แบงก์-นอนแบงก์
"ออมสิน"เผยผลการดำเนินงาน 10 เดือน ปี 57 กำไรสุทธิ 16,863 ล้านบาท มุ่งภารกิจขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก แก้ไขหนี้นอกระบบ


ธนาคารออมสิน เผยผลประกอบการ 10 เดือนปี 2557 กำไรสุทธิ 16,863 ล้านบาท จากการขยายตัวของเงินให้สินเชื่อ การติดตามและปรับปรุงคุณภาพหนี้ ทำให้มีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 988 ล้านบาท ส่งผลสินเชื่อรวมกว่า 1.81 ล้านล้านบาท เงินฝากใกล้แตะ 2 ล้านล้านบาท พร้อมกระตุ้นการออมต่อเนื่อง ผ่านผลิตภัณฑ์หลากหลาย ย้ำภารกิจขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาล และแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ


 
 
ดร.ธัชพล กาญจนกูล รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส รักษาการแทนผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยผลประกอบการธนาคารออมสินในช่วง 10 เดือน ปี 2557 (1 มกราคม – 31 ตุลาคม 2557) ว่า มีกำไรสุทธิหลังหักโบนัสจำนวน 16,863 ล้านบาท ส่วนสำคัญมาจากรายได้ดอกเบี้ยจากการขยายตัวของสินเชื่อ รวมทั้งความสำเร็จในการบริหารสินทรัพย์และหนี้สินอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการติดตามและปรับปรุงคุณภาพหนี้  ให้ดีขึ้น ส่งผลให้ 10 เดือนแรกของปี 2557 มีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 46,407 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 988 ล้านบาท โดย ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2557 มีเงินให้สินเชื่อ 1,807,890 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 145,880 ล้านบาท

สำหรับการขยายตัวของสินเชื่อในปีนี้เพิ่มขึ้น 129,581 ล้านบาท สูงกว่าแผนงานของธนาคาร ที่ตั้งเป้าหมายไว้ 75,000 ล้านบาท หรือสูงกว่าแผน 171.63% โดยมาจากการปล่อยสินเชื่อที่เป็นไปตามนโยบายเพื่อสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยเฉพาะสินเชื่อแก่กลุ่มเศรษฐกิจฐานราก สินเชื่อกลุ่มลูกค้ารายย่อย สินเชื่อเพื่อธุรกิจSMEs ตลอดจนสินเชื่อแก่หน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ สินเชื่อ   บุคคลรายย่อย สินเชื่อเคหะ โดยที่ธนาคารฯ ยังดำรงสัดส่วนสินเชื่อรายย่อยต่อสินเชื่อรายใหญ่อยู่ที่ร้อยละ 93 : 7 ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2557 ธนาคารฯ มีสินทรัพย์รวม 2,232,336 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2556 จำนวน 55,435 ล้านบาท
 
ขณะที่การรับฝากเงิน ภายใต้ภารกิจความเป็นสถาบันเพื่อการออมของธนาคารออมสิน ปรากฏว่า  มียอดเงินฝากรวม 1,919,261 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 168,311 ล้านบาท ส่วนมากเป็นเงินฝากประจำ 3 เดือน เงินฝากประจำ 12 เดือน เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 11 เดือน และสลากออมสินพิเศษ โดยปริมาณเงินฝากยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจนถึงช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งธนาคารยังคงออกผลิตภัณฑ์เงินฝากใหม่เพื่อส่งเสริมการออมต่อเนื่อง ได้แก่ “เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษเพิ่มสุข” อัตราดอกเบี้ยสูงสุด 5.5% ต่อปี “เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 5 เดือน” อัตราดอกเบี้ยจาก 2.20% ต่อปี “เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 11 เดือน” อัตราดอกเบี้ย 2.65% ต่อปี ซึ่งทั้ง 3 ประเภทนี้เป็นเงินฝากยกเว้นภาษีและเปิดรับฝากจนถึงสิ้นปี 2557
 
นอกจากนี้ยังมี “เงินฝากสงเคราะห์ชีวิตและครอบครัว 85/55 และ 85/1” เพื่อกระตุ้นการออมควบคู่กับความคุ้มครองชีวิตและใช้สิทธิ์นำไปหักลดหย่อนภาษีในช่วงเทศกาลลดหย่อนภาษีในช่วงปลายปี รวมถึงเงินฝากที่ผู้ฝากให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง คือ “สลากออมสินพิเศษ 3 ปี” ที่กำลังจะเปิดรับฝากงวดใหม่พร้อมแคมเปญแจกทองคำในเดือนธันวาคมนี้
 
“ในช่วงไตรมาส 3 จนถึงไตรมาส 4 มีปริมาณความต้องการสินเชื่อของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง รวมถึงสินเชื่อตามนโยบายของรัฐบาล เช่น โครงการรับจำนำข้าว โครงการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน โครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ สินเชื่อ SMEs สุขใจ เพื่อส่งเสริมธุรกิจSMEs โครงการสนับสนุนสินเชื่อผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ยาง ขณะที่สินเชื่อปกติในธุรกิจของธนาคารออมสิน ยังคงนำเสนอผลิตภัณฑ์ เงื่อนไข ที่น่าสนใจและตรงกับความต้องการของลูกค้า”ดร.ธัชพล กล่าว
 
สำหรับเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง รวมถึงเหตุพิบัติภัยในพื้นที่ต่างๆ ส่งผลให้ลูกค้าบางส่วนขาดความสามารถในการชำระหนี้ ธนาคารฯ จึงได้ผ่อนปรนด้วยมาตรการต่างๆ ได้แก่ มาตรการช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อรายย่อยจนถึงระดับ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ การเมือง ด้วยการลดเงินงวดผ่อนชำระเป็นเวลา 6 เดือน มาตรการบรรเทาเหตุแผ่นดินไหว พักชำระหนี้ลูกค้าเดิมไม่เกิน 6 เดือน ลดเงินงวด/ขยายเวลาผ่อนชำระ และให้กู้เพิ่มเติม มีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการกว่า 90,000 ราย เป็นผลให้การรับรู้รายได้ของธนาคารฯ ขยายตัวลดลงบ้าง และต้องบันทึกยอดหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ตามเกณฑ์ แต่ช่วยให้ลูกค้าสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความคล่องตัวขึ้น
 
อย่างไรก็ตาม จากมาตรการต่างๆ ที่ดำเนินการมาประกอบกับการทำงานอย่างหนักของผู้บริหารและพนักงานที่เกี่ยวข้อง ส่งผลให้อัตราส่วน NPLs ลดลงอย่างต่อเนื่องจนล่าสุด ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2557 อยู่ที่ 1.61% ของสินเชื่อรวม โดยคาดว่า ณ สิ้นปี 2557 จะลดลงเหลือเพียงร้อยละ 1.5% ของสินเชื่อรวม
 
ทั้งนี้ ธนาคารออมสิน ยังคงมุ่งให้ความสำคัญกับการบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างรัดกุมและผ่อนปรนตามความเหมาะสม พร้อมกับเน้นประสิทธิภาพในทุกกระบวนการตามมาตรการแก้ไขหนี้ ซึ่งการแก้ไขหนี้อย่างมีประสิทธิภาพดังกล่าว ธนาคารฯ ได้ดำเนินการควบคู่กับการปล่อยสินเชื่ออย่างเหมาะสมและรัดกุม ปริมาณหนี้ด้อยคุณภาพจึงทยอยปรับลดลง NPLs ลดลง สอดคล้องกับปริมาณสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นอย่างสมดุล
 
ดร.ธัชพล กล่าวต่อไปว่า ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2557 ธนาคารฯ มุ่งให้ความสำคัญต่อการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาหนี้ครัวเรือน ผ่านสินเชื่อที่ให้วงเงินกู้และเงื่อนที่ผ่อนคลายภายใต้เงื่อนไขที่รัดกุมเหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อโครงการธนาคารประชาชน สินเชื่อเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งจะเริ่มให้บริการในเดือนธันวาคม 2557 เป็นต้นไป รวมถึงสนับสนุนธุรกิจรายย่อย ด้วยสินเชื่อ SMEs สุขใจ เพื่อพัฒนาให้เป็นธุรกิจที่มีศักยภาพ เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ รวมถึงในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษตามนโยบายรัฐบาล
 
“เพื่อให้การดำเนินงานผ่านช่องทางทั้งหมดดังกล่าวมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจและสังคม อีกทั้งภายใต้ภารกิจของธนาคารออมสินในการมุ่งส่งเสริมการออม และสร้างวินัยทางการเงินในภาคประชาชน ตลอดจนการขยายธุรกรรมทางการเงินที่หลากหลายครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม พร้อมกับการทำหน้าที่เป็นแหล่งทุนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในระดับฐานราก รวมถึงรองรับความต้องการเข้าถึงแหล่งทุนตามนโยบายรัฐบาล ธนาคารออมสินจะมุ่งสู่วิสัยทัศน์ “เป็นผู้นำในการส่งเสริมการออม เพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน และเสริมสร้างความสุขของประชาชน”ดร.ธัชพล กล่าวในที่สุด.


 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 30 พ.ย. 2557 เวลา : 13:03:28
27-12-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 27, 2024, 11:30 am