เหลืออีกเพียง 1 เดือนกว่าๆ ก็จะก้าวเข้าสู่ปี 2558 เหล่าบรรดาผู้ประกอบการห้างค้าปลีกก็ต่างออกมาใช้งบตกแต่งศูนย์การค้า และบริเวณโดยรอบให้มีความสวยงาม เพื่อกระตุ้นอารมณ์การจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค เพราะเหลือเวลาอีกเพียงกว่า 1 เดือนเท่านั้นที่จะโกยยอดขาย เพื่อให้ใกล้เคียงเป้าหมายที่วางไว้ให้ได้มากที่สุด
แต่ที่เห็นจะมีความคึกคักมากที่สุดก็น่าจะหนีไม่พ้นห้างค้าปลีกใจกลางกรุง เนื่องจากปีนี้มีศูนย์การค้าใหม่เกิดขึ้นในย่านเพลินจิต จึงทำให้ภาพรวมบรรยากาศของห้างค้าปลีกใจกลางกรุงนับตั้งแต่แยกปทุมวันต่อเนื่องถึงแยกเพลินจิตมีความคึกครั้งมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา
เริ่มต้นกันด้วยแยกปทุมวัน ปีนี้ผู้ประกอบการห้างค้าปลีกก็เริ่มออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายกันตั้งแต่เดือน ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ที่เห็นจะสร้างความฮือฮาและคึกคัก ก็น่าจะเป็นตัวศูนย์การค้าสยามพารากอน เนื่องจากปีนี้บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จัดเต็ม ด้วยการใช้งบรวม 700 ล้านบาท ในการทำกิจกรรมการตลาด และตกแต่งสถานที่ของศูนย์การค้าทั้ง 3 แบรนด์ คือ เดอะมอลล์ ดิ เอ็มโพเรียม และสยามพารากอน ให้มีความคึกคักสวยงามน่าช้อปปิ้ง
สำหรับกิจกรรมที่จะจัดขึ้นในพารากอน ดีพาร์เม้นต์สโตร์ คือ กิจกรรม Wonder Luxeland บรรยากาศความสุข สนุกสนาน ที่หรูหรา อลังการ รับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ เน้นการตกแต่งโทนสีเงิน ที่ดูหรูหรา สง่างาม เพื่อสร้างสีสันภายในศูนย์การค้า พร้อมแจกของขวัญให้กับลูกค้า ในวันที่ 19,25,27,28 ธันวาคม และวันปีใหม่ 1 ม.ค. 2558
นอกจากนี้ ดิจิตอล ซานตาครอส ยังจะสร้างเซอร์ไพรส์และมอบของขวัญให้ลูกค้าทุกวัน และของขวัญพิเศษสำหรับลูกค้า M Card ที่ช้อบครบ 5,000 บาท ในวันศุกร์ บริเวณ ชั้น G ,Gift Catalog พิเศษสำหรับลูกค้าที่มาช้อปปิ้งที่พารากอน ดีพาร์ทเม้นต์สโตร์ ,luxe for Platinum ลูกค้าบัตร Platinum ที่ช้อบครบ 10,000 บาท รับฟรีชา Fauchon ต้นตำหรับจากฝรั่งเศส และเพิ่มบรรยากาศการช้อปด้วย ถุงช้อปปิ้ง และกระดาษห่อของขวัญ สีเงินหรูหรา สร้างมู้ดในการช้อปปิ้งที่พารากอน
นายชำนาญ เมธปรีชากุล รองกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า จากนโยบายการตลาดที่เข้มข้นใน 2 เดือนสุดท้ายนี้ คาดว่าจะส่งผลให้สามารถปิดยอดขายสิ้นปี 2557 ได้ตามเป้าหมาย 50,000 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่ผ่านมา 2 %
ขยับมาที่ศูนย์การค้าย่านแยกราชประสงค์ต่อเนื่องถึงแยกเพลินจิต ซึ่งมีกลุ่มเซ็นทรัล เป็นหัวเรือใหญ่ เนื่องจากมีศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าเปิดอยู่ทุกแยกสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นแยกราชประสงค์ มีศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์เปิดให้บริการ แยกชิดลมก็มีห้างเซ็นทรัลเปิดให้บริการ ขณะที่แยกเพลินจิตก็มีห้างเซ็นทรัลเอ็มบาสซีเปิดให้บริการ
ด้วยเหตุนี้ กลุ่มเซ็นทรัลจึงขอใช้งบกว่า 1,000 ล้านบาท ในการตกแต่งสถานที่และจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นอารมณ์การจับจ่ายใช้สอยของกลุ่มลูกค้าชาวไทยและต่างชาติที่เดินหน้าเข้ามาในย่านราชประสงค์ต่อเนื่องชิดลมและเพลินจิต
ให้เข้ามาซื้อสินค้าภายในห้างค้าปลีกในเครือเพิ่มขึ้น
นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูนสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษีท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้จับมือกับห้างค้าปลีกในเครือ ประกอบด้วย ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ห้างสรรพสินค้าเซน ห้างเซ็นทรัล ชิดลม และศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี เพื่อร่วมกันทำกิจกรรมทางการตลาดส่งท้ายปี 2557 ภายใต้งบกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะเน้นไปในเรื่องของการตกแต่งสถานที่และจัดกิจกรรมตั้งแต่แยกราชประสงค์ต่อเนื่องไปจนถึงแยกเพลินจิต เพื่อกระตุ้นอารมณ์การจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค
สำหรับแคมเปญไฮไลท์ที่จะจัดขึ้นในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ คือ เซ็นทรัล เซเลเบรชั่น อิน บางกอก ซึ่งจะจัดขึ้นภายใต้แนวคิด ยูนิเวิร์ส ออฟ แฮปปี้เนส เน้นไปที่ความสนุกสนาน นอกจากนี้ยังมีแคมเปญมิดไนท์ เซลล์ และงานเคาน์ดาวน์ อะ ลอง คิส กรู๊ฟ ไนท์ บาย เอเม็ก ซึ่งหลังจากบริษัทออกมาจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะมีลูกค้าและนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการภายในย่านราชประสงค์ถึงเพลินจิตไม่ต่ำกว่า 3 แสนคน เมื่อเทียบกับช่วงปกติที่จะมีลูกค้าและนักท่องเที่ยวเข้ามาในย่านที่ประมาณ 2 แสนคน
น.ส.ณัฐธีรา บุญศรี กรรมการผู้จัดการ ห้างสรรพสินค้าเซน กล่าวว่า ภาพรวมกำลังซื้อของผู้บริโภคในขณะนี้เริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้คาดการณ์ว่าภาพรวมยอดขายในช่วงไตรมาส 4 นี้ น่าจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% เมื่อเทียบกับไตรมาสอื่น แต่อย่างไรก็ตามจากปัจจัยลบทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 1 และ 2 ของปีนี้ทำให้บริษัทต้องปรับเป้าหมายรายได้เติบโตจากตัวเลข 2 หลัก เป็น 1 หลัก
น.ส.ปิยวรรณ ลีละสมภาพ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล กล่าวว่า แนวโน้มการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกในปีหน้า คาดว่าจะมีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากแต่ละรายต้องการรักษาส่วนแบ่งการตลาดของตัวเอง ภายหลังจากมีศูนย์การค้าใหม่เกิดขึ้น ซึ่งในส่วนของบริษัท กลยุทธ์ที่จะนำมาใช้คาดว่าจะเน้นไปในด้านของการจัดกิจกรรมการตลาดร่วมกับห้างค้าปลีกในเครือ
นายบรม พิจารณ์จิตร กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี กล่าวว่า ในส่วนของศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ้มบาสซี จะใช้งบ 250 ล้านบาท ในการทำตลาดลักชัวรี่รีเทลโค้งสุดท้าย ภายใต้งาน SIWILAI presents Le Cabinet De Curiosites of Thomas Erber 2014 at Central Embassy” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 พ.ย.-21 ธ.ค. 57 ถือเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นในประเทศไทย หลังจากเคยจัดมาแล้วที่ประเทศฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา
กิจกรรมดังกล่าวแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ นิทรรศการผลงานแฟชั่น เครื่องประดับ สินค้าไลฟ์สไตล์ ศิลปะ เป็นต้น ซึ่งเป็นสินค้าลิมิเต็ดจำนวนจำกัด ผลิตจากศิลปินทั่วโลกทั้งในไทยและต่างประเทศ และมีจำนวนมากกว่า 70 ชิ้น 2.ดนตรี จากการแสดงของศิลปินระดับโลกหลายราย อาทิ เดอะ คูลคิดส์ จากสหรัฐอเมริกา 3. อาหาร จากฝีมือของสุดยอดเชฟหลายราย อาทิ เชฟแบร์ทร็อง เกรอโบต์ เชฟอนา รอส
ด้าน น.ส.ณัฏฐพร ชีวมงคล ในฐานะตัวแทนสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) กล่าวว่า ย่านราชประสงค์ เป็นศูนย์กลางแห่งไลฟ์สไตล์ เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากกว่า 500,000 คนต่อวัน โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาได้ร่วมกับทางสมาชิกและพันธมิตรในการจัดกิจกรรมตอบรับไลฟ์สไตล์นักท่องเที่ยวอย่างสม่ำเสมอ
ล่าสุด ได้ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) วีซ่า และศูนย์การค้าชั้นนำภายในย่านราชประสงค์ จัดแคมเปญ ‘ราชประสงค์ วินเทอร์ เซล 2014’ ภายใต้แคมเปญ ไทยแลนด์ สเปคทาคูลาร์ เยียร์ เอนด์ ซึ่งได้มีการรวบรวมสินค้าและบริการมากกว่า 100,000 รายการ มาร่วมมอบส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 80% รวมไปถึงการจัดคอร์สเมนูพิเศษ ทั้งมื้อกลางวัน มื้อค่ำ และบุฟเฟ่ต์ จากห้องอาหารโรงแรมชั้นนำภายในย่านนี้
กลยุทธ์ที่แต่ละผู้ประกอบการงัดมากระตุ้นมู้ดของผู้บริโภคในครั้งนี้ น่าจะช่วยทำให้ใจกลางกรุงเทพฯ มีความคึกคักมากพอสมควร แต่จะช่วยกระตุ้นยอดขายได้เท่าไหร่นั้น คงต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้บริโภค จะยอมควักเงินออกจากกระเป๋าตามสิ่งยั่วยวนของผู้ประกอบการค้าปลีกหรือไม่
ข่าวเด่น