5 แสนล้าน ผุดศูนย์การค้าใหม่ 26 สาขา ใน 10 ปี


     

ตลอดระยะเวลา 34  ปี ที่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น ได้ก้าวเข้ามาอยู่ในธุรกิจศูนย์การค้า ได้มีการพัฒนาศูนย์การค้ารูปแบบต่างๆ เปิดให้บริการอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และน้องใหม่ที่กำลังจะเปิดให้บริการในปีหน้า คือ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวสต์เกต 

ปัจจุบัน ซีพีเอ็น มีศูนย์การค้าในเครือเปิดให้บริการทั่วประเทศรวม 25 สาขา ซึ่งจากจำนวนสาขาที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ส่งผลให้มีพื้นที่ค้าปลีกรวมกันในขณะนี้อยู่ที่กว่า 5 ล้านตร.ม. ถึงแม้ว่าปัจจุบัน ซีพีเอ็น จะเป็นบริษัทที่มีสาขาศูนย์การค้ามากที่สุดในประเทศไทย แต่ธุรกิจก็ยังคงต้องเดินหน้าต่อไปเมื่อมีโอกาส ประกอบกับประเทศไทยยังมีศักยภาพให้เปิดศูนย์การค้าขนาดใหญ่ได้อีกมาก
 

 
 
ด้วยเหตุนี้ ซีพีเอ็น จึงเล็งเห็นโอกาสแย้มแผนที่จะเปิดศูนย์การค้าใหม่ในประเทศไทยอีกไม่ต่ำกว่า 20 ศูนย์การค้าทั่วประเทศในอีก 10 ปีนับจากนี้ (2558-2567) ภายใต้งบลงทุนเฉลี่ยต่อปีที่ประมาณ 15,000-16,000 ล้านบาท  สำหรับการเปิดศูนย์การค้าเฉลี่ย 3 แห่งต่อปี ซึ่งหากนำงบประมาณที่ ซีพีเอ็น วางแผนเฉลี่ยไว้จะส่งผลให้ต้องใช้งบลงทุนสะสมสูงถึงกว่า 1 แสนล้านบาท

หนึ่งในจำนวน 20 สาขาดังกล่าวที่ ซีพีเอ็น ประกาศออกมา 10  สาขา มีความเป็นไปได้ที่จะเปิดให้บริการศูนย์การค้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล  ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 10 สาขา จะเน้นเปิดให้บริการในหัวเมืองใหญ่และหัวเมืองรองที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะหัวเมืองที่อยู่ใกล้ชายแดนของประเทศไทย เพราะจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปลายปี 2558 จะส่งผลให้เศรษฐกิจชายแดนมีความคึกคักมากขึ้น
 
 
 
 
อย่างไรก็ดี  ก่อนที่จะถึงช่วงเวลาดังกล่าว ในส่วนของ 3 ปีแรก นับจากปี 2558 -2560 ซีพีเอ็นได้ออกมาประกาศศูนย์การค้าน้องใหม่ที่จะทยอยเปิดให้บริการไปแล้วจำนวน 6 ศูนย์การค้า ประกอบด้วย ศูนย์การค้าเซ้นทรัลเวสต์เกต ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ระยอง  ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสท์ วิลล์  ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่านครศรีธรรมราช  ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า นครราชสีมา และ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต

นอกจากนี้ ยังได้ออกมาประกาศพลิกโฉมใหม่ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ปิ่นเกล้า และศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า บางนา  ด้วยการปรับปรุงตัวศูนย์การค้าและบริการ  เพื่อสร้างความแตกต่างและเพิ่มมูลค่าให้ประเทศไทยโดดเด่นที่สุดในสมรภูมิค้าปลีกระดับภูมิภาค ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้ ซีพีเอ็น เป็นผู้นำธุรกิจที่มีศูนย์การค้าครอบคลุมมากที่สุดในทุกจุดยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศรวม 31 ศูนย์การค้า มีพื้นที่รวมกว่า 7 ล้านตร.ม.ในอีก 3 ปีนับจากนี้  และหากนำมูลค่าการลงทุนของศูนย์การค้าใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีก 10 ปี จะทำให้ ซีพีเอ็น ใช้งบลงทุนศูนย์การค้าสูงถึงกว่า 1.5  แสนล้านบาท
 

 
 
 
นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลอด 34 ปีที่ผ่านมา ซีพีเอ็นได้พัฒนารากฐานธุรกิจค้าปลีกให้มีมาตรฐานระดับโลก สร้างประสบการณ์และไลฟ์สไตล์ใหม่ให้เกิดขึ้นต่อเนื่อง เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศ โดยจะเข้าไปบุกเบิกช่วงชิงทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดก่อนใคร และพัฒนาให้เป็นย่านที่มีความเติบโตทางเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ การก้าวเข้าสู่เออีซี จะเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่จะเอื้อต่อธุรกิจค้าปลีกอย่างมหาศาล ก้าวต่อไปของ ซีพีเอ็น จะเป็นการนำพาประเทศไทยให้ผงาดอย่างยิ่งใหญ่ในวงการค้าปลีกระดับภูมิภาค ด้วยการสร้างแลนด์มาร์ค  ช้อปปิ้ง เดสติเนชัน ระดับโลก นำประเทศไทยสู่จุดหมายการเป็น ASEAN Regional Shopping Hub ในฐานะ “แหล่งรวมสุดยอดประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งที่ดีที่สุดของอาเซียน” ให้ประเทศไทยเป็น “สวรรค์แห่งการช้อปปิ้ง” ของทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลก

จากความเชี่ยวชาญในธุรกิจค้าปลีก โครงการทั้งหมดที่ ซีพีเอ็น ประกาศออกมาถือเป็นการย้ำความยิ่งใหญ่ของ ซีพีเอ็น ในฐานะผู้นำตลาดศูนย์การค้า และช่วยสร้างการเติบโตให้กับจีดีพีของประเทศ ผ่านการสร้างความเจริญให้ชุมชน สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างมูลค่าเพิ่มในแง่การลงทุนต่อเนื่อง

นายปรีชา กล่าวต่อว่า ทั้ง 8 โครงการที่ ซีพีเอ็น จะทยอยเปิดให้บริการในอีก 3 ปีนับจากนี้  แต่ละโครงการมีความโดเด่นที่แตกต่างกันไป โดยในส่วนของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวสท์เกต จะเป็นต้นแบบ “ซูเปอร์รีจินัล มอลล์” ที่ดีที่สุดในเอเชีย พลิกทุกประวัติศาสตร์ที่เคยมีมาของวงการรีเทล มีมูลค่าการลงทุนกว่า 14,000 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 500,000 ตร.ม. ยกระดับบางใหญ่ ให้กลายเป็น New CBD และ “ศูนย์กลางการคมนาคมที่ครบครัน” ในอนาคต  เพื่อรองรับ AEC

ขณะที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ระยอง จะเป็นศูนย์การค้าที่ยิ่งใหญ่และทันสมัยที่สุดของภาคตะวันออก ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 200,000 ตรม.ด้วยศักยภาพของจังหวัดศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศและเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศหลังจากเปิด AEC  ส่วนศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสท์ วิลล์ จะเป็นไลฟ์สไตล์มอลล์ครบวงจรแบบเอ้าท์ดอร์แห่งแรกของไทย ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 6,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 150,000 ตรม. ที่นี่จะเป็นศูนย์การค้าที่ผสมผสานไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยและธรรมชาติเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัวบนทำเลศักยภาพย่านถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา

 
 
 
สำหรับศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า นครศรีธรรมราช จะเป็นไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ที่สมบูรณ์แบบที่สุดของจังหวัด ด้วยงบลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 120,000 ตรม. บนทำเลยุทธศาสตร์ของภาคใต้เนื่องจากเป็น Logistic Hub ของภาคใต้ รับสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย ส่วนศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า นครราชสีมา จะไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์แห่งแรกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มูลค่าการลงทุนกว่า 9,300 ล้านบาท บนพื้นที่ 250,000 ตรม. ที่นี่จะเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของอีสาน

ปิดท้ายด้วยศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต โครงการนี้เปรียบเสมือนการสร้างอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ของ กลุ่มเซ็นทรัล โดยรวม 3 โครงการ 3 คอนเซ็ปต์ที่แตกต่างไว้อย่างลงตัว บนทำเลที่ดีที่สุดของภูเก็ต มีมูลค่าการลงทุน 12,700 ล้านบาท บนพื้นที่โครงการ 300,000 ตรม.ที่นี่จะเป็นแหล่งรวมแบรนด์หรูระดับเวิลด์คลาส และเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่ใหญ่และดีที่สุดของเกาะภูเก็ต ที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้มาสัมผัสประสบการณ์ช้อปปิ้งเหนือระดับ

ส่วน 2  ศูนย์การค้าที่ ซีพีเอ็น จะพลิกโฉมใหม่ เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มนั้น ในส่วนของศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ปิ่นเกล้า จะใช้บลงทุน 2,300 ล้านบาท ขณะที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า บางนา จะใช้งบลงทุน 1,200 ล้านบาท

หลังจากออกมาประกาศยุทธศาสตร์ดังกล่าว ซีพีเอ็นคาดว่านับตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นไป ภาพรวมผลประกอบการน่าจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% ขณะที่ภาพรวมผลประกอบการสิ้นปีนี้  ซีพีเอ็น มั่นใจว่าจะมีอัตราการเติบโตมากกว่า 15% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ไว้ว่าจะเติบโตได้ที่ 15% เนื่องจากมีศูนย์การค้าใหม่เพิ่มขึ้น และมีการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ ซีพีเอ็น สามารถก้าวผ่านปัจจัยลบช่วงครึ่งปีแรกที่ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจชะงักไปเป็นที่น่าพอใจ 
 

บันทึกโดย : วันที่ : 20 พ.ย. 2557 เวลา : 14:04:00
25-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 25, 2024, 8:47 am